ปลัดกระทรวงมหาดไทยมอบถุงยังชีพประทานของสมเด็จพระสังฆราชและเยี่ยมเยียนผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดพิจิตร เน้นย้ำ “เราคนไทยไม่ทิ้งกัน เราคนไทยจะช่วยเหลือกัน เราคนไทยจะดูแลซึ่งกันและกัน”
วันเสาร์ที่ 9 ตุลาคม 2564 เวลา 10:00 น. ที่วัดวังจิก ต.วังจิก อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย พระครูสมุห์วัชระ ภทฺทธมฺโม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม วรวิหาร มอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดพิจิตร โดยมี นายไพบูลย์ ณะบุตรจอม ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร นายพยนต์ อัศวพิชยนต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทยประจำจังหวัดพิจิตร หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทยประจำจังหวัดพิจิตร นายอำเภอทุกอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับ
โอกาสนี้ นายสุทธิพงษ์ เปิดกรวยถวายสักการะหน้าพระรูป เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และอัญเชิญถุงยังชีพประทานพร้อมพระรูป มอบแก่ประชาชนผู้ประสบอุทกภัย รวมจำนวน 100 ชุด และถุงยังชีพของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 651 ชุด
ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงมีความห่วงใยพสกนิกรชาวไทยที่กำลังประสบอุทกภัย และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งโรงครัวพระราชทานและมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ ประชาชนจิตอาสา ให้ความช่วยเหลือประชาชน และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา โปรดให้มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนร่วมกับภาครัฐมาโดยตลอด
นายสุทธิพงษ์ กล่าวด้วยว่า ในวันนี้ ผมมีความตั้งใจมาเยี่ยมเยียนให้กำลังใจพ่อแม่พี่น้องประชาชนชาวตำบลวังจิก โดยได้รับพระเมตตาจาก สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ซึ่งทรงมีความห่วงใยพระภิกษุสงฆ์และพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยทั่วประเทศ ทรงประทานเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 100 ชุด มาช่วยเหลือพี่น้องประชาชน และได้รับการสนับสนุนถุงยังชีพจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพิ่มเติมอีกจำนวน 651 ชุด ซึ่งถือเป็นสิ่งที่พวกเราสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการดำรงชีพขณะกำลังประสบอุทกภัยได้ เป็นเครื่องเตือนใจให้ระลึกถึงว่า คนไทยด้วยกันไม่ทิ้งกัน มีอะไรเดือดร้อนก็มาช่วยกัน นอกจากนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการและติดตามพร้อมเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงาน เร่งเข้าให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชน และลงพื้นที่เยี่ยมเยียนให้กำลังใจพี่น้องประชาชนที่ประสบสถานการณ์อุทกภัยอย่างต่อเนื่อง และต้องขอขอบคุณ ข้าราชการในพื้นที่ทุกหน่วยงาน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. อปพร. และทุกภาคส่วน ที่ในขณะนี้ แม้ว่าบ้านของหลาย ๆ คนกำลังประสบปัญหาน้ำท่วมเช่นกัน แต่ก็ยังคงทำหน้าที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนด้วยความตั้งใจอย่างเต็มกำลังความสามารถ
นายสุทธิพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในขณะนี้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง และกรมอุตุนิยมวิทยาก็ได้มีประกาศแจ้งเตือนว่าประเทศของเรายังมีพายุฝนที่จ่อเข้าประเทศไทย ทั้ง “ไลออนร็อก” และพายุลูกอื่น ๆ ที่ใยช่วงเวลาเดือนตุลาคม – พฤศจิกายน คนไทยเรียกกันว่า “ปลายฝนต้นหนาว” จึงขอให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนทุกท่านอย่าได้ประมาท ช่วยกันติดตามข่าวพยากรณ์อากาศ ฟังข้อมูลข่าวสารจากภาครัฐ ทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผ่านทางหอกระจายข่าว ทีวี และเตรียมพร้อมยกข้าวของเครื่องใช้ที่จะต้องเก็บไว้ในที่สูง และขณะเดียวกันต้องดูแลตนเองให้ปลอดภัยจากโรคภัยไข้เจ็บที่จะมากับน้ำท่วมและภัยจากอุบัติเหตุ เช่น ดื่มเหล้าจนเมาแล้ววูบจมน้ำ โรคไข้หวัด อุจจาระร่วง โรคผิวหนัง ไฟฟ้าช็อตเนื่องจากน้ำท่วมถึงบริเวณปลั๊กไฟ เป็นต้น ต้องระมัดระวังความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และรักษาสุขอนามัย สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ และช่วยกันรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้เพื่อนบ้านในชุมชน อย่าประมาท ต้องป้องกันไว้ก่อน และหากต้องการขอรับความช่วยเหลือจากสถานการณ์อุทกภัย ติดต่อสายด่วนนิรภัย 1784 หากเจ็บไข้ได้ป่วยกระทันหันหรือเจอคนประสบอุบัติเหตุ โทร. 1669 และหากมีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจ ถูกทวงหนี้ไม่เป็นไปตามกฎหมาย โทร. 1567 ศูนย์ดำรงธรรม เพื่อเจ้าหน้าที่เข้าให้ความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที และขอเป็นกำลังใจให้กับพี่น้องประชาชนอีกครั้งหนึ่ง ขอให้ทุกท่านมีความสุข สุขภาพแข็งแรง คิดหวังสิ่งใดให้สมความปรารถนา รอดปลอดภัยจากภัยน้ำท่วมโดยเร็ววัน และต้องระลึกเสมอว่า “เราคนไทยไม่ทิ้งกัน เราคนไทยจะช่วยเหลือกัน เราคนไทยจะดูแลซึ่งกันและกัน” ตลอดไป
นายไพบูลย์ ณะบุตรจอม ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดพิจิตร ตั้งแต่วันที่ 11 กันยายน 2564 จังหวัดพิจิตรได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักและพายุดีเปรสชั่น “เตี้ยนหมู่” ประกอบกับน้ำในแม่น้ำยมเพิ่มสูงขึ้น ทำให้เกิดน้ำไหลหลากและท่วมขังในพื้นที่ทั้ง 12 อำเภอ 71 ตำบล 482 หมู่บ้าน ก่อให้เกิดความเสียหายต่อบ้านเรือนประชาชน พื้นที่การเกษตร และสิ่งสาธารณประโยชน์ในพื้นที่ โดยในส่วนของอำเภอโพธิ์ประทับช้าง มีบ้านเรือนได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย จำนวน 3 ตำบล 21 หมู่บ้าน 1,242 ครัวเรือน แบ่งเป็น ตำบลโพธิ์ประทับช้าง จำนวน 50 หลังคาเรือน จำนวน 860 หลังคาเรือน และตำบลไผ่ท่าโพ จำนวน 332 หลังคาเรือน
จากนั้นปลัดกระทรวงมหาดไทย และคณะ ลงเรือของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ออกเยี่ยมเยียนให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพให้แก่พี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยและไม่สามารถออกจากบ้านพักอาศัยได้ตามแนวแม่น้ำยม ตำบลวังจิก อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร
Leave a Reply