ก่อนจะพูดถึง โครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 และ โครงการ “วัด ประชารัฐ สร้างสุข” มีสื่ออาวุโสด้านพระพุทธศาสนาท่านหนึ่งมาเล่าให้ฟังถึงคุณูปการด้านกิจการพระพุทธศาสนา ด้านคณะสงฆ์ถือว่าท่านเป็น พระดีศรีแผ่นดิน พระดีศรีภาคใต้รูปหนึ่ง คือ “พระพรหมจริยาจารย์”  เจ้าคณะใหญ่หนใต้

“สมาน สุดโต” สื่ออาวุโสดังกล่าวการันตีว่า “พระพรหมจริยาจารย์” ปกครองคณะสงฆ์เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ท่านเก่งการทำเรื่องบัญชีอันดับหนึ่งของคณะสงฆ์ไทย,เป็นพระภิกษุที่มีวัตรปฎิบัติเรียบง่ายสมถะ สมเป็นผู้เจริญรอยตาม “พระตถาคตเจ้า”

ถือเป็นพระเถระอีกรูปหนึ่ง ที่สร้างคุณูปการต่อวงการสงฆ์แห่งแดนใต้และประเทศไทยอย่างเอนกอนันต์ เป็นที่โจษจันเลื่องลือไปไกล ทุ่มแรงกายแรงใจให้งานแบบถวายชีวิต ตั้งอยู่ในศีล ดำรงตนตามพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด เป็นกำลังสำคัญในการสนับสนุนส่งเสริมพระพุทธศาสนาในภาคใต้ของประเทศไทยมาอันยาวนาน

แต่!! เสียดาย “เมืองหลวง” ตาไม่ถึงพื้นที่ “ไกลปืนเที่ยง” จังหวัดตรังที่ท่านเจ้าคุณพระพรหมจริยาจารย์จำพรรษาอยู่

“สมาน สุดโต” เล่าว่า ในวัย 93 ปี ท่านเคยลาออกจาก “เจ้าคณะใหญ่หนใต้” ต่อมหาเถรสมาคม มาแล้ว 3 ครั้ง

เนื่องจากอายุมากแล้ว ต้องการเห็นคนรุ่นใหม่ คนที่มีกำลังวังชา มีความรู้ ความสามารถเข้ามาสานต่อหรือ ทำงานต่อ  ซึ่งก็ถูกยับยั้งมาแล้วทั้ง 3 ครั้ง

เมื่อปีที่ผ่านมา “พระพรหมจริยาจารย์” เคยติดโผเป็น “สมเด็จพระราชาคณะ” หลังจากครองชั้นรองสมเด็จ “พระพรหมจริยาจารย์” มาตั้งแต่ปี 2550 แต่เรื่องก็เงียบหายไป

ตรงข้าม..กับพระระดับสมเด็จพระราชาคณะรูปหนึ่ง ในส่วนกลาง

มีพรายมากระซิบบอกว่า ต้องการจะเข้าไปนั่งในตำแหน่ง “ประธานหมู่บ้านศีล 5” ทั้ง ๆ ที่ตนเองรู้กันทั้งวงการว่า “ไม่ติดดิน” เข้าพบยาก เอาแต่อารมณ์ ใครพูดไม่ถูกใจไล่ออกจากห้องทันที และที่สำคัญไม่เคยสัมผัสกับ “มวลชน” มาก่อน แต่อยากได้ ตำแหน่ง “ประธานหมู่บ้านศีล 5”

จึงสร้างความลำบากใจ..ให้กับคณะกรรมการหมู่บ้านศีล 5 เป็นอย่างมาก

คณะกรรมการจึงแก้เกม..วิ่งเข้าไปหาสมเด็จอีกรูปหนึ่งอ้อนวอนขอให้ “รับแทน” แต่สมเด็จที่คณะกรรมการวิ่งเข้าไปหานั่นระดับ “โหราจารย์” ยังเรียก “ป๋า” รู้ทันเอา “เผือกร้อน” มาให้ จึงตอบปฎิเสธไป!!

ไม่รู้ว่าสาเหตุนี้หรือเปล่าทั้ง “เจ้าคุณพิมพ์” พระพรหมเสนาบดี ที่ปรึกษาหมู่บ้านศีล 5 และ “เจ้าคุณแย้ม” พระเทพศาสนาภิบาล ประธานขับเคลื่อน ยามนี้จึง “สงบนิ่ง” เกียร์ว่าง โครงการหมู่บ้านศีล 5 ตอนนี้มีก็เหมือนไม่มี

ในขณะที่โครงการ “วัด ประชารัฐ สร้างสุข” ของ “สมเด็จชิน” สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ หลังจากประธานคณะอนุกรรมการโครงการ “เจ้าคุณสมศักดิ์” พระธรรมรัตนาภรณ์ ถูกปลดจากเจ้าคณะจังหวัด เหมือนถูกตัดแข้งตัดขา  “เดี้ยง” คณะทำงาน หมดแรง หมดกำลังใจ ทำไป “หนกลาง” ก็ไม่เห็นคุณค่า ซ้ำเจอข้อครหาหมั่นใส้แปรพักตร์เรื่องนิกายอีกต่างหาก ทั้งเจอข้อหาแปรพักตร์ ทั้งลูกพี่ก็คุ้มครองไม่ได้ ตอนนี้เจ้าคุณสมศักดิ์ “นอนตีพุง” กวาดลานวัด สวดมนต์ อยู่ที่วัดสบายใจกว่า “เงินส่วนตัว” ก็ไม่ต้องควักให้เสียอารมณ์ หากเหงาก็แวะไปรับจ๊อบจิบน้ำชา แถว “ท่าเตียน” บ้างในบางโอกาส

คิดแล้วเสียดาย..ทั้งพระพรหมจริยาจารย์ ที่ผู้มีอำนาจส่วนกลาง “ไม่เหลียวแล”

คิดแล้วเสียดาย..ทั้งโครงการหมู่บ้านศีล 5 และ โครงการวัดประชารัฐ สร้างสุข ที่เดินมาดี ๆ ถูกสกัดง่าย ๆ

บางเรื่องเกิดขึ้นเพราะคณะสงฆ์เรามีผู้นำที่ไร้วิสัยทัศน์แท้ ๆ

…………………………..

คอลัมน์ : ริ้วผ้าเหลือง

โดย….“เปรียญสิบ” : [email protected]