พระวิทยากรต้นแบบสันติภาพ แนะพระยุคใหม่ใส่ใจ AI ตัวช่วยเผยแผ่พุทธธรรม เป็นฐานรับผิดชอบร่วมต่อสังคมเปลี่ยนแปลง
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 25962 ที่ศูนย์พัฒนาและการฝึกอบรมสติ วัดสุวรรณประสิทธิ์ กรุงเทพมหานคร พระอาจารย์ปราโมทย์ วาทโกวิโท พระวิทยากรกระบวนการธรรมะโอดี พระวิทยากรต้นแบบสันติภาพ เปิดเผยว่า เป็นพระวิทยากรฝึกอบรมโครงการอบรมพระวิปัสสนาจารย์ รุ่นที่ 47 ณ วัดสุวรรณประสิทธิ์ ซึ่งจัดฝึกอบรม 3 เดือน ประกอบด้วย #ฝึกอบรมด้านวิปัสสนากรรมฐานหนึ่งเดือน #ฝึกอบรมด้านพระไตรปิฏกหนึ่งเดือน #ฝึกอบรมด้านเทคนิคสื่อสารการเผยแผ่ธรรม 1 เดือน
พระสงฆ์นักเผยแผ่ธรรมยุคใหม่ที่มีใจรักมีอุดมการณ์ในการเป็นนักเผยแผ่ธรรมในปัจจุบัน ภายใต้ยุคแห่งปัญญาประดิษฐ์ หรือ รู้จักกันว่า AI จำเป็นต้องมีความเข้าใจด้านเทคโนโลยีเพื่อนำมาเป็นเครื่องมือในการเผยแผ่ธรรมะให้เข้าถึงผู้คนในสังคม ด้วยการ #ปรับศาสตร์เข้าหาพระพุทธศาสนา โดยมีคำสอนทางพระพุทธศาสนาเป็นฐานแล้วนำศาสตร์สมัยใหม่มาสนับสนุนส่งเสริมให้การสื่อสารธรรมให้น่าสนใจมากขึ้น โดยพระพุทธเจ้าใช้วิธีการสอนแบบ #ธรรมาธิษฐาน เป็นธรรมะล้วนๆ และวิธีการสอนแบบ #บุคลาธิษฐาน เป็นการสอนที่อาศัยตัวอย่างสื่อประกอบหรือถ้าจะพูดถึงปัจจุบันถือว่าเป็นกิจกรรมในการเรียนรู้ พระพุทธเจ้าจึงเป็นสุดยอดนักออกแบบกิจกรรมด้านการมีส่วนร่วม เช่น กรณีนางกีสาโคตมี ที่สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก
พระสงฆ์ที่ทำงานด้านการเผยแผ่ธรรมจึงต้องเรียนรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของสังคมปัจจุบันเพื่อนำมาเป็นเครื่องมือการเผยแผ่ธรรมให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด จึงต้องเรียนรู้ 4 ประเด็น คือ 1)#รู้ทันเทคโนโลยี ด้วยการนำสื่อเทคโนโลยีมาเป็นเครื่องมือในการสื่อสารธรรม พระสงฆ์ยุคใหม่จึงต้องรู้เท่ารู้ทันเทคโนโลยี 2)#บริโภคเทคโนโลยีอย่างเป็นนาย พระสงฆ์ยุคใหม่จึงต้องบริโภคสื่อด้วยการมีสติเป็นฐาน ใช้สื่อเป็นอุปกรณ์ในการสื่อสารธรรมเพื่อให้เกิดความเข้าใจ
3)#ลงทุนในตัวเอง เป็นการลงทุนในการศึกษาทางโลกและทางธรรม การลงทุนทางการศึกษาจึงเป็นการลงทุนที่ดีที่สุด เรียกว่าไม่ฉลาดสิ่งใดจงลงทุนสิ่งนั้น 4)#ความรับผิดต่อสังคมและเพื่อนมนุษย์ พระสงฆ์ถือว่าเป็นต้นแบบสำคัญในการรับชอบต่อสังคม การพัฒนาตนเป็นนักเผยแผ่แล้วออกไปทำงานร่วมกับชุมชน สังคม ถือว่าเป็นความรับผิดชอบต่อสังคม
“ดังนั้น พระสงฆ์ยุคใหม่จึงต้องร่วมรับผิดชอบต่อสังคม เป็นการเปลี่ยนแปลงสังคมในจุดที่เรายืน เพราะเรือที่ปลอดภัยที่สุดคือเรือที่จอดนิ่งอยู่กับท่าแต่เรือไม่ได้สร้างไว้เพื่อจอดนิ่ง ต้องออกเดินทางไปในท้องทะเลออกไปทำงานเพื่อสังคม จึงไม่ต้องกลัวแม้ #คำชมคำด่ามีราคาเท่ากันสำหรับผู้ทำงานเพื่อสังคม” พระอาจารย์ปราโมทย์ กล่าว
Leave a Reply