ปลัดกระทรวงมหาดไทยนำประชาชนจิตอาสาร่วมทำกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาปลูกสมุนไพรและต้นไม้ เฉลิมพระเกียรติ ฯ

วันที่ 3 เม.ย. 65 เวลา 09:30 น. ที่ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาคุณภาพชีวิตคนทุกช่วงวัย โครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่โคก หนอง นาโมเดล (CLM) “โคก หนอง นา พัฒนาชุมชน” พุทธอุทยานดอยอินทรีย์ บ้านดอยฮางใน หมู่ที่ 1 ต.ดอยฮาง อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานกิจกรรมจิตอาสาเนื่องในโอกาสเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 2 เมษายน 2565 โดยมี นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ด้านบริหาร นายสมคิด จันทมฤก อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายศุภชัย เอกอุ่น ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค นายทวี เสริมภักดีกุล รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายพิริยะ ฉันทดิลก รองอธิบดีกรมการปกครอง ผู้ช่วยศาสตราจารย์พิเชฐ โสวิทยสกุล ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย รองศาสตราจารย์วรวรรณ โรจนไพบูลย์ ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย นายบัญชา เชาวรินทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายวราดิศร อ่อนนุช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัด หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ นายอำเภอ ประชาชนจิตอาสาในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ร่วมกิจกรรม

โอกาสนี้ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดกรวยถวายราชสักการะหน้าบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และนำผู้ร่วมกิจกรรมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี พร้อมกล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และร่วมทำกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาปลูกสมุนไพรและต้นไม้

 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กิจกรรมจิตอาสาพัฒนาปลูกสมุนไพรและต้นไม้ เป็นการแสดงออกถึงความสมัครสมานสามัคคีและความจงรักภักดี ด้วยการร่วมกันรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งถือเป็นกิจกรรมตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ได้พระราชทานโครงการจิตอาสาพระราชทาน “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” ด้วยทรงมุ่งหวังให้พสกนิกรทุกหมู่เหล่ามีความสมัครสมาน สามัคคี ร่วมมือร่วมใจประกอบกิจกรรมสาธารณะเพื่อประโยชน์สุขของชุมชนส่วนรวมโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนเพื่อให้เกิดความรักความผูกพันใน 4 สถาบันหลักของชาติ คือ สถาบันชาติ สถาบันศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์ และประชาชน

“เนื่องในวโรกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 2 เมษายน 2565 ซึ่งทรงเป็นพระขนิษฐภคินีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงปฏิบัติบำเพ็ญพระราชกรณียกิจสนองพระเดชพระคุณพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยพระวิริยะ อุตสาหะ เป็นคุณูปการแก่ประเทศชาติ และอาณาประชาราษฎร์อย่างใหญ่หลวง เป็นอเนกประการ ซึ่งพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่าจะได้เทิดทูนไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อมด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และจะน้อมนำแนวพระราชดำริไปขับเคลื่อน ขยายผล โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระราชดำริเกี่ยวกับ “โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี” เพื่ออนุรักษ์และพัฒนาทรัพยากรพันธุกรรมพืชของประเทศ และ “โครงการบ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” เพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาหารให้แก่ประชาชน โดยเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการซื้อผักมาบริโภค และการมีผักที่ดีมีคุณภาพรับประทานตลอดทั้งปีในระดับครัวเรือน สำหรับผักที่เหลือก็แบ่งปันให้เพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นการสร้างความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ระหว่างกัน อีกทั้งเป็นการสนองงานที่น้อมนำแนวพระราชดำริตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มาสู่การปฎิบัติในชีวิตประจำวัน สามารถทำกันได้ทุกครัวเรือน ประชาชนมีพืชผักอาหารปลอดภัยบริโภคโดยทั้ง 2 โครงการพระราชดำริข้างต้นยังเป็นการช่วยฟื้นฟูโลกใบนี้ให้เต็มไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ สร้างความหลากหลายทางพันธุกรรมพืช สร้างคุณภาพให้กับอากาศ สิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) อันส่งผลให้ประชาชนมีความอยู่ดี กินดี สุขภาพร่างกายสมบูรณ์ แข็งแรง ใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทย และโลกใบนี้ได้อย่างมีความสุขและยั่งยืน” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวเพิ่มเติม

 

Leave a Reply