คณะสงฆ์ปทุมธานี “ฮื่ม” เตรียมเคลื่อนไหวเรียกร้องความเป็นธรรม ขณะที่สงฆ์ธรรมยุตกาฬสินธุ์ “บุกกรุงจันทร์นี้”

 

        วันที่ 2 ต.ค.64  ณ วัดเขียนเขต ต.บึงยี่โถ อ. ธัญบุรี  จ. ปทุมธานี มีพระสังฆาธิการ ระดับเจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบลและเจ้าอาวาสหลายสิบรูป รวมตัวกันไปถวายกำลังใจกับ “พระธรรมรัตนาภรณ์”  อดีตเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีที่ถูกมหาเถรสมาคมสั่งปลดฟ้าผ่าโดยไม่ทราบสาเหตุ จนสร้างความไม่พอใจให้กับคณะสงฆ์ในจังหวัดและศิษยานุศิษย์เป็นอันมาก เนื่องจากพระธรรมรัตนาภรณ์ เป็นพระมหาเถระที่ทุ่มเทงานให้กับกิจการคณะสงฆ์เป็นอย่างมาก ที่ประชุมจึงเตรียมเคลื่อนไหวเพื่อแสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์พระพุทธศาสนา

       “แหล่งข่าว” ผู้เข้าร่วมประชุมรูปหนึ่งเปิดเผยกับผู้สื่อข่าว thebuddh” ว่า ที่ประชุมได้มีการแสดงความห่วงใยและตั้งข้อสงสัยหลายประเด็ฯกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  สุดท้ายได้มติร่วมกันว่าจะเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับพระธรรมรัตนาภรณ์ พร้อมล่ารายชื่อคัดค้านมติของมหาเถรสมาคมในครั้งนี้ และจะเดินหน้าสู่กระบวนการเรียกร้องความเป็นธรรมให้เจ้าคณะจังหวัด โดยจะยื่นเรียกร้องความเป็นธรรมอย่างน้อย 3 หน่วยงานคือ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด,คณะกรรมาธิการศาสนา สภาผู้แทนราษฎรและผู้ตรวจการแผ่นดิน

       “ประเด็นหลักการถอดถอนทั้งหลวงพ่อจังหวัดและพระท่านที่ถูกถอดถอน ไม่ได้ยึดติดตำแหน่ง แต่จะทำอะไรต้องยึดหลักการ ระเบียบจริยาพระสังฆาธิการเขามี  ถอดถอนโดยไม่มีเหตุผล ไม่มีการชี้มูลความผิด  ตอนนี้ทุกรูปที่เป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา ทั่วประเทศมีโอกาสโดนได้หมด แล้วเราจะอยู่กันอย่างไร หากไม่ยึดหลักเกณฑ์และกฎหมาย”

        ในขณะที่ นายนิยม เวชกามา ส.ส.สกลนคร เขต 2 พรรคเพื่อไทย  เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวthebuddh” ว่า เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา พระป่าสายธรรมยุต เกือบ 200 รูป ได้นัดหมายมาประชุมที่วัดโสภณพัฒนาราม อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ โดยมี พระญาณรักขิต รองเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ ในฐานะเจ้าอาวาสวัดกล่าวเป็นประธานตามที่นำเสนอไปแล้ว ว่า คณะสงฆ์ธรรมยุตจังหวัดกาฬสินธุ์ มีมติไม่รับ มติ มหาเถรสมาคม  โดยจะลงชื่อเป็นบัญชีหางว่าวทำเป็นหนังสือยื่นต่อ สมเด็จมหาววีรวงศ์ เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ให้ทบทวนมติดังกล่าว โดยท่านเจ้าคุณพระญาณรักขิต นำพระสงฆ์จำนวนหนึ่ง ไปยื่นที่วัดราชบพิธฯ กรุงเทพมหานคร ในวันจันทร์นี้

         “ตนของฝากถึงกรรมการมหาเถรสมาคม ได้ทบทวน เรื่องดังกล่าว การปลดพระสังฆาธิการ ซึ่งเป็นพระผู้ใหญ่ที่มีคนเครารพนับถือทั้งจังหวัด จะต้องมีเหตุผล ไม่ใช่ไปฟังคำสั่งของฆราวาส ผู้มีอำนาจบางคน แล้วไปอ้างพระราชดำริ  จึงเห็นว่าเป็นการเสี่ยงเกินไปของจิตใจของพุทธศาสนิกชน  เป็นการทำลายจิตใจชาวพุทธ และจะถึงเข้าข่ายทำสังฆเภท ในหมู่สงฆ์…”   

     นายนิยม เวชกามา ยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า  เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์รูปใหม่ ที่มหาเถรสมาคมแต่งตั้งมีสมณศักดิ์เป็นพระครู เป็นพระสังฆาธิการเจ้าคณะอำเภอ จากจังหวัดหนองคาย อาวุโส ก็น้อยกว่ารองเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์รูปปัจจุบันด้วยซ้ำไป การปกครองสงฆ์ ฝ่ายธรรมยุต ท่านถือเรื่องอายุพรรษามาก

    “ ตนได้สอบถามไปยังรองเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ ฝ่ายธรรมยุต รูปปัจจุบัน ท่านแจ้งว่า ไม่ได้นัดพระภิกษุสงฆ์มาชุมนุม  แต่พระเหล่านั้นไม่มีที่พึ่ง จึงมาหาตน และตนก็ทำตามมติสงฆ์ธรรมยุตกาฬสินธุ์ หากยื่นหนังสือไปแล้ว  มส. ไม่ทบทวน พระภิกษุสงฆ์ ทั้งจังหวัด ก็จะลาออกจากทุกตำแหน่ง จะขออยู่เป็นพระทั่วไป ถือศีลและวินัย สงฆ์ 227  ข้อต่อไป ให้สำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ มหาเถรสมาคม ดำเนินการปกครองกันเองต่อไป พระภิกษุสงฆ์เราจะอยู่ปฎิบัติธรรมต่อไปตามปกติ..”

Leave a Reply