วันที่ 24 พ.ค.2563 สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ กรรมการมหาเถรสมาคม เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช นำคณะสงฆ์ไปเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย จังหวัดสระบุรี ที่นำญาติโยมสร้างความมั่นคงด้านอาหารช่วงภัยโควิด 19 ด้วยการใช้พื้นที่วัดปลูกพืชผักสวนครัว ถึงรวมทั้งที่วัดมงคลชัยพัฒนา
ก่อนหน้านี้นายณรงค์ทรงอารมณ์ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.)เปิดเผยว่าได้ประชุมคณะผู้บริหารทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคผ่านระบบการประชุมทางไกลโดยได้มอบให้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.)ทั่วประเทศขยายผลจากศูนย์ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019หรือโควิด-19 ตามพระดำริสมเด็จพระสังฆราชโดยให้ดำเนินการจัดทำตู้พระทำนำสุขและสวนครัวนำสุขพอเพียงและเพียงพอตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
โดยให้แต่ละ พศจ.นำไปต่อยอดแนวคิดและขับเคลื่อนร่วมกับคณะสงฆ์เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนต่อไปโดยตู้พระทำนำสุขจะเป็นการให้พระสงฆ์นำอาหารจากการบิณฑบาตที่นอกเหนือจากการฉันไปใส่ตู้ดังกล่าวเพื่อให้ประชาชนสามารถนำเครื่องอุปโภคบริโภคไปใช้ส่วนสวนครัวนำสุขจะเป็นการให้วัดที่มีความพร้อมปลูกพืชผักสวนครัวเพื่อแจกจ่ายผลผลิตให้กับประชาชนที่เดือดร้อน
อย่างไรก็ตามนายณรงค์ ได้เดินทางมาเป็นประธานเปิดสวนวิถีพุทธ วิถีเกษตร สวนครัวนำสุข พอเพียง เพียงพอ ตามรอยศาสตร์พระราชา และ ตู้พระทำ นำสุข ที่ประชาชนสามารถ มาหยิบข้าวสารอาหารแห้งได้ฟรีเช่นกัน ณ วัดทรงเสวย อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท โดยมีพระสุธีวราภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดชัยนาท และพระครูประกาศสรวุฒิ (ศิริ สุวณฺณรํสี) เจ้าอาวาสวัดทรงเสวย ให้การต้อนรับ ซึ่งทั้งสองโครงการนี้ วัดทรงเสวยเป็นวัดแรกในประเทศไทย ที่ดำเนินการตามพระดำริของ สมเด็จพระสังฆราช และมติของเถรสมาคม เพื่อช่วยชาวบ้านสู้วิกฤตโควิด -19
โดยระหว่างการทำกิจกรรม ปลูกหว่านพืช ผักสวนครัว ทางพระสุธีวราภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดชัยนาท ได้ร่ายบริกรรมคาถาเจริญงอกงาม ปลอดโรค ปลอดภัย ขณะหว่านเมล็ดพันธุ์และรดน้ำต้นไม้ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ แก่ชาวบ้าน ส่วนบรรยากาศ ตู้พระทำ ปันสุข ที่นำข้าวสารอาหารแห้ง ผักสดที่วางไว้ที่เป็นผลผลิต ของทางวัด มาวางไว้ให้ชาวบ้าน ได้มาหยิบกัน อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน
พระครูประกาศสรวุฒิ (ศิริ สุวณฺณรํสี) เจ้าอาวาสวัดทรงเสวย เปิดเผยว่า ทางสมเด็จพระสังฆราช มีพระดำริให้วัดที่มีความพร้อม สามารถดำเนินการ “สวนวิถีพุทธ วิถีเกษตร”โดยชาวบ้านนั้นสามารถมาหยิบผักไปกินได้ฟรี หยิบไปแต่พอดี หากมีเมล็ดพันธุ์ก็ก็นำมาปลูก เพราะทางวัดร่วมกับชาวบ้าน เกษตรกร ในละแวกวัดช่วยกันปลูกกันแล้วในพื้นที่วัด ส่วนอีกโครงการคือ “ตู้พระทำ นำสุข” ทางวัดได้เอาชั้นไม้เก่า ไม่ได้ใช้งานแล้ว มาซ่อมแซม วางไว้ที่บริเวณวัดเพื่อให้ชาวบ้านได้มาหยิบของไปใช้ยามลำบาก ทั้งข้าวสาร ทั้งมาม่า ปลากระป๋อง ทั้งสองโครงการ จะดำเนินการไปอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าสถานการณ์โควิด-19 จะสงบลง ก็ทำต่อเพื่อการร่วมมือ การช่วยเหลือกันในสังคม อย่างยั่งยืน ตามพระดำริฯ
Leave a Reply