ศิษย์เจ้าคุณบัวศรีไม่หยุด! จี้มส.-พศ.ตอบปมปลดเจ้าคณะให้ชัดเจน ‘วัดป่ากุง’ปัดรับพระครูเล็ก

วันที่ 15 ต.ค. 64  ความคืบหน้ากรณีปัญหาการถอดถอนพระสังฆาธิการระดับเจ้าคณะจังหวัด 3 รูป ประกอบด้วยจังหวัดกาฬสินธุ์ (ธ) จังหวัดปทุมธานี และจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยเฉพาะที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้มีพุทธศาสนิกชนศิษยานุศิษย์ของพระเทพสารเมธี หรือเจ้าคุณบัวศรี อดีตเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ ออกมาคัดค้านเนื่องจากเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม

ล่าสุดวันนี้  ที่ จ.กาฬสินธุ์ ยังคงมีความเคลื่อนไหวของศิษยานุศิษย์ของพระเทพสารเมธี หรือ เจ้าคุณบัวศรี เจ้าอาวาสวัดประชานิยม เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ถึงแม้เจ้าคุณบัวศรีได้ปลีวิเวกตัดปัญหาในเรื่องดังกล่าวไปแล้ว แต่ในกลุ่มศิษยานุศิษย์และคนกาฬสินธุ์ เห็นว่าปัญหานี้คงจะต้องมีการเคลื่อนไหวเพื่อทวงความถูกต้องเพราะมองว่ามีความพยายามของกลุ่มบุคคล ซึ่งเป็นฆารวาสไปยุ่งเกี่ยวในกิจการของสงฆ์ มีการชี้นำและจะทำให้ศาสนาพุทธ ซึ่งเป็นศาสนาประจำชาติเสื่อมถอยด้วยกระบวนการทางกฎหมายที่ไม่เป็นธรรม โดยบรรยากาศภายในวัดประชานิยม พุทธศาสนิกชนยังคงเข้ามาถวายภัตตาหารเช้าและปฏิบัติธรรมตามปกติ

น.ส.อิงค์ณภัจฉร์ ชินวัตรนุวงศ์ ประธานชมรมรักพุทธศาสน์นานาชาติ กล่าวว่า การที่พระสังฆาธิการทั้ง 3 รูปนิ่งสงบโดยเฉพาะเจ้าคุณบัวศรี ได้ปลีวิเวกไปแล้วนั้นกรณีนี้ในส่วนพุทธศาสนิกชนก็ยังคงต้องเดินหน้าเพื่อทวงความถูกต้องชอบธรรม ไม่ว่าใครจะมีเหตุผลในการมองปัญหานี้อย่างไร ส่วนตัวแล้วเห็นว่าการใช้กฎหมายที่ไม่เป็นธรรมกับพระสงฆ์ไม่ว่าจะรูปใดนั้นไม่ถูกต้อง ในการถอดถอนชัดแจ้งว่าทั้ง 3 รูปไม่ได้รับรู้ในเรื่องของอธิกรณ์ หมายถึงคดีทางสงฆ์ แต่กลับมีการใช้มติมหาเถรสมาคม ซึ่งทาง พศ.ก็อ้างว่าเรื่องถอดถอนได้ทำถูกแล้วตามกระบวนการ

“กรณีนี้เป็นการทำลายศรัทธาของประชาชนจริงๆ จึง ต้องการที่จะให้มีการพิสูจน์กันไปเลยว่าทั้ง 3 รูปผิดอะไร ได้ประพฤติตามที่ถูกกล่าวหาจริงหรือไม่ โดยเฉพาะของ เจ้าคุณบัวศรี ท่านเป็นพระที่บวชมาตั้งแต่เป็นเณร เป็นพระที่มีปฏิปทางดงามเป็นที่ประจักษ์ต่อคนกาฬสินธุ์ และคนในภาคอีสานและทั่วไปที่รู้จักท่านเจ้าคุณบัวศรี การที่ พศ.ออกมาพูดเพียงว่าเป็นเรื่องการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในกรณีพระป่าชื่อดังมีปัญหาในเรื่องเสพเมถุน โดยระบุว่า ท่านเจ้าคุณบัวศรีไม่ยอมแก้ปัญหาในเรื่องนี้ ทั้งที่มีรายงานอีกด้านว่าเรื่องนี้เจ้าคุณบัวศรี ก็ได้ดำเนินการตาม พ.ร.บ.สงฆ์ฯ มาโดยตลอดเป็นลายลักษณ์อักษร แต่ก็มีคำสั่งถอดถอน ที่ไม่มีเรื่องอธิกรณ์ชี้แจ้ง จึงเป็นเรื่องที่ประชาชนเสียใจมาก” น.ส.อิงค์ณภัจฉร์ กล่าว

น.ส.อิงค์ณภัจฉร์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่ชมรมพุทธศาสน์นานาชาติจะดำเนินต่อไปนั้นก็คือการแสวงหาความจริงและการผลักดันให้ คณะกรรมาธิการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร ได้ตรวจสอบ ชำระกฎหมาย พ.ร.บ.สงฆ์ฯ อีกครั้ง เพราะมองว่าเป็นช่องว่างให้กับกลุ่มบุคคลที่ไม่หวังดีต่อพระพุทธศาสนามาทำลายศาสนาพุทธของเรา ที่คาดว่าเร็วๆนี้จะมีการจัดเสวนาเกี่ยวกับปัญหาของ พ.ร.บ.สงฆ์ฯที่กระทบคณะสงฆ์และจิตใจของชาวพุทธศาสนาเพื่อเป็นการสะท้อนให้รัฐบาล นำกรณีนี้ไปแก้ไขให้ถูกต้องต่อไป

“อีกเรื่องที่จะเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคตอันใกล้และทำให้เกิดสังฆเภทพระสงฆ์แตกแยกหรือไม่นั้นก็คงจะเป็นเรื่องที่พระครูสุทธิญาณโสภณ หรือพระครูเล็กจะเข้ามาปฏิบัติหน้าที่เป็นเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์(ธ) องค์ใหม่ ตามคำสั่งของมหาเถรสมาคม กรณีนี้เชื่อว่าจะทำให้ชาวพุทธกาฬสินธุ์และคณะสงฆ์แตกแยกรุนแรง เนื่องจากธรรมเนียมปฏิบัติของพระสายกรรมฐานนั้นถือในเรื่องของพรรษาและเป็นที่ยอมรับแต่เดิมในหมู่คณะสงฆ์ที่ถือกันมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาถึงปัจจุบัน จึงขอให้ มส.ได้คิดและตัดสินใจดีๆ ก่อนที่จะทำอะไรลงไปเพราะในวันนี้ถือว่าได้ทำร้ายจิตใจของชาวพุทธไปแล้ว” น.ส.อิงค์ณภัจฉร์ กล่าว

มีรายงานแจ้งว่าในการเข้ามาในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ของพระครูสุทธิญาณโสภณ หรือ เล็ก สุทธิญาโณ เจ้าคณะอำเภอสังคม จ.หนองคาย ที่มีข่าวลือไปแล้วว่าจะมีวัดป่าเปิดรับให้มาเป็นเจ้าอาวาสโดยมีการระบุว่ามีอยู่ 2 วัดคือวัดป่ากุงศรีเจริญธรรม ต.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ และวัดป่ามัชฌิมาวาส ต.ลำพาน อ.เมืองกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์ ล่าสุดมีรายงานข่าวแจ้งว่าทางวัดป่ากุงศรีเจริญธรรม ได้ปฏิเสธข้อมูลดังกล่าวว่า ไม่เป็นความจริง เพียงแต่ก่อนหน้ามีการพูดคุยกันเท่านั้น แต่เกรงว่าจะทำให้เกิดปัญหาในคณะสงฆ์ในทางปกครองแตกแยกจึงไม่ขอรับพระเล็ก เข้าวัด ดังนั้น ก็จะเหลือเพียงวัดป่ามัชฌิมาวาส หรือวัดดงเมือง เท่านั้น

ภาพ ข้อมูล : นสพ.แนวหน้า

Leave a Reply