ตัดสินแล้วคดีเงินทอนวัด! คุก36เดือนรอลงอาญา 2 ปี “อดีตพระพรหมสิทธิ”

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ห้องพิจารณา 703 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถ.นครไชยศรี ศาลนัดอ่านคำพิพากษาคดีทุจริตการจัดสรรเงินงบประมาณ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) คดีหมายเลขดำ อท.251/2561 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต 2 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายพนม ศรศิลป์ อายุ 60 ปี อดีตผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (ผอ.พศ.) , นายชยพล พงษ์สีดา อายุ 64 ปี อดีตรอง ผอ.สำนักงาน พศ. , นายณรงค์เดช ชัยเนตร อดีต ผอ.กองส่งเสริมงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา , นายพัฒนา สุอำมาตย์มนตรี อายุ 50 ปี อดีตนักวิชาการศาสนาชำนาญการ กองส่งเสริมงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา , พระพรหมสิทธิ ธงชัย สุขโข หรือนายธงชัย สุขโข อายุ 64 ปี อดีตพระราชาคณะเจ้าคณะรอง และอดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร , อดีตกรรมการมหาเถรสมาคม เป็นจำเลยที่ 1-5

ในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ , ทำ , จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ร่วมกันเบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่น โดยทุจริตหรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์สินนั้นเสีย , เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต , เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานกระทำความผิดดังกล่าว ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147,157 ประกอบมาตรา 83,86,91

คดีนี้ อัยการยื่นฟ้อง เมื่อวันที่ 24 ต.ค.61 บรรยายพฤติการณ์ความผิดสรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 29 ต.ค.58 – 22 ก.ค.59 พวกจำเลย ได้แบ่งหน้าที่กันทำ เบียดบังเอาเงินงบประมาณ ของสำนักงาน พศ.ประจำปี 2559 จำนวน 69,700,000 บาท (จากวงเงินงบประมาณประจำปี 2559 จำนวน 5,360,188,000 บาท) ไปเป็นประโยชน์ของตน โดยใช้ ‘วัด’ เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดรับโอนเงิน ด้วยการให้ ‘วัด’ โดยจำเลยที่ 5 ในฐานะเจ้าอาวาส วัดสระเกศ เสนอโครงการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม เพื่อรับเงินสนับสนุนที่เบียดบังมา จากที่ได้มีการพิจารณาอนุมัติโครงการเงินอุดหนุนในโครงการอบรมคุณธรรม จริยธรรม จำนวน 37,200,000 บาท และโครงการศูนย์กลางเผยแผ่กิจการพระพุทธศาสนา จำนวน 32,500,000 บาท ซึ่งวัดสระเกศฯ ได้รับอนุมัติเงินไปเพียงวัดเดียว โดยเมื่อวันที่ 11 เม.ย.61 พ.ต.ท.พงศพร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.สำนักงาน พศ.ได้แจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน ซึ่งมีการส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ดำเนินการไต่สวนตามกฎหมาย

ทั้งนี้คำขอท้ายฟ้อง โจทก์ขอศาลให้มีคำสั่งจำเลยที่ 1-5 ร่วมกันคืนเงินหรือใช้เงินจำนวน 69,700,000 บาท คืนแก่สำนักงาน พศ. ผู้เสียหาย พร้อมขอให้ศาลนับโทษจำคุก นายพนม อดีต ผอ.สำนักงาน พศ. จำเลยที่ 1 กับคดีหมายเลขดำ อท. 253/2561 , อท.254/2561 (ร่วมทุจริตการจัดสรรเงินงบ พศ.) ของศาลนี้ และ “พระพรหมสิทธิฯ” อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ จำเลยที่ 5 กับคดีหมายเลขดำ อท.197/2561 (ร่วมฟอกเงิน) ของศาลนี้ด้วย

ขณะที่ระหว่างการพิจารณาคดีนี้ นายพนม อดีต ผอ.สำนักงาน พศ. จำเลยที่ 1 ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำไม่ได้รับการประกันตัวซึ่งได้ถูกดำเนินคดีหลายสำนวนในศาลนี้ ส่วน “พระพรหมสิทธิ ธงชัย สุขโข” อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ นั้นก็เพิ่งได้รับการประกันตัวเมื่อวันที่ 15 ส.ค.62 โดยศาลตีราคาหลักประกัน 2.5 ล้านบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขให้จำเลยมารายงานตัวต่อศาลทุ-ก 1 เดือนไปจนกว่าศาลชั้นต้นจะมีคำพิพากษา และห้ามเดินทางอกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่จะได้รับอนุญาต

โดยวันนี้ “พระพรหมสิทธิ ธงชัย สุขโข” อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ จำเลยที่ 5 สวมชุดขาวมาศาลพร้อมคณะลูกศิษย์ ส่วนจำเลยที่ 1- 4 นั้นถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำวันนี้ศาลได้เบิกตัวทั้งหมดมาพร้อมฟังคำพิพากษา

จำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ

ขณะที่ศาลพิเคราะห์พยานคำเบิกความและพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายที่หักล้างกันแล้วฟังได้ว่า การกระทำของจำเลยที่ 1 ถึงที่ 5 เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 จึงพิพากษา พิพากษา ให้จำคุกจำเลยที่ 1 เป็นเวลาทั้งสิ้น 2 ปี 12 เดือน , จำเลยที่ 2-4 จำคุกคนละ 3 ปี 18 เดือน

ส่วน”พระพรหมสิทธิ ธงชัย สุขโข” อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ จำเลยที่ 5ให้จำคุก 36 เดือน และปรับ 27,000 บาท โดยในส่วนของจำเลยที่ 5 นั้นศาลเห็นว่า ที่ผ่านมาได้ปฏิบัติหน้าที่ในการเผยแพร่ศาสนามาอย่างต่อเนื่อง และเป็นพระชั้นผู้ใหญ่ไม่เคยกระทำผิดทางวินัยเห็นควรให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี

สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติลบภาพลักษณ์กรณีทุจริตเงินทอนวัด

นายณรงค์ทรงอารมณ์ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยภายหลังการประกาศการประกาศในราชกิจจานุเบกษาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติว่าการขับเคลื่อนงานจะสานการทำงานเรื่องการปราบปรามการทุจริตของหน่วยงานในสังกัดและคณะสงฆ์ไม่ให้เกิดการทุจริตเช่นกรณีเงินทอนวัดด้วยการวางระบบตรวจสอบงบประมาณตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางติดตามการเบิกจ่ายงบประมาณและการทำงานทุกๆ3เดือนตั้งเป้าหมายเป็นต้นแบบองค์กรที่มีความโปร่งใสควบคู่กับการพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์พร้อมสนองงานคณะสงฆ์ได้อย่างเต็มที่

นอกจากนี้ยังร่วมกับภาคส่วนต่างๆฟื้นฟูให้พุทธมณฑลจังหวัดนครปฐมของไทยเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาโลกเป็นสถานที่จัดกิจกรรมสำคัญทางพระพุทธศาสนาในภูมิภาคอาเซียนและวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาของนานาประเทศรวมถึงสนับสนุนการพัฒนาคณะสงฆ์ไทยในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาหลักธรรมคำสอนได้มีการประสานงานกับคณะสงฆ์ในเบื้องต้นบ้างแล้วการสร้างตัวบุคคลบุคลากรในการขับเคลื่อนเผยแผ่พระพุทธศาสนาโดยเฉพาะเพื่อให้ประชาชนชาวพุทธเข้าใจหลักธรรมคำสอนอย่างแท้จริงทั้งเรื่องการปฏิบัติธรรมการเทศนาโดยเฉพาะการพัฒนาการศึกษาของพระสงฆ์สามเณรให้มีประสิทธิภาพหลังพระราชบัญญัติการศึกษาพระปริยัติธรรมประกาศใช้อย่างเป็นทางการ

Leave a Reply