สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือ กกต.
- สมัครโดยยื่นใบสมัครด้วยตนเอง
-
สมัครโดยยื่นใบสมัครด้วยตนเองพร้อมหนังสือแนะนำชื่อผู้สมัครจากองค์กร
ทั้งนี้ ผู้สมัครแต่ละคนมีสิทธิสมัครเพื่อเข้ารับเลือกได้เพียงกลุ่มเดียวและสมัครโดยวิธีการใดวิธีการหนึ่งเพียงวิธีการเดียว รวมทั้งมีสิทธิสมัครเพียงอำเภอเดียว สมัครแล้วจะถอนการสมัครไม่ได้ ซึ่งหากฝ่าฝืนจะต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 5 ปี
- กลุ่มการบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคง
- กลุ่มกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม
- กลุ่มการศึกษาและการสาธารณสุข
- กลุ่มอาชีพกสิกรรม ปลูกพืชล้มลุก ทำนา ทำสวน ทำไร่ ป่าไม้ ปศุสัตว์ ประมง
- กลุ่มพนักงานหรือลูกจ้างของบุคคลซึ่งมิใช่ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐ ผู้ใช้แรงงาน / อาชีพอิสระ
- กลุ่มผู้ประกอบอาชีพด้านสิ่งแวดล้อม ผังเมือง อสังหาริมทรัพย์และสาธารณูปโภค ทรัพยากรธรรมชาติ พลังงาน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การสื่อสาร การพัฒนานวัตกรรม
- กลุ่มผู้ประกอบกิจการขนาดกลางและขนาดย่อม ผู้ประกอบธุรกิจหรืออาชีพด้านการท่องเที่ยว
- กลุ่มสตรี ผู้สูงอายุ คนพิการหรือทุพพลภาพ กลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มอัตลักษณ์อื่น ประชาสังคม องค์กรสาธารณประโยชน์
- กลุ่มศิลปะ วัฒนธรรม ดนตรี การแสดงและบันเทิง นักกีฬา สื่อสารมวลชน ผู้สร้างวรรณกรรม
- กลุ่มอื่นๆ (ผู้มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามย่อมมีสิทธิสมัครในกลุ่มอื่นๆ)
- กลั่นกรองกฎหมาย ที่ผ่านการพิจารณาของ ส.ส.
- ตรวจสอบและควบคุม การบริหารราชการแผ่นดิน
- ให้ความเห็นชอบบุคคล ดำรงตำแหน่งในองค์กรตามรัฐธรรมนูญ
- มีสัญชาติไทยโดยการเกิด
- อายุไม่ต่ำกว่า 40 ปีในวันสมัครรับเลือก
- มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์หรือทำงานในด้านที่สมัครไม่น้อยกว่า 10 ปี หรือเป็นผู้มีลักษณะตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา
- เกิดในอำเภอที่สมัคร หรือมีชื่อหรือเคยมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านติดต่อกันไม่น้อยกว่า 2 ปีนับถึงวันสมัครรับเลือก หรือทำงานหรือเคยทำงานในอำเภอที่สมัครติดต่อกันไม่น้อยกว่า 2 ปีนับถึงวันสมัครรับเลือก หรือเคยศึกษาในสถานศึกษาตั้งอยู่ในอำเภอที่สมัครติดต่อกันไม่น้อยกว่า 2 ปีการศึกษา และ
- ต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กฎหมายกำหนด
- เป็นภิกษุ สามเณร นักพรต หรือนักบวช
- อยู่ในระหว่างเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งไม่ว่าคดีนั้นจะถึงที่สุดหรือไม่
- วิกลจริต หรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ
- ติดยาเสพติดให้โทษ
- เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต
- เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด
- อยู่ระหว่างถูกระงับสิทธิสมัครเป็นการชั่วคราวหรือถูกเพิกถอนสิทธิสมัคร
- ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล
- เคยได้รับโทษจำคุกโดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึง 10 ปีนับถึงวันเลือก เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
- เคยถูกสั่งให้พ้นจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจเพราะทุจริตต่อหน้าที่หรือถือว่ากระทำการทุจริตหรือประพฤติมิชอบในวงราชการ
- เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลอันถึงที่สุดให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะร่ำรวยผิดปกติหรือเคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุกเพราะกระทำผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
- เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการหรือต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม หรือกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กรหรือหน่วยงานของรัฐหรือความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญาความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน กฎหมายว่าด้วยยาเสพติดในความผิดฐานเป็นผู้ผลิต นำเข้า ส่งออก หรือผู้ค้า กฎหมายว่าด้วยการพนันในความผิดฐานเป็นเจ้ามือหรือเจ้าสำนัก กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในความผิดฐานฟอกเงิน
- เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำการอันเป็นการทุจริตในการเลือกตั้ง
- เป็นข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำนอกจากข้าราชการการเมือง
- เป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น
- เป็นสมาชิกวุฒิสภาหรือเคยเป็นสมาชิกวุฒิสภาและสิ้นสุดลงยังไม่เกิน 2 ปี
- เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจหรือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ
- เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญหรือผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ
- อยู่ในระหว่างต้องห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
- เคยพ้นจากตำแหน่งเพราะเหตุพิจารณา แปรญัติหรือกระทำด้วยประการใดๆที่มีผลให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา กรรมาธิการมีส่วนโดยตรงหรือทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่าย หรือเหตุเพราะพ้นจากหน้าที่เพราะต้องคำพิพากษาศาลฎีกาหรือศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองว่ามีความผิด
- เป็นหรือเคยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เว้นแต่ได้พ้นจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปีนับถึงวันสมัครรับเลือก
- เป็นสมาชิกพรรคการเมือง
- เป็นหรือเคยเป็นผู้ดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมือง เว้นแต่ได้พ้นจากการดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปีนับถึงวันสมัครรับเลือก
- เป็นหรือเคยเป็นรัฐมนตรี เว้นแต่ได้พ้นจากการเป็นรัฐมนตรีมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปีนับถึงวันสมัครรับเลือก
- เป็นบุพการี คู่สมรส หรือบุตรของผู้ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ข้าราชการการเมือง สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ผู้สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาในคราวเดียวกัน หรือผู้ดำรงตำแหน่งใดในศาลรัฐธรรมนูญหรือองค์กรอิสระ
- กกต. ดำเนินการจัดให้มีการเลือก ส.ว. จำนวน 200 คน แล้ว นำรายชื่อเสนอต่อ คสช. คัดเลือกจำนวน 50 คน
- คณะกรรมการสรรหา ส.ว. คัดเลือกบุคคลผู้มีความรู้ความสามารถที่เหมาะสมในอันจะเป็นประโยชน์แก่ การปฏิบัติหน้าที่ของวุฒิสภาและการปฏิรูปประเทศมีจำนวนไม่เกิน 400 คน แล้ว นำรายชื่อเสนอต่อ คสช. คัดเลือก จำนวน 194 คน
- ผู้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จำนวน 6 คน
- ผู้ช่วยเหลือการปฏิบัติงานระดับอำเภอ 15 คน ระดับจังหวัด 3-7 คน และระดับประเทศ 20 คน มีหน้าที่ ช่วยเหลือการปฏิบัติงานของผู้อำนวยการการเลือกในแต่ละระดับ
- คณะกรรมการประจำสถานที่เลือก ระดับอำเภอและระดับจังหวัด มีจำนวนแห่งละ 20 คนต่อสถานที่เลือก ส่วนระดับประเทศ จะมีจำนวน 100 คน มีหน้าที่ ดำเนินการลงคะแนนและนับคะแนน
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ระดับอำเภอและระดับจังหวัด มีจำนวนแห่งละ 4 คนต่อสถานที่เลือก ส่วนระดับประเทศจะมีจำนวน 20 คน มีหน้าที่ รักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยภายในบริเวณสถานที่เลือก
- เจ้าหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยระดับอำเภอ 5 คน ระดับจังหวัด 10 คน และระดับประเทศ 20 คน มีหน้าที่ รักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยบริเวณโดยรอบสถานที่เลือก
- การลงคะแนน เมื่อผู้สมัครมาครบหรือทันเวลาที่กำหนดแล้ว ให้รวมอยู่ในกลุ่มและวิธีการสมัครเดียวกัน เพื่อทำการลงคะแนน โดยการแสดงตนพร้อมบัตรประจำตัวประชาชนและลงลายชื่อในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือก ลงลายมือชื่อที่ต้นขั้วบัตรลงคะแนน แล้วรับบัตรลงคะแนน เพื่อนำไปลงคะแนนในคูหาโดยการ “เขียนหมายเลข” ผู้สมัครด้วยตัวเลขอารบิคในช่องเขียนหมายเลข ซึ่งผู้สมัครทุกคนมีสิทธิเลือกได้ไม่เกิน 2 หมายเลข โดยจะลงคะแนนเลือกตนเองก็ได้ แต่จะลงคะแนนให้บุคคลใดเกิน 1 คะแนนมิได้ เมื่อลงคะแนนเสร็จแล้ว ให้พับบัตรแล้วนำไปใส่ลงในหีบบัตรลงคะแนนด้วยตนเอง แล้วให้รอจนกว่าการลงคะแนนและการนับคะแนนของแต่ละวิธีการสมัครจะแล้วเสร็จ เพื่อรับทราบผลการลงคะแนน
- การนับคะแนน เมื่อการลงคะแนนของแต่ละวิธีการสมัครเสร็จสิ้นแล้ว คณะกรรมการประจำสถานที่เลือกจะทำหน้าที่ในการนับคะแนนโดยเปิดเผยและต้องให้เสร็จในรวดเดียว จะไม่เลื่อนหรือประวิงเวลา โดยในการนับคะแนนจะมีกรรมการ 3 คน ทำหน้าที่ วินิจฉัยและอ่านหมายเลขผู้สมัคร ขานทวนหมายเลขและขีดคะแนน และเจาะบัตรที่วินิจฉัยแล้วแยกใส่ภาชนะบัตรดีและบัตรเสีย กรณีกลุ่มใดและวิธีการสมัครใด มีผู้ได้คะแนนเท่ากันเกิน 3 คนในระดับอำเภอ หรือเกิน 4 คนในระดับจังหวัด หรือเกิน 10 คนในระดับประเทศ ให้ดำเนินการจับสลากทันทีเพื่อเลือกว่าผู้ใดจะได้รับเลือก กรณีมีผู้ไม่ได้รับคะแนนเลย มีจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของจำนวนผู้สมัครในกลุ่มนั้นและวิธีการสมัครนั้น (แต่ต้องไม่น้อยกว่า 3 คน) ให้สันนิษฐานว่ามีการสมยอมกันในการเลือก ให้จัดการเลือกกันเองใหม่ โดยให้ผู้ที่ไม่ได้รับคะแนนนั้นหมดสิทธิที่จะเลือกและได้รับเลือกและต้องออกจากสถานที่เลือก สำหรับการจัดการเลือก ส.ว. ระดับอำเภอ ต้องดำเนินการภายในระยะเวลาไม่เกิน 20 วัน นับแต่สิ้นสุดระยะเวลารับสมัคร การเลือก ส.ว. ระดับจังหวัด ต้องไม่เกิน 7 วัน นับแต่วันเลือกในระดับอำเภอ และ การเลือก ส.ว. ระดับประเทศ ต้องไม่เกิน 10 วัน นับแต่วันเลือกในระดับจังหวัด
- การรายงานผลการนับคะแนน เมื่อการเลือกระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และระดับประเทศ เสร็จสิ้นแล้ว ผอ. การเลือกระดับประเทศ (เลขาธิการ กกต.) จะรายงานผลการนับคะแนนของแต่ละกลุ่มและแต่ละวิธีการสมัครให้ กกต. ทราบ เมื่อ กกต. ได้รับรายงานดังกล่าวแล้ว ให้รอไว้ไม่น้อยกว่า 5 วัน ถ้า กกต. เห็นว่าการเลือกเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ให้จัดเรียงลำดับรายชื่อผู้ได้คะแนนสูงสุด 10 ลำดับแรกของแต่ละกลุ่มและแต่ละวิธีการสมัคร แล้วแจ้งรายชื่อให้ คสช. พิจารณาคัดเลือก จำนวน 50 คน เป็น ส.ว. และคัดเลือกอีก 50 คน เป็นบัญชีรายชื่อสำรอง
- รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560
- พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561
- ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561
- ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง เรื่อง การลงทะเบียนขององค์กรที่มีสิทธิแนะนำชื่อบุคคลเพื่อสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา
- แบบคำขอลงทะเบียนองค์กรฯ และหนังสือมอบอำนาจ(แบบ ส.ว. 2 และ แบบ ส.ว. 3)
Leave a Reply