ปิดฉากวิสาขะเวียดนามยิ่งใหญ่ ปฏิญญาฮานามยก ‘เอไอ’ ตัวช่วยแผ่พุทธ พระพรหมบัณฑิตเล็งมอบ มจร พัฒนาช่วยงานคณะสงฆ์


ปิดฉากเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับงานเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชาวันสำคัญสากลของโลก ครั้งที่ 16 ที่ประเทศเวียดนามเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 12-14 พ.ค.2562 ตามที่คณะกรรมการสมาคมสภาสากลวันวิสาขบูชาโลก ที่มีพระพรหมบัณฑิต,ศ.ดร. กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาส เป็นประธาน พิจารณาให้การเห็นชอบตามการเสนอขอของรัฐบาลและคณะสงฆ์เวียดนาม โดยจัดที่วัดตัม จุ๊ก เมืองฮานาม โดยมีชาวพุทธจากทั่วโลก ทั้งผู้นำทางเมือง ผู้นำทางพระพุทธศาสนา พร้อมด้วยนักวิชาการ และองค์กรพุทธทั่วไปกว่า 5,000 รูป/คน เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้

พระพรหมบัณฑิต ได้กล่าวชื่นชมในพิธีปิดวันที่ 14 พ.ค.2562 ความว่า งานเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชาวันสำคัญสากลของโลกในประเทศเวียดนามครั้งนี้ เป็นการยกระดับมาตราฐานของเนื้องานให้สูงขึ้นและเป็นที่น่าประทับใจอย่างมาก ซึ่งเชื่อมั่นว่าความสำเร็จครั้งนี้เกิดขึ้นจากทุกภาคส่วนของรัฐบาลเวียดนามและประชาชนร่วมแรงร่วมใจ ร่วมสานงานเพื่อพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง

พร้อมกันนี้พระพรหมบัณฑิตได้ให้สัมภาษณ์ถึงปฏิญาฮานามที่มีเนื้อสำคัญคือกระตุ้นให้ชาวพุทธส่งเสริมนำเทคโนโลยีระดับสูงอย่างเช่นปัญญาประดิษฐ์ ( artificial intelligence) หรือ เอไอ (AI) มาเป็นตัวช่วยในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาแก้ปัญหาความขัดแย้งด้านต่างๆ ว่า ปัจจุบันนี้ เอไอเข้ามามีส่วนสำคัญในการพัฒนาประเทศด้านต่างๆ รวมถึงด้านการข่าวก็มีผู้ประกาศเอไอทำงานร่วมกับกองบรรณาธิการ ที่ทำงานแทนมนุษย์ได้ ดูอย่างประเทศจีนเป็นตัวอย่าง ซึ่งในส่วนของคณะสงฆ์ไทยนั้น คงต้องเป็นหน้าที่ของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) ในการพัฒนาเอไอเพื่อสนองงานคณะสงฆ์ เพราะหากจะมอบหมายให้หน่วยงานอื่น คงต้องอธิบายทำความเข้าใจกันอีกนาน

พระมหาหรรษา ธมฺมหาโส,รศ.ดร. ผู้อำนวยการวิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติ มจร กล่าวว่า กลไกสำคัญที่กระตุ้นให้การจัดงานเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่คือ “รัฐบาลเวียดนามและคณะสงฆ์” จับมือกัน โดยดึงภาคเอกชน้ข้ามาช่วยเติมเต็มและสนับสนุนตามศักยภาพของตัวเองมี และจัดหาได้ เช่น กระทรวงมหาดไทยเข้ามาช่วยดูความปลอดภัย ตำรวจออกบัตรเข้างานทั้งหมด สายการบินเวียดนามเข้ามาดูแลตั๋ว สนามบินเปิดช่องตรวจคนเข้าเมืองช่องวิสาขะกระทรวงท่องเที่ยวเข้ามาดูแลการต้อนรับ โรงแรม และการแสดงทางวัฒนธรรม ทหารเข้ามาดูความปลอดภัย กระทรวงคมนาคมดูแลการสัญจร บริษัทไปรษณีย์ออกตราไปรษณีย์ชุด พระสงฆ์ดูแลพิธีการ จะเห็นว่า พิธีกรในงานนั้นใช้พระสงฆ์คู่กับอุบาสิกา

วิสาขบูชาโลก นอกจากจะเป็นสัญลักษณ์แห่งการนัดพบกันของชาวพุทธทั่วโลกเพื่อร่วมกันเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่แล้ว ยังเป็นเครื่องมือทางการตลาด เพื่อเสริมภาพลักษณ์ประเทศ รวมถึงการเพิ่มมูลค่าทางการตลาดเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวทั้งในและนอกประเทศด้วย นี่คือเหตุผลที่ว่า เพราะเหตุใดรัฐบาล และคณะสงฆ์เวียดนาม จึงส่งคณะสงฆ์และทีมงานรัฐบาลชุดใหญ่มามหาจุฬาฯ สามรอบ เพื่อเจรจาพูดคุยและโน้มน้าวให้เวียดนามเป็นเจ้าภาพในการจัดงานครั้งนี้

ถนนสายจิตวิญญาณ (Spiritual Road) คือ คำตอบในเรื่องนี้ ในขณะที่ ฮา ลอง เบย์ คือสถานที่กระตุ้นความงดงามตามธรรมชาติ เพื่อเป็นสถานที่พักผ่อนทางกาย ในทางกลับกัน ถ้าต้องการแหล่งท่องเที่ยวทางจิตวิญญาณ เป็นแหล่งพักผ่อนทางใจท่ามกลางภูเขา และสิ่งแวดล้อมที่งดงาม อีกทั้งมีวัดวาอารามเป็นแหล่งปฏิบัติ สถานที่แห่งนั้น ต้องเป็น “ตัม จุ๊ก จังหวัดฮา นาม” ทอดยาวไปถึงจังหวัดใบดิง ถนนสายนี้ มีทั้งที่พัก โรงแรม อาหาร วัด และแห่งสัปปายะสถาน ที่เอื้อต่อ “การท่องเที่ยวเชิงพุทธ” ที่มีมูลค่าทางใจ และการตลาดอย่างมหาศาล

ในอดีตนั้น คณะสงฆ์เวียดนามบอบช้ำด้วยพิษภัยทางการเมือง แต่ปัจจุบันคณะสงฆ์ก็เป็นเอกภาพ มีความกลมเกลียวเป็นปึกแผ่น ในขณะที่รัฐบาลแม้จะเป็นคอมมิวนิสต์ และรัฐมนตรีทุกคนจะประกาศเป็นพุทธไม่ได้ แต่หัวใจ และวัตรปฏิบัติทุกคนเป็นพุทธในวิถีชีวิต ทุ่มเทกายใจดึงเอาพลังแฝงเร้นที่มีอยู่ในพระพุทธศาสนาออกมาเสริมสร้างพลังแก่ประเทศเวียดนาม ฉะนั้น ทุกคนจึงมองเห็นชาติเป็นตัวตั้ง แล้วเอาพลังศาสนามาเสริมสร้างพลังให้แก่ชาติบ้านเมือง

“พระพุทธศาสนาในเวียดนามจึงไม่ใช่อะไรอื่น หากแต่เป็นเครื่องมือในการสร้างชาติบ้านเมือง โดยที่ผู้ปกครองที่มีวิสัยทัศน์เห็นโอกาสดังกล่าว ศาสนาจึงไม่ใช่เครื่องมือสร้างความแตกแยก หากแต่เป็นเครื่งสร้างความกลมเกลียวของคนในชาติ ผสานพลังแล้วดึงพลังออกมารับใช้ชุมชน สังคม และชาติบ้านเมือง สังคมตั้งแต่สมัยพุทธกาลจนถึงปัจจุบัน หากยุคใดที่ผู้นำรัฐ และคณะสงฆ์จับมือผนึกกำลังสร้างชาติบ้านเมืองแล้ว เราจะเห็นร่องรอยของความเจริญอยู่ยุคทุกสมัย ดังจะเห็นได้จากการประเทศเวียดนามในขณะนี้ ที่กำลังเจริญทั้งด้านการศึกษา เศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม” พระมหาหรรษา ระบุ

หลังจากนั้นชาวพุทธทั่วโลกได้เดินทางกลับเพื่อจัดเฉลิมฉลองที่ประเทศของตน ขณะที่ประเทศไทย โดย มจร ในนามประเทศไทย หลังจากคณะผู้บริหาร อาจารย์ นิสิต เจ้าหน้าที่ภายใต้การนำของพระราชปริยัติกวี อธิการบดี เดินทางไปร่วมงานที่ประเทศเวียดนาม ได้เดินทางกลับมาเฉลิมฉลองระหว่างวันที่ 15 – 16 พ.ค. 2562 ที่ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ ถนนราชดำเนินนอก กรุงเทพมหานคร

วันที่ 15 พ.ค.2562 มีการประชุมวิชาการนานาชาติ หัวข้อ“สติ : จากวิถีธรรมสู่วิถีชีวิต” โดยมีพระพรหมบัณฑิตเป็นประธานเปิด เนื่องจากปัจจุบันโลกและการใช้ชีวิตทำให้ผู้คนขาดสติ จึงเป็นเหตุผลของการจัดประชุมในครั้งนี้ เพื่อนำหลักการเจริญสติของแต่ละนิกาย ของแต่ภูมิภาคของโลก ได้เชิญตัวแทนมาบรรยายเกี่ยวกับวิธีการเจริญสติ เพื่อการดับทุกข์และยังสามารถให้นำไปปฏิบัติตามในชีวิตประจำวันได้แม้ไม่ใช่พระ นักบวช ก็สามารถมีสติได้ ซึ่งมีงานวิจัยรับรองแล้วว่า สติ เป็นหนทางดับทุกข์ที่ได้ผลดีและในงานยังมีนิทรรศการภาพวาดพุทธศิลป์ จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตเชียงใหม่ ซึ่งการวาดภาพเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ทำให้เรามีสติ สมาธิ อีกหนึ่งทางเลือก

Leave a Reply