วันเสาร์ที่ 11 เมษายน 2563 พระมหานพพร ปุญฺญชโย ป.ธ.9 รองผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร ผู้แทนวัดพระธรรมกาย มูลนิธิธรรมกาย พร้อมคณะศิษย์มอบอุปกรณ์ป้องกันไวรัส ประกอบด้วย หน้ากากอนามัยแบบใส่แผ่นกรองจำนวน 500 ชิ้น เจลแอลกอฮอล์แบบพกพา 200 หลอด โดยได้รับความเมตตาจาก พระมหาราชัน จิตฺตปาโล ดร.ผู้ช่วยอธิการบดี ฝ่ายกิจการนิสิต มหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และคณะฯเป็นผู้แทนในการรับมอบ และได้มอบ หน้ากากอนามัย และเจลแอลกอฮอล์แบบพกพา 100 หลอด แก่คณาจารย์และบุคลากรหลักสูตรสันติศึกษา มจร
โดยได้รับความเมตตาจาก พระมหาดวงเด่น ฐิตญาโณ ผศ., ดร.ผู้อำนวยการหลักสูตรปริญญาโท สันติศึกษาเป็นผู้แทนรับมอบ ซึ่งอุปกรณ์ป้องกันไวรัสเหล่านี้กองกิจการนิสิตจะได้จัดสรรให้กับพระนิสิตและบุคลากรในมหาวิทยาลัยต่อไป ผู้สนใจร่วมบริจาคสอบถามรายละเอียดได้ที่ ศูนย์อำนวยการคณะทำงานป้องกัน COVID-19 วัดพระธรรมกาย โทร.096-168-4355 Line ID: anti-co19 หรือบริจาคออนไลน์ได้ที่ https://donate.dkcmain.org
ทั้งนี้พระเทพปวรเมธี รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มจร ในฐานะประธานศูนย์ควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด (ศปค.19) มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้ระบุว่า ทางศูนย์ ฯ ได้ออกมาตการ 5 มาตรการในการป้องกันและยับยั้งไวรัสโควิด – 19 ดังต่อไปนี้
1. มาตรการด้านการปฏิบัติงานของบุคลากรของมหาวิทยาลัยให้บุคลากรของทุกส่วนงานสามารถปฏิบัติงานจากบ้าน (work from home) และจัดวาระการสลับวันเข้าปฏิบัติงานของบุคลากรที่มีความจำเป็นต้องปฏิบัติงานในสำนักงาน ลดความแออัดและป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ รวมทั้งการประชุมสัมมนาโดยระบบออนไลน์ โดยได้สื่อสารให้ทุกส่วนงาน ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ปฏิบัติตามนโยบายและมาตรการให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน อีกทั้งกำชับให้บุคลากรของ มจร ต้องดูแลรักษาสุขภาพตนเองอย่างเข้มงวด
2. มาตรการด้านการจัดการศึกษา มหาวิทยาลัยได้กำหนดให้จัดการเรียน การสอนและการสอบวัดผลประเมินผลแบบออนไลน์ทุกรายวิชาและทุกระดับชั้นของการจัดการศึกษา พร้อมกันนี้ยังมีมาตรการในการช่วยเหลือนิสิตในการปรับลดค่าธรรมเนียมการศึกษา มอบทุนการศึกษาและมาตรการช่วยเหลือด้านอื่นๆ เพื่อลดภาระของนิสิตในการดำรงชีวิต ส่วนการรับสมัครเข้าศึกษาและการจัดการเรียนการสอนเน้นระบบออนไลน์เช่นเดียวกัน สำหรับคณาจารย์ให้เตรียมการสอนออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบ รองรับปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดที่อาจยังคงอยู่ต่อไปอีกนาน
3. มาตรการดูแลบุคลากรและนิสิตที่พักอยู่ในมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ซึ่งมีอยู่ประมาณ 400 รูป /คน ส่วนมากเป็นนิสิตจากต่างประเทศที่ไม่สามารถเดินทางกลับประเทศตนเองได้ มหาวิทยาลัยออกมาตรการกำกับดูแลอย่างเข้มข้น โดยไม่อนุญาตให้นิสิตออกนอกพื้นที่อย่างเด็ดขาด พร้อมทั้งจัดการด้านสุขอนามัย จัดเครื่องมือทางการแพทย์ เจลล้างมือ หน้ากากอนามัย ตรวจไข้และวัดอุณภูมิร่างกาย พ่นยาฆ่าเชื้อทุกพื้นที่และให้นิสิตเว้นระยะห่างกัน การฉันภัตตาหารใช้ภาชนะส่วนตน แยกกันนั่งฉัน นอกจากนี้ยังวางมาตรการป้องกันการเข้า-ออกทั้งบุคลากรและบุคลภายนอกอย่างเข้มงวด ตั้งแต่ทางเข้า-ออก ขึ้นและลงอาคารหอพักนิสิต
4. มาตรการด้านการสื่อสารต่อสาธารณชน ในฐานะที่ มจร เป็นสถาบันอุดมศึกษาและเป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์ จึงได้ดำเนินการสื่อสารแนวคิดยึดหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้นำไปปรับใช้ในการดำรงชีวิต ในทุกระบบการสื่อสาร โดยมีศูนย์ควบคุมและป้องการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ของมหาวิทยาลัย เป็นแกนกลางในนำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาออกเผยแผ่ทางสื่อสารมวลชนทุกแขนงตลอดเวลาตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน
5.มาตรการการบริหารจัดการภายในพื้นที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มหาวิทยาลัยได้จัดตั้งศูนย์ควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 (ศปค.19 ) ได้กำหนดมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด อย่างเข้มงวด ได้ดำเนินการจัดทำบิ๊กคลีนนิ่งและพ่นยาฆ่าเชื้อในบริเวณพื้นที่ทั้งหมด พร้อมกำหนดให้มีการคัดกรองบุคลากร นิสิต และบุคคลทั่วไปที่จะเข้าไปภายในบริเวณมหาวิทยาลัยต้องผ่านการวัดอุณภูมิร่างกายทุกคน และหากเป็นบุคคลภายนอกต้องมีการซักประวัติการเดินทางและบันทึกประวัติอย่างละเอียด หากมีอุณภมิร่างกายสูงผิดปกติจะไม่อนุญาตให้เข้าภายใน นโยบายและมาตรการนี้ให้วิทยาเขต วิทยาลัยสงฆ์ ห้องเรียนและหน่วยวิทยบริการทั่วประเทศนำไปปฏิบัติเป็นแนวทางเดียวกัน
Leave a Reply