มือมืด “ปลดป้าย” ต้านพระครูเล็กออกแล้ว!!

วันที่ 15 พ.ย. 64 จากกรณีมหาเถรสมาคม มีคำสั่งแต่งตั้งพระสังฆาธิการ  และถอดถอนเจ้าคณะจังหวัด 3 รูป  โดยปรากฏทางสื่อโชเชียล เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2564 ซึ่งหนึ่งในนั้นมีพระเทพสารเมธี เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (ธ)  ผลดังกล่าวทำให้คณะสงฆ์จังหวัดกาฬสินธุ์(ธ) และ ญาติธรรมเคลื่อนไหวมีมติคัดค้านทันทีเพราะมองว่าไม่เป็นธรรม และได้นำรายชื่อหนึ่งแสนถวายฎีกาต่อในหลวงรัชกาลที่ 10 พร้อมกับลงรายชื่อคัดค้านในโลกออนไลน์ ถึงแม้ พระครูเล็กจะรับใบตราตั้งให้เป็น เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์(ธ) องค์ใหม่ไปแล้ว แต่การต่อต้านยังคงมีความเคลื่อนไหวรุนแรงมากขึ้น ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระแสการต่อต้านพระครูสุทธิญาณโสภณ (เล็ก สุทธิญาโณ) เจ้าคณะอำเภอสังคม จ.หนองคาย ที่มีคดีอธิกรณ์ แต่ได้มติ มส.แต่งตั้งให้ เป็นเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (ธ) แทนเจ้าคุณบัวศรี ที่ดูเหมือนสงบแต่ในทางกลับกันมีความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนลึกลับ เนื่องจากมีการไปขโมยถอดป้ายของชาวบ้านที่ปักไว้ไม่ต้อนรับพระครูเล็กในหลายจุด โดยเฉพาะบริเวณสี่แยกอำเภอยางตลาด ที่เป็นจุดสำคัญในการเดินทางเข้าตัวเมืองกาฬสินธุ์ ที่แต่เดิมชาวบ้านได้นำป้ายต่อต้านไปติดไว้ “ป้ายดังกล่าว” ถูกถอดออกไปทั้งหมด ทำให้ประชาชนเริ่มไม่สบายใจ เนื่องจากยังมีกระแสข่าวว่า พระเล็กพยามที่จะเดินทางเข้ามาเป็นเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์  แม้จะไม่ได้รับการยอมรับจากชาวพุทธกาฬสินธุ์ และ คณะสงฆ์สายป่าทั้งจังหวัดกาฬสินธุ์ก็ตาม

โดยแหล่งข่าวระบุว่า ตั้งแต่ พระครูเล็ก รับตราตั้งเป็นเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์(ธ) ปรากฏมีการเคลื่อนไหวจากตำรวจและทหาร เข้ามาทำทีสอบถามชาวบ้าน โดยเฉพาะในเขตอำเภอที่มีการติดป้ายไม่ต้อนรับ และจะใช้คำถามว่าป้ายนี้ใครเป็นคนนำมาติด และในหลายครั้งชาวบ้านก็จะตอบว่าเป็นความสมัครใจของชาวบ้านเองที่ต้องการปกป้องพ่อแม่ครูอาจารย์ เพราะเชื่อว่าการปลดเจ้าคุณบัวศรี ในครั้งนี้ไม่มีความเป็นธรรม มีการสอดไส้คำสั่ง ซึ่งชาวกาฬสินธุ์ยังคงรอคำตอบจาก มหาเถรสมาคม และ สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งต่อให้ในครั้งนี้หรืออนาคตแม้ไม่มีคำตอบ คนกาฬสินธุ์ ก็ยังเฝ้ารอคำตอบและการแก้ไขที่ชัดเจนจาก มส.-พศ. ว่าการปลด เจ้าคุณบัวศรี ด้วยเหตุผลอะไร หากตอบไม่ได้ คงยังมีการเคลื่อนไหวของชาวพุทธ แม้จะมีคนที่จะเข้ามากดดันก็คงไม่ทำให้คนกาฬสินธุ์หยุดที่จะต้องการรู้ความจริงไม่ได้ เพราะเชื่อว่านี่คือกระบวนการทำลายศรัทธาประชาชนทางพระพุทธศาสนา

แหล่งข่าวระบุต่อว่า ขณะนี้รู้เพียงว่า พระเล็ก กำลังรอจังหวะที่จะเข้ามาที่กาฬสินธุ์ แต่ติดเพียงอย่างเดียวก็คือยังไม่มีวัดหรือสำนักสงฆ์ให้พักอาศัย ส่วนวิกฤติศรัทธาต่อประชาชนยังเชื่อว่าจะไม่สามารถทำอะไรพระเล็กได้ เพราะยังมีขาใหญ่คอยอำนวยความสะดวกดูแลกุยทางให้ และปัจจุบันก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.ติดตามคอยดูแลพระเล็กใกล้ชิด แต่จริง ๆ แล้วปัญหานี้แหล่งข่าวมองว่า สามารถที่จะยุติได้โดยง่ายเพียงแค่ พระเล็ก ปล่อยวางได้จริง ไม่ยึดติดกับลาภยศ นั้นคือการลาออกจากตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งจะไม่ทำให้เกิดปัญหา สังฆเภท หมายถึง สงฆ์แตกแยก และที่สำคัญ มหาเถรสมาคมและสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ก็ไม่เสียหาย เพราะถือเป็นการเปิดทางในการยุติปัญหา และคนกาฬสินธุ์ที่เคารพนับถือพ่อแม่ครูอาจารย์ของตนเองจะได้อยู่อย่างสงบเสียที

ส่วนความคืบหน้าทางคดีกรณี ส.ส.พรรคเพื่อไทย 4 คน แจ้งความจับ นายบัญชายุทธ นาคมุจลินท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกาฬสินธุ์ ในข้อหาหมิ่นประมาทและ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เนื่องจากมีพฤติกรรมทำหนังสือลงวันที่ 18 ตุลาคม 2564 รายงานผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ใส่ความบุคคลถึง 7 คน อ้างว่ามีพฤติกรรมเคลื่อนไหวปลุกระดมประชาชนให้ต่อต้าน มติมหาเถรสมาคม ที่กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนตามกฏหมายที่ สภ.เมืองกาฬสินธุ์

ล่าสุดแหล่งข่าวแจ้งว่า พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดีนี้ ได้ทำการรวบรวมเอกสารหลักฐานตามสื่อออนไลน์ และได้เตรียมเชิญ ส.ส.พรรคเพื่อไทย 4 คน ประกอบด้วย นายนิยม เวชกามา ส.ส.สกลนคร , และส.ส.กาฬสินธุ์ อีก 3 คน ประกอบด้วย นายคมเดช ไชยศิวามงคล ,นางบุญรื่น ศรีธเรศ และนายพีระเพชร ศิริกุล มาสอบปากคำเพิ่มเติมภายในสัปดาห์นี้ แต่เนื่องจากติดประชุมสภาก็คงจะเชิญมาให้ปากคำเพิ่มเติมที่ละคนและเมื่อสอบผู้เสียหายครบทุกคน ก็จะเชิญ นายบัญชายุทธ นาคมุจลินทร์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกาฬสินธุ์ มารับทราบข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีต่อไป

Leave a Reply