ส.ส. + ส.ว. ประคอง “บิ๊กตู่”

บุญเลิศ ช้างใหญ่

 การเลือกตั้งครั้งใหม่ที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562  เป็นของใหม่ เพราะกติกาที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 แตกต่างไปจากของเดิม เช่น

  • ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเข้าคูหาเลือกผู้สมัครในเขตเลือกตั้งได้ 1 เบอร์ แต่ 1 คะแนนเสียง

        ที่กากบาทที่บัตรถูกนำไปคำนวณ เพื่อแบ่งสันปันส่วนคะแนนให้กับ ผู้สมัครในบัญชีรายชื่อ

  • พรรคการเมืองมีสิทธิเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีได้ไม่เกิน 3 รายชื่อ โดยผู้ถูกเสนอ

        ชื่อให้ความยินยอม รายชื่อนายกฯของพรรคจะเป็นอีก 1 ปัจจัยที่ทำให้ประชาชนอยากจะลงคะแนน 1 เสียงให้กับผู้สมัครในเขตเลือกตั้งพรรคไหน

  • การโหวตเลือกนายกฯ ให้ใช้เสียงเกินครึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกรัฐสภา ( ส.ส.+ ส.ว.)  เท่ากับว่า เสียงส.ส.ยังไม่ต้องเกิน 250 เสียง ถือเป็นครึ่งหนึ่งของส.ส.ในสภาซึ่งมีทั้งสิ้น 500 คน เพียงแค่ ส.ส. 126 คนไปบวกกับส.ว. 250 คนก็โหวตเลือกนายกฯได้แล้ว

ว่ากันว่า เมื่อ ส.ว. 250 คนได้มาจากการเลือกของคสช. ส.ว.ก็ควรจะเลือกคนที่คสช.  สนับสนุน

บุคคลผู้นั้น เป็นใครไม่ได้ นอกจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือ “บิ๊กตู่” ผู้ประกาศเป็นนักการเมืองเต็มตัว ที่จังหวัดบึงกาฬ เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ที่ผ่านมาและพรรคพลังประชารัฐ จะเสนอรายชื่อเป็นนายกฯตามสารบบของกติกาใหม่ในรัฐธรรมนูญ

ก่อนหน้าจะโหวตเลือกนายกฯในรัฐสภาโดยส.ส.และส.ว.  ผู้ที่จะเป็นนายกฯได้รับการพูดถึงระหว่างการรณรงค์หาเสียงกันแล้ว และคงจะมีการจัดดีเบตในบรรดาผู้ถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯเพื่อแสดงวิสัยทัศน์ รวมทั้งการคาดคะเนจำนวนส.ส.ที่แต่ละพรรคจะได้รับ

จากนั้นก็คิดคำนวณว่าพรรคไหนบ้างจะจัดตั้งรัฐบาลในขั้วของพรรคพลังประชารัฐ

แน่นอนว่า การฟอร์มรัฐบาลจะเกิดขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อรู้ผลการเลือกตั้งในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ซึ่งพรรคที่เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลจะมีส.ส.ของพรรคได้รับเลือกเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจะดำรงตำแหน่งประธานรัฐสภา โดยมีส.ส.สนับสนุนเกินครึ่งหนึ่ง (เกิน 250 เสียง) และพรรคการเมืองขั้วนี้จะตั้งรัฐบาลบริหารประเทศ

การมีส.ส.เกินครึ่งจัดตั้งรัฐบาล เป็นวิถีประชาธิปไตย เพื่อเสถียรภาพของรัฐบาล เพราะรัฐบาลต้องเสนอร่างกฏหมายหรือญัตติใดๆที่ต้องลงมติ    ส.ส.ในสภาจะต้องอภิปรายโต้แย้งแสดงเหตุผลและลงมติให้ชนะฝ่ายค้าน

ถ้าลงมติแล้วรัฐบาลแพ้ฝ่ายค้าน หรือประชุมสภาแล้วมีส.ส.ไม่ครบองค์ ประชุมไม่ได้ รัฐบาลก็ยากที่จะอยู่ในตำแหน่งต่อไป

เสถียรภาพของรัฐบาล นอกจากมีส.ส.เกินหนึ่งสนับสนุนแล้ว ความชอบธรรมในการบริหารประเทศ  ทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ แก้ไขปัญหาของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญไม่น้อย

การเมืองในรัฐสภา ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล รวมทั้งส.ว.ที่คสช.แต่งตั้งจะต้องมีบทบาทสนับสนุนรัฐบาลที่มีนายกฯชื่อ พล.อ.ประยุทธ์

การอภิปรายในสภา  การโต้ตอบกับฝ่ายค้านอย่างมีเหตุผลและมีความน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ชาติ การปฏิรูปประเทศ  จำเป็นอย่างยิ่งที่ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลจะต้องปรับตัวและพัฒนาคุณภาพให้เป็นนักการเมืองพันธ์ใหม่ และได้ส.ว.ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม ถึงจะช่วยประคับประคองรัฐนาวา “ประยุทธ์”ให้แล่นไปได้

      รัฐมนตรีกระทรวงต่างๆก็ต้องมีฝีมือด้วย

/////////////////////

 

 

 

 

Leave a Reply