จากการที่มีพระนิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย โพสต์เฟชบุ๊คเรื่องที่มหาวิทยาได้ตัดงบประมาณเรื่องสวัสดิการนิสิตโดยเฉพาะเรื่องรถเมล์รับ-ส่งนิสิต ตัดลงเหลือแค่ 3 คันและนิสิตนั่งแออัดยัดเยียดกันยังกะปลากระป๋องนั้น
ต่อมาพระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ ได้ออกมาพูดเพิ่มเติมในข่าวว่า “โถ..!! คุณภาพชีวิตพระนิสิต มจร และยังพูดต่อไปอีกว่ามหาวิทยาลัยมีความโหดร้ายและไม่มีเมตตาธรรมต่อพระนิสิตเลย..”
ในเรื่องดังกล่าว พระเมธีธรรมาจารย์ (เจ้าคุณประสาร) รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา มจร ซึ่งรับผิดชอบในเรื่องแผนและงบประมาณของมหาวิทยาลัยได้ชี้แจงว่า
ปกติมหาวิทยาลัยได้จัดรถเมล์รับส่งพระนิสิตเป็นประจำทุกวันเรียน โดยแบ่งสาย ดังนี้
1.สนามหลวง -มจร วังน้อย วันละ 4 คัน โดยเริ่มรับจากสนามหลวง ไป มจร วังน้อยเวลา 06.30 -07.30 น.โดยทะยอยออก ขากลับรับจาก มจร วังน้อย ไปสนามหลวง เวลา 16.30 น.รอบแรกจำนวน 2 คัน รอบสอง เวลา 17.30 น. จำนวน 2 คัน
2.วัดศรีสุดาราม บางขุนนท์ ไป มจร วังน้อย ไปกลับเหมือนกันกับที่รับส่งสนามหลวง
3 . จากสวนจตุจักร ไป มจร วังน้อย เวลา 07.00 น. จำนวนหนึ่งคัน และรับกลับเวลา 17.00น.
รวมรถเมล์รับส่งทั้งหมด 9 คันและถ้าไม่เพียงพอก็สามารถเสริมได้อีก นี่เป็นเพียงวันเปิดเรียนวันแรกเท่านั้นเอง
ปัญหาที่พระนิสิตโพสต์และพระมหาไพรวัลย์ นำเอาไปพูดต่อนั้นเกิดจากเมื่อวานนี้ (8 พ.ย. 63) ซึ่งเป็นวันแรกที่เปิดภาคการศึกษา รถเมล์รับ-ส่ง สายสนามหลวงขาดไปหนึ่งคัน จึงทำให้ต้องรวมจาก 4 คัน เป็น 3 คัน จึงอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดทั้งจากพระนิสิตผู้โพสต์และพระมหาไพรวัลย์ ที่ไม่เข้าใจข้อเท็จจริงทั้งหมด
วันนี้เมื่อมีข่าวปรากฏออกมาฝ่ายกิจการนิสิตก็ได้เรียกประชุมร่วมกับคณะที่รับผิดชอบและผู้แทนนิสิตได้กำหนดเวลาออกจาก มจร วังน้อยเพื่อให้ความสะดวกนิสิตอย่างเต็มที่ ตามที่นิสิตต้องการและจำเป็น
วันนี้อาตมาในฐานะที่รับผิดชอบเรื่องแผนและงบประมาณ ได้นำฝ่ายกองแผนงาน กองกิจการนิสิตและฝ่ายประชาสัมพันธ์ มจร ลงพื้นที่ดูแลรถรับส่งและสอบถามนิสิตโดยตรงจากการพูดคุยกับพระนิสิตหลายรูปสรุปตรงกันว่า
“รถมีจำนวนเพียงพอ ไม่มีปัญหาตามที่เป็นข่าว แต่ขอให้บริหารเวลา คือให้ขยายเวลาเข้า-ออกให้เหมาะสมเท่านั้นเอง..ยืนยันว่าไม่มีปัญหาตามที่เป็นข่าว..”
พระเมธีธรรมาจารย์ กล่าวต่อไปว่า “ปัจจุบันมหาวิทยาลัยมีรถเมล์รับส่งนิสิตจำนวน 9 คันและค่าใช้จ่ายในปีงบประมาณที่ผ่านมากว่า 6 ล้านบาท ค่าภัตตาหารเช้า-เพล สำหรับพระนิสิตกว่า 8 ล้านบาท ทั้งหมดนี้มหาวิทยาลัยไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณเลย ผู้บริหารต้องหางบจากการบริจาคของญาติโยมมาใช้จ่ายในเรื่องเหล่านี้ และโดยเฉพาะปีนี้มีปัญหาเรื่องโควิด-19 ญาติโยมก็ฝืดเคืองเรื่องเศรษฐกิจอยู่แล้ว..”
มหาวิทยาลัยจึงขอยืนยันว่า ได้ให้ความสำคัญ ได้จัดสรรสวัสดิการให้กับพระนิสิตอย่างเพียงพอและเหมาะสมกับสมณภาวะ แม้ว่าจะรับผิดชอบค่าใข้จ่ายมากเพียงใดก็ตามมหาวิทยาลัยก็ยินดีเพื่อจะให้พระหนุ่มเณรน้อยได้รับการศึกษาที่ดี พัฒนาคุณภาพชีวิตและนำเอาความรู้ที่ได้จากการศึกษาเล่าเรียนในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาเพื่อประโยชน์สุขของประเทศชาติและชาวโลกต่อไป รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา มจร กล่าวทิ้งท้าย..
*************************
Leave a Reply