เมื่อวันที่ 28 ม.ค.2564 นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตอบกระทู้ถามสดด้วยวาจาที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 16 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) นายนิยม เวชกามา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเพื่อไทยต่อกรณีที่พระสงฆ์ถูกทำร้ายถึงแก่มรณภาพ ในพื้นที่ ต.ห้วยยาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ซึ่งเป็นเหตุสะเทือนใจที่เกิดขึ้นในวงการสงฆ์และยังไม่สามารถจับคนร้ายได้ โดยที่ผ่านมาพบว่ามีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นหลายพื้นที่ แต่พระสงฆ์ไม่เคยได้รับความเป็นธรรม จึงสอบถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่ามีการดำเนินงานอย่างไร
นายอนุชา ในฐานะรัฐมนตรีที่กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติกล่าวชี้แจงว่า จากกรณีที่เกิดเหตุกับพระสงฆ์จนถึงแก่มรณภาพ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่และผู้ที่เกี่ยวข้องติดตามอย่างใกล้ชิด ซึ่งที่ผ่านมาภาครัฐก็มิได้นิ่งนอนใจมีการติดตามทุกคดีอย่างต่อเนื่อง บางคดียังอยู่ในระหว่างการสอบสวน
สำหรับกรณีที่เกิดเหตุในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ประสานไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดชัยภูมิเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าเหตุเกิดขึ้นที่บริเวณที่พักสงฆ์ป่าว่าน ต.ห้วยยาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ พระภิกษุสงฆ์ที่ประสบเหตุ คือ พระสุริยา อุทาโณ อายุ 44 ปี พรรษา 7 ไม่ทราบสังกัดวัด เนื่องจากไม่พบเอกสารหนังสือสุทธิ บัตรประจำตัวประชาชน และไม่พบย่ามของพระภิกษุสงฆ์ในที่เกิดเหตุ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี โดยพบผู้ต้องหา จำนวน 6 คน อยู่ระหว่างการตรวจสอบ DNA
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวเพิ่มเติมว่า มีความเชื่อมั่นว่าเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายติดตามเรื่องนี้อย่างจริงจัง และมั่นใจในฝีมือตำรวจไทยว่าสามารถจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้ ส่วนกรณีที่พระสงฆ์ในพื้นที่อื่นโดนทำร้ายจนเป็นเหตุให้ถึงแก่มรณภาพ เช่น ในพื้นที่ จ.สกลนคร และ จ.สุราษฎร์ธานี คดีดังกล่าวอยู่ในกระบวนการชั้นศาลแล้ว ในส่วนของคดีฆาตกรรมพระในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้นมีหลายฝ่ายเกี่ยวข้อง ซึ่งจะต้องมีการหารือกันอีกครั้ง ยืนยันภาครัฐมิได้นิ่งนอนใจ
Leave a Reply