สำหรับคำว่าคนแก่วัดนี้ต้องเข้าใจนะครับว่า ไม่ได้หมายถึง คนแก่ที่อยู่ตามวัดหรือคนแก่ของวัด แต่แต่หมายถึง คนที่อยู่วัดและคุ้นเคยกับพระสงฆ์องค์เณรเป็นอย่างดี โดยคนแก่วัดนั้นมีอยู่ ๒ ประเภท คือ
(๑) คนแก่วัดที่เป็นคนรู้เรื่องวัตรปฏิบัติของพระและช่วยเหลือพระด้วยความมีเมตตาถ้อยที่ถ้อยอาศัยทั้งทางกาย วาจา และจิตใจเป็นที่รักของพระสงฆ์สามเณรเพราะเป็นคนที่ไม่มีพิษไม่มีภัยกับพระสงฆ์องค์เณรในวัด คนที่รู้และเข้าใจหัวอกพระสงฆ์องค์เณรแบบนี้แม้จะอยู่ในวัดไม่นานก็เรียกว่าเป็น “คนแก่วัด” ได้
(๒) คนแก่วัดที่เป็นคนประเภทเข้าวัดเพื่อาหาเรื่องพระหาเรื่องเณรจับผิดพระเณรจนไม่เป็นทำการทำงาน เข้าวัดมาทีพระเณรแตกหนีกระเจิงไปคนละทิศคนละทางเพราะคนประเภทนี้หาช่องจับผิดพระเณร และดุด่าพระเณร ซึ่งวัดหรืออารามโดยมากจะมีคนประเภทนี้อยู่
เอาล่ะผมยกมาแค่สองประเภทก่อนเพราะแค่สองประเภทนี้ก็เห็นตัวอย่างชัดเจนแล้วสำหรับเรื่องของคนแก่วัดในวันนี้
@ คนแก่วัดในสมัยพุทธกาล ?
ในสมัยพุทธกาลนั้นมีคนแก่วัดอยู่ประเภทที่ ๑ ที่มีปรากฏชัดเจนมากในกรณีของนางวิสาขา ซึ่งนางเป็นพระโสดาบันที่มีความรักในพระพุทธศาสนามาก นางทำหน้าที่ในการดูแลพระสงฆ์องค์เณรในอารามด้วยการอุปถัมภ์บำรุง และเป็นคนฉลาดรู้ว่าพระเณรต้องการอะไรหรือไม่ต้องการอะไร หรือรู้ว่าอะไรที่เหมาะสมหรือไม่เหมาะสมกับพระสงฆ์องค์เณร โดยเมื่อเวลาที่นางไปสู่พระเชตวันหรือไม่ว่าจะเป็นบุบผารามซึ่งเป็นอารามที่นางสร้างถวายเอง นางไปวัดนั้นนางไม่เคยไปมือเปล่าจะมีการนำเอาของเคี้ยวของฉันติดไม้ติดมือไปถวายเสมอ ทำให้พระสงฆ์องค์เณรรักในฐานะที่นางเป็นอุปัฏฐายิกาของคณะสงฆ์ ซึ่งการปฏิบัติเช่นนี้ถือว่าเป็นการสร้างความคุ้นเคยในพระศาสนาที่ดีที่สุด
@ คนแก่วัดในสังคมไทย ?
สำหรับคนแก่วัดในอารามเมืองไทยนี้เกือบทุกอารามจะมี “คนแก่วัดอยู่ ๒ ประเภทที่ว่านั้นแหละ คือ (๑) คนกลุ่มหนึ่งเข้าวัดเพื่อเป็นที่พึ่งของพระเณร ดูแลพระเณรเสมือนว่าเป็นลูกเป็นหลาน เข้าวัดเพื่อที่จะให้ประโยชน์กับวัด ไม่เบียดเบียนวัด (๒) คนอีกกลุ่มหนึ่ง เป็นประเภทคนแก่วัดประเภทที่ ๒ เข้าวัดเพื่อไปจับผิดพระเข้าวัดเพื่อผลประโยชน์เพื่อจะเอามากกว่าเพื่อจะให้ไปวัดเอากับข้าแค่ปิ่นโตเถาเดียวกลับจากวัดขนมาเต็มกาละมัง ทั้งหอบทั้งหิ้ว เวลาอยู่วัดก็เอาแต่ตำหนิพระเณร ใช้พระสงฆ์องค์เณรยิ่งกว่าคนรับใช้ แสดงอำนาจบาตรใหญ่จะฟ้องเจ้าอาวาสๆอยู่ร่ำไป แทบทุกวัดจะมีคนประเภทนี้อยู่
@ เจอคนแก่วัดประเภทที่ ๒ ควรทำอย่างไร ?
ผมว่าไม่ต้องทำอะไรหรอกคนแก่วัดประเภทนี้ “ดัดยาก” ปล่อยให้เขาทำไปแบบไม่มีพิษมีภัยไม่ต่อความยาวสาวความยืดสักพักก็จะเงียบไปเอง ปล่อยให้ท่านเจ้าอาวาสปวดหัวสอนรูปเดียวก็เพียงพอแล้ว เราอย่าไปวดหัวกับเจ้าอาวาสอีกคนเลยครับ
ขอบคุณครับ
Cr.FB-Naga King
Leave a Reply