“ปฎิรูปคณะสงฆ์” ปี’65 เพื่อการสร้างสังฆะ จาก ศ.ดร.พระมหาบุญเลิศ ช่วยธานี วันที่ 3 ม.ค. 64 ศ.ดร.พระมหาบุญเลิศ ช่วยธานี รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดี ได้โพสต์เฟชบุ๊ค เรื่อง “ข้อเสนอเพื่อการสร้างสังฆะ” ความว่า มีคนขอให้ออกรายการคุยเรื่องการปฏิรูปคณะสงฆ์ ว่าผมมีข้อเสนออย่างไร ผมว่าถ้าออกรายการพูดตามธงที่เขาตั้งไว้ทุกอย่างก็ Happy แต่ถ้าไม่ได้เป็นอย่างที่จะถูกคอถูกใจเขามันก็จะกร่อย เป็นอันว่าขอโบกมือบ๊าย บ่าย แต่ขอให้มาติดตามข้อมูลในเฟสแล้วกัน ผมก็คงพูดได้ในแบบฉบับของนักวิชาการนั่นแหละ ไม่อยากพูดอะไรที่มันเกินเลยความจริงที่จะเป็นไปได้ พูดก็ต้องพูดที่พอจะเป็นไปได้ มันจึงจะทำให้พอเห็นภาพการเปลี่ยนแปลงจากสิ่งที่เป็นไปสู่สิ่งที่อยากให้เป็นได้ ..ผมเริ่มต้นด้วยคำถามที่ว่า องค์กรสงฆ์มีขนาดใหญ่โต จึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีกฎหมายเพื่อจัดระเบียบโดยวางระบบให้อำนาจรวมศูนย์ไว้ที่เดียวหรือไม่… …ผมคิดว่า การจัดระเบียบด้วยกฎหมายที่เน้นอำนาจรวมศูนย์ เหมาะสมกับองค์กรทั่วๆไป ที่วางหลักการก่อกำเนิดและการดำรงอยู่ให้เป็นระบบ ดังเช่น ระบบราชการ ..แต่ระบบกฎหมายเป็นระบบที่ขัดแย้งกับสถานะขององค์กรสงฆ์ที่มุ่งเน้นความผูกพันในรูปแบบ “สังฆะ” ซึ่งน่าจะเรียกว่าชุมชนมากกว่า องค์กร ด้วยซ้ำ ความผูกพันที่กล่าวมาวางอยู่บนพื้นฐานของพระวินัยที่พระพุทธองค์ทรงบัญญัติเอาไว้ ความขัดแย้งต่ออุดมการณ์การก่อเกิดคณะสงฆ์ จึงส่งผลให้เกิดลัทธิ นิกาย กลุ่มก้อน เครือข่ายศรัทธาที่กระจัดกระจายกันไป ต่างกลุ่มต่างดัดแปลงศาสนธรรมมาปลูกศรัทธาสาวก กลุ่มก้อนคนคอเดียวกันจนกลายเป็นพระพุทธศาสนาหลากสายพันธุ์ ธรรมะข้อเดียวตีความกันไปจนหาความเป็นเอกภาพไม่ได้ เมื่อโลกเปลี่ยนเร็วขึ้น ในขณะที่อุดมการณ์ความเป็นเสรีชน กลายเป็นศาสนาใหม่ที่ปลุกผู้คนไม่ให้กลัวต่ออำนาจที่ถูกตีกรอบโดยรัฐในนามของกฎหมาย แดนสนธยาที่เคยรักษาอำนาจคนชั้นนำบางกลุ่มจางหายไป เราก็เห็นภาพชัดว่า องค์กรสงฆ์ก็ซวนเซเช่นกัน เพราะอำนาจการปกครองโดยกฎหมายไม่ใช่หลักประกันความเข้มแข็งขององค์กรสงฆ์ได้อีก มีพระสงฆ์บางกลุ่มเปลี่ยนท่าทีถอยห่างจากอำนาจ ผมเชื่อว่านี่เป็นผลมาจากความไม่ลงตัวของการนำกฎหมายมาปกครององค์กรสงฆ์ที่มีระบบแบบแผนคือพระวินัยยึดเป็นหลักในการจัดระเบียบอยู่แล้ว ผมคิดว่า คุณลักษณะขององค์กรที่ต้องใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในการจัดระเบียบ คือ 1.ไม่มีกฎใดเป็นสากลในการจัดระเบียบองค์กร 2.ต้องการให้การใช้อำนาจมีความชอบธรรม 3.เป็นองค์กรที่ถูกออกแบบและวางระบบให้อยู่รอดได้อย่างยั่งยืน แต่สถาบันสงฆ์อยู่ตรงข้ามกับคุณลักษณะ 3 ประการดังกล่าวนั้น 1.สถาบันสงฆ์มีกฎเป็นสากลในการจัดระเบียบอยู่แล้ว คือ พระวินัย กฎหมายสามารถเข้ามาเป็นส่วนเสริมไม่ใช่เข้ามาสวมทับและทำให้วินัยถูกลดระดับความสำคัญลง ที่ผ่านมาเกิดความสับสนมากเมื่อเกิดกรณีพระสงฆ์กระทำความผิด แทนที่จะยกวินัยขึ้นว่าก่อน กลับเอากฎหมายมาดำเนินการก่อน เมื่อหาความผิดไม่เจอจึงย้อนกลับมาตั้งคำถามต่อบทลงโทษในทางพระวินัย 2.การใช้อำนาจในทางคณะสงฆ์มีหลักการทางพระวินัยที่จัดวางไว้เป็นระบบอยู่แล้ว อำนาจในทางพระวินัยไม่ได้มีเพื่อจัดลำดับให้คนอยู่เหนือคนเหมือนกฎหมาย แต่เป็นไปด้วยความเคารพต่อทุกคน ถึงแม้พระวินัยจะมีลำดับขั้นของความหนักเบาตามแต่กรณี และหากเหลือวิสัยที่พระวินัยจะก้าวเข้าไปจัดการได้ ก็จะเป็นหน้าที่ของกฎหมายบ้านเมืองตามหลักการ “ราชูนัง อนุวัตติตุง” 3.สถาบันสงฆ์ไม่ใช่องค์กรใหม่ที่ถูกออกแบบขึ้นโดยกฎหมายฉบับใดฉบับหนึ่ง แต่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ยุคพุทธกาล มีพระวินัยเป็นฐานรองรับ แต่เมื่อกฎหมายเข้ามา หน้าตาการปกครองคณะสงฆ์จึงมีลักษณะเป็น Hybrid ลูกผสม เปรียบเหมือนต้นไม้ที่ถูกตัดลำต้นส่วนบนออกแล้วนำลำต้นไม้พันธุ์อื่นมาสวมต่อ ยังไงก็เติบโต แต่ไม่งดงาม ความเห็นส่วนตัวผม จึงอยากเสนอให้ปี 2565 เป็นปีที่ ควรต้องกลับมาทบทวนเพื่อการ ปฏิรูปคณะสงฆ์ โดยมีเป้าหมาย 1.เพิ่มบทบาทของพระธรรมวินัย ลดบทบาทของกฎหมายที่มีอยู่ ถามว่าทำอย่างไร คงต้องพูดกันอีกยาว แต่ทำได้จริง เริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการที่พระผู้ปกครองมีความมั่นใจที่จะใช้อำนาจตามพระธรรมวินัยตัดสินวินิจฉัยหรือหยิบยื่นความเป็นธรรมให้พระสงฆ์ด้วยกันเอง 2.จัดระบบความสัมพันธ์ในสถาบันสงฆ์ไม่ว่าจะเป็นพระสงฆ์สายปกครอง สายป่า สายวิชาการ สายบ้าน สายเผยแผ่ สายพัฒนา ให้เป็นอันหนึ่งอันเดียว ความแตกต่างในวิถีปฏิบัติมาก จะทำให้เกิดกลุ่มมาก เมื่อเกิดกลุ่มมาก จะทำให้ความเข้มแข็งน้อย จำนวนผู้ชม : 661 Leave a ReplyFacebook Comments More Articles By the same author พระพรหมวชิรญาณมอบกัปปิยภัณฑ์อุทิศพระวัดรัตนานุภาพ อุทัย มณี ม.ค. 22, 2019 พระพรหมวชิรญาณมอบกัปปิยภัณฑ์ร่วมบำเพ็ญกุศลศพพระครูประโชติรัตนานุรักษ์… ส่อง ๕ ‘เศรษฐี” ในสมัยพุทธกาล “ร่ำรวยมาก” ที่อุปถัมภ์พระพุทธศาสนา อุทัย มณี เม.ย. 01, 2024 คำว่า ‘เศรษฐี’ ตรงกับภาษาสันสกฤตว่า ‘เศรษฐิน’ หมายความว่า… “อดีตพระยันตระ” เสียชีวิตแล้ว อายุ 73 ปี ลูกศิษย์อาลัย อุทัย มณี มี.ค. 10, 2025 วันที่ 10 มี.ค.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊กชื่อ “SiamTownUS” โพสต์แจ้งข่าวว่า… ประเทศจีนจัดประชุมพุทธโลก ๗๒ ประเทศ “สมเด็จพระสังฆราช” ส่ง “พระพรหมบัณฑิต” เป็นผู้แทนพระองค์ร่วมประชุม อุทัย มณี ต.ค. 15, 2024 วันที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๖๗ ที่เมืองนิงปัว มณฑลเจ้อเจียง สาธารณรัฐประชาชนจีน… คณะสงฆ์ 4 จว.อีสานหลั่งไหลให้กำลังใจ “พระเทพสารเมธี” เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ที่ถูกมส.ปลด อุทัย มณี ต.ค. 05, 2021 วันอังคารที่ 5 ตุลาคม 2564 หลังจากเมื่อวานนี้(4ต.ค.) คณะสงฆ์จังหวัดปทุมธานีรวมตัวกันถวายให้กำลังใจพระธรรมรัตนาภรณ์… กระทรวง พม. หนุนโครงการพระธรรมจาริกสู่การพัฒนาเชิงพื้นที่อย่างยั่งยืน อุทัย มณี ม.ค. 27, 2023 ระหว่างวันที่ 25-27 มกราคม 2566 กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์… จากมัสยิดสู่วัดฮินดู อินเดียหวังดึงนักท่องเที่ยว 1.5 แสนคนต่อวัน อุทัย มณี ม.ค. 23, 2024 วันที่ 23 มกราคม 2567 อินเดียทำพิธีเปิดตัววัดพระราม แห่งอโยธยาอย่างยิ่งใหญ่… เสวนาถอดบทเรียนการมีส่วนร่วมขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์ปฏิรูปพุทธ อุทัย มณี ก.ย. 15, 2019 รองอธิการบดี มจร เป็นประธานเปิดการเสวนาถอดบทเรียนการมีส่วนร่วมขับเคลื่อน'แผนยุทธศาสตร์การปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนา'… กอ.รมน.แจงไม่เคยจ่ายเงินเยียวยาผู้กลับใจโครงการ “พาคนกลับบ้าน” อุทัย มณี ม.ค. 28, 2019 วันนี้ (28 ม.ค. 2562 ) เวลา 09. 00 พันเอก ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค… Related Articles From the same category “ดร.นิยม เวชกามา” ขอสำนักงบฯ เร่งดำเนินการเบิกจ่าย “เงินนิตยภัต-เงินการศึกษาคณะสงฆ์” วันที่ 17 มกราคม 2567 ณ สำนักงบประมาณ เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร รองศาสตราจารย์ชูศักดิ์… อาหารรสพระทำ!’หลวงพี่ช้าง’นำเสิร์ฟสุขภาพเสิร์ฟธรรม "หลวงพี่ช้าง"พระนักพัฒนา ออกเทศน์รูปแบบใหม่ "ธรรมกับสุขภาพ"… “ม.สงฆ์ มจร” ร่วมมือวิทยาลัยพุทธเวียดนาม พัฒนาการศึกษาเถรวาทกับมหายาน เผยแผ่ผ่านระบบออนไลน์ เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2566 ที่เมืองญาจาง จังหวัดคัญฮัว ประเทศเวียดนาม… มีหรือยัง! หนังสือ “พุทธนววิถี” หลากมุมมองปริบทโควิด-19 วันที่ 23 มิ.ย.2563 เพจร Cholvit Jearajit ได้โพสต์ข้อความ ความว่า "ขอบคุณ สสส… พช.เชียงดาว เดินหน้า “เอามื้อสามัคคี”ตามวิถีเศรษฐกิจพอเพียง วันที่ 30 เมษายน 2564 นางพรทิพย์ สมโสภา พัฒนาการอำเภอเชียงดาว…
Leave a Reply