“นิยม” ถาม “อนุชา”ตอบในสภาฯ ปมอดีตพระผู้ใหญ่ถูกตัดสินคดีเงินทอนวัด

วันที่ 10 ก.ย.2563 นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงประเด็นการอภิปรายฯของ นายนิยม เวชกามา สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรพรรคเพื่อไทย เกี่ยวกับเรื่องของพระพุทธศาสนาระบุว่ามีพระเถระจำนวน 7 รูป ถูกดำเนินคดี และ  เมื่อศาลตัดสิน ปรากฏอย่างชัดเจนแล้วว่า พระสงฆ์ที่ถูกฟ้อง ไม่ได้ทุจริต ได้นำเงินไปใช้ เป็นประโยชน์แก่พระพุทธศาสนา แก่ประชาชน และประเทศชาติบ้านเมือง โดยรวม และ ศาลท่านยังยืนยันอีกว่า พระไม่ต้องเอาเงินไปคืนให้รัฐ ปรากฏตามคำพิพากษาแล้ว ในเมื่อศาลตัดสินว่า ท่านไม่ได้ทุจริต ไม่มีเงินทอน ตามที่ฟ้อง แล้วทำไมรัฐบาล จึงยังไม่คืนผ้าเหลืองให้ท่าน..??

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวตอบว่ามื่อถูกตัดสินลงโทษแล้ว จะกลับมาห่มผ้าเหลืองอีกนั้น จะต้องผ่านกระบวนการบรรพชาอุปสมบท ถึงจะมีสิทธิ์ห่มผ้าเหลืองได้ ถ้าหากห่มผ้าเหลืองโดยไม่ได้อุปสมบทจะมีความผิดฐานแต่งกายเลียนแบบพระ ตามมาตรา 208 ประมวลกฎหมายอาญาว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับศาสนา

นายอนุชาพร้อมกับกล่าวย้ำต่ออีกว่า พระที่ผิดพระธรรมวินัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระที่ถูกจับแล้วต้องลาสิกขาบท มีพระธรรมวินัยระบุไว้ชัดเจนว่าต้องบรรพชาใหม่ ไม่สามารถกลับมาห่มผ้าเหลืองได้ และไม่ได้อยู่ที่จิตใจ ไม่ว่าจะเป็นการสึกโดยเต็มหรือไม่เต็มใจก็ตาม จากที่นายนิยม เวชกามา ระบุว่ามีพระจำนวน 3 แสนรูป หายไปจำนวน 8 หมื่นรูป เหลือเพียง 220,000 รูปนั้น ไม่ตรงกับข้อมูลความเป็นจริง ปัจจุบันประเทศไทยมีวัดอยู่ทั้งหมดประมาณ 42,000 กว่าวัด ตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปัจจุบันมีจำนวนพระไม่เกิน 250,000 รูป ซึ่งตรงนี้แสดงให้เห็นว่าในคำอภิปรายหรือคำเสนอแนะในการอภิปรายนายกรัฐมนตรีนั้น บางครั้งอาจจะฟังได้ บางครั้งอาจจะฟังไม่ได้..

ส่วน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ตอบคำถามเรื่องนี้ ดังนี้

Leave a Reply