เชิญร่วมบุญเททองหล่อ “หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ” สวดคาเงินล้านวัดสมรโกฏิตลิ่งชัน กทม.

เชิญร่วมบุญเททองหล่อ “หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ” สวดคาเงินล้าน อาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม 2562 เวลา 17.39 น. @ วัดสมรโกฏิ แขวงฉิมพลีเขตตลิ่งชัน กทม.

หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ วัดท่าซุง หรือ พระราชพรหมยาน (วีระ ถาวโร) อดีตเจ้าอาวาสวัดจันทาราม หรือ วัด ท่าซุง จ.อุทัยธานี มีชื่อเสียงในด้านการบำเพ็ญวิปัสสนากรรมฐานจนได้วิชามโนมยิทธิ หรือ ฤทธิ์ทางใจ

เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2460 ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 8 ปีมะเส็ง ที่ ต.สาลี อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี ในครอบครัวของชาวนาซึ่งมีฐานะค่อนข้างดี บิดาชื่อ นายควง สังข์สุวรรณ มารดาชื่อนางสมบุญ สังข์สุวรรณ

ก่อนที่หลวงพ่อฤๅษีลิงดำจะเกิดนั้น มารดาของท่านฝันว่า เห็นพระพรหมมีสีเหลืองเป็นทองคำเหมือนพระพุทธรูป นอนลอยไปในอากาศ มีเพชรประดับแพรวพราวทั้งตัว เข้าทางหัวจั่วด้านทิศเหนือ เข้ามานั่งที่ตักท่าน

มารดาก็กอดไว้ แล้วก็หายเข้าไปในกาย เมื่อเกิดมาใหม่ ๆ หลวงพ่อเล็ก เกสโร ซึ่งมีฐานะเป็นลุง ได้กล่าวว่า เจ้าเด็กคนนี้มาจากพรหม ดังนั้นจึงให้ชื่อว่า “พรหม” และต่อมาภายหลัง คนที่จดสำมะโนครัวเขามาเปลี่ยนชื่อให้เป็น “สังเวียน”

พ.ศ. 2479 อายุ 20 ปี อุปสมบทเป็นภิกษุเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2479 เวลา 13.00 น. ที่พัทธสีมาวัดบางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา

โดยมีพระครูรัตนาภิรมย์ (อยู่ ติสฺโส) เจ้าอาวาสวัดบ้านแพน เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูวิหารกิจจานุการ (ปาน โสนนฺโท) เจ้าอาวาสวัดบางนมโคเป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระอาจารย์เล็ก เกสโร วัดบางนมโค เป็นพระอนุสาวนาจารย์

ระหว่างที่บวช หลวงพ่อฤๅษีลิงดำได้ศึกษาพระกัมมัฏฐาน จากครูบาอาจารย์หลายท่าน เช่น พระครูวิหารกิจจานุการ (ปาน โสนนฺโท) เจ้าอาวาสวัดบางนมโค หลวงพ่อจง พุทธสโร วัดหน้าต่างนอก

พระอาจารย์เล็ก เกสโร วัดบางนมโค พระครูรัตนาภิรมย์ (อยู่ ติสฺโส) เจ้าอาวาสวัดบ้านแพน พระครูอุดมสมาจารย์ วัดน้ำเต้า หลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ หลวงพ่อเนียม วัดน้อย หลวงพ่อโหน่ง อินฺทสุวณฺโณ วัดอัมพวัน (วัดคลองมะดัน) และหลวงพ่อเรื่อง วัดใหม่พิณสุวรรณ

ตลอดระยะเวลาที่อุปสมบทอยู่ หลวงพ่อพระราชพรหมยานได้ทำหน้าที่ของพระสงฆ์ ในพระพุทธศาสนาอย่างสมบูรณ์ กล่าวคือ

ทางด้านชาติ ได้สร้างโรงพยาบาลแม่และเด็ก, สร้างโรงเรียนพระสุธรรมวิทยา, จัดตั้งธนาคารข้าว, ออกเยี่ยมเยียน ทหารหาญของชาติและตำรวจตระเวณชายแดนตามหน่วยต่าง ๆ เพื่อ ปลุกปลอบขวัญและกำลังใจ และ แจกอาหาร, ยา, อุปกรณ์อำนวยความสะดวก และวัตถุมงคลทั่วประเทศ

ทางด้านพระศาสนา ได้สั่งสอนพุทธบริษัทศิษยานุศิษย์ให้มุ่งพระนิพพานเป็นหลัก โดยให้ประพฤติปฏิบัติสำรวมกาย, วาจา, ใจ, มุ่งในทาน, ศีล, สมาธิ และปัญญา ทั้งในทางกรรมฐาน 40 และมหาสติปัฏฐานสูตร ได้พิมพ์หนังสือคำสอนจำนวนมากและบันทึกเทปคำสอนกว่า 1,000 ม้วน

นอกจากนี้ยังได้แสดงธรรมเทศนาทางสถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์เป็นครั้งคราว นอกจากนี้ ยังเดินทางไปสงเคราะห์คณะศิษย์ในต่างจังหวัดและต่างประเทศทุก ๆ ปี

ทางด้านวัตถุ ท่านได้ช่วยสร้างพระพุทธรูปและถาวรวัตถุไว้ในพระพุทธศาสนามากกว่า 30 วัด รวมทั้งการบูรณะฟื้นฟูวัดท่าซุงด้วยเงินกว่า 600 ล้านบาท ได้สร้างพระไตรปิฎก และถวายผ้าไตรแก่วัดต่างๆ ปีละไม่ต่ำกว่า 200 ไตร

ทางด้านพระมหากษัตริย์ท่านได้สนองพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยการจัดตั้งศูนย์สงเคราะห์ผู้ยากจนในถิ่นทุรกันดารตามพระราชประสงค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ซึ่งศูนย์ฯ นี้ได้ดำเนินการสงเคราะห์ราษฎรในถิ่นทุรกันดารทั่วประเทศมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2520

ทั้งการแจกเสื้อผ้า, อาหาร และยารักษาโรคแก่ราษฎรผู้ยากจน, การช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยทางธรรมชาติ, การจัดแพทย์เคลื่อนที่ออกรักษาพยาบาลราษฎรผู้เจ็บป่วย, การให้ทุน นักเรียนที่เรียนดีแต่ยากจน, การบริจาคทุนทรัพย์ให้แก่มูลนิธิและโรงพยาบาลต่าง ๆ ฯลฯ

พ.ศ. 2535 อายุ 76 ปี ได้อาพาธด้วยโรคปอดบวมอย่างแรง และติดเชื้อในกระแสโลหิต เข้ารักษาที่โรงพยาบาลศิริราช และมรณภาพที่โรงพยาบาลศิริราช เมื่อวันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม 2535 เวลา 16.10 น.

ปัจจุบันศพของหลวงพ่อได้บรรจุไว้ในโลงแก้วบนบุษบกทองคำที่ประดับด้วยอัญมณีอันวิจิตรงดงาม ณ วัดจันทาราม ต.น้ำซึม อ.เมือง จ.อุทัยธานี

ทั้งนี้ในวันอาทิตย์ 27 ตุลาคม 2562 เวลา 17.39 น. เชิญร่วมบุญเททองหล่อ”หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ” ท่านั่งขนาดเท่าองค์จริง ณ วัดสมรโกฏิ แขวง ตลิ่งชัน กทม. ซึ่งก่อนเททอง เวลา 15.00 น. จะมีการเสกคาถาเงินล้าน 108 จบด้วย

วัดสมรโกฏิ เป็นวัดเก่า ที่ได้รับการดูแลโดยกรมศิลปากร ตั้งอยู่ริมคลองบางระมาดแม้จะถูกบูรณะจนดูใหม่แต่อุโบสถและวิหารยังมีเค้าของอาคารสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย คือ อาคารมีขนาดเล็กก่อผนังสูง ไม่มีเสา ผนังด้านหลังอุดตันไม่มีประตู เรียกว่า “มหาอุด”

ใบเสมาเอกด้านหน้าอุโบสถเป็นแบบ “เสมาโหล” สลักจากหินอ่อนแบบที่นิยมกันในสมัยรัชกาลที่ 3 วัดนี้มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ คือ หลวงพ่อคงและหลวงพ่อดำ

ปัจจุบันวัดสมรโกฏิ อยู่ในช่วงการพัฒนา โดยมีหลวงพ่อบุญชู เตชวโร เป็นเจ้าอาวาส ได้มอบหมายให้พระครูปลัดธนันท์รัฐ เลขานุการวัด เป็นผู้สนองงานต่างๆ

พระครูปลัดธนันท์รัฐ เป็นผู้สืบสายวิชาวัดกลางบางแก้วและสายวัดประดู่ทรงธรรม มีความรู้ในศาสตร์ต่างๆ โดยเฉพาะการทำตะกรุด เบี้ยแก้ และวิชาการอาบน้ำมนต์ ให้แก่ญาติโยมที่เข้ามาขออนุเคราะห์ และเป็นขวัญและกำลังใจ โดยท่านถือตามคำครูที่ว่า สุกเอาเผากินฉันไม่ทำ ทำแล้วต้องทำให้ดี

การเดินทางจากแยกที่ถนนราชพฤกษ์ตัดกับถนนบรมราชชนนี ให้ใช้ถนนราชพฤกษ์มุ่งหน้าทางทิศใต้หรือมุ่งหน้าถนนเพชรเกษม ประมาณ 350 เมตร พบซอยวัดสมรโกฏิทางซ้ายมือ (มีซุ้มประตูวัด) ไปตามถนนในซอยประมาณ 500 เมตร ถึงวัด (มีป้ายบอกตลอดทาง)

สำหรับผู้ที่มีความประสงค์จะร่วมบุญเททองหล่อหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

สอบถามรายละเอียดได้ที่วัดสมรโกฏิ แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กทม. โทร. 093 515 3222

Leave a Reply