ปลัดมท. ปิดการอบรมหลักสูตร Change for Good ปลุกพลังคนรุ่นใหม่เผยแพร่หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่โคก หนอง นา เพื่อเป็น “ทางรอด” ให้กับสังคมอย่างยั่งยืน
โดย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ยังได้กล่าวถึง การเรียนรู้ศาสตร์พระราชาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ คณะทำงาน Change for Good ได้เรียนรู้ ทั้งเรื่องของหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่โคก หนอง นา ซึ่งทั้ง 2 เรื่องดังกล่าว เป็นแนวพระราชดำริที่สำคัญของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชปณิธานด้วยความมุ่งมั่นในการสืบสาน รักษา ต่อยอด เพื่อจะยังผลทำให้ประเทศชาติของพวกเราอยู่รอดและมีความเจริญ จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพวกเราทุกคนจะได้น้อมนำแนวพระราชดำริและพระบรมราชปณิธานดังกล่าว มาทำความเข้าใจด้วยการมุ่งมั่นศึกษาให้ถ่องแท้ แล้วนำไปขยายผลให้กับครอบครัว ญาติพี่น้อง เพื่อนสมาชิกในองค์กร และพี่น้องประชาชน เพื่อยังประโยชน์อันมหาศาล สร้างความอยู่รอดให้กับมวลมนุษยชาติ ดังเช่น อาจารย์ปัญญา ปุลิเวคินทร์ ผู้อำนวยการศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติ ผู้พิสูจน์ศาสตร์พระราชาด้วยการลงมือสร้างพื้นที่ศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติ จังหวัดนครนายก จากพื้นที่เสื่อมโทรมปลูกอะไรไม่ขึ้นสู่ต้นแบบการจัดการพื้นที่ ดิน น้ำ ป่า ตามศาสตร์พระราชา โดยนำความรู้ที่ศึกษามาตลอด 10 ปี มาปฏิบัติจนเกิดผลสำเร็จที่ “เห็นตำตา” และยังคงมุ่งมั่นถ่ายทอดความรู้สู่ศิษย์ด้วยเป้าหมายที่จะเผยแพร่ศาสตร์พระราชาให้มากที่สุดตลอดชีวิตที่เหลืออยู่ รวมไปถึงตัวอย่างความสำเร็จที่เป็นที่ประจักษ์ คือ นายบุญลือ ธรรมธรานุรักษ์ อดีตนายอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ที่ได้น้อมนำศาสตร์พระราชาฯ ด้วยการนำทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ โคก หนอง นา มาพลิกพื้นที่ธรรมชาติที่ถูกทำลายจนเสื่อมโทรม เป็นภูเขาหัวโล้นเต็มไปด้วยสารเคมี หน้าแล้งมีแต่หมอกควัน หน้าฝนมีแต่โดนน้ำชะล้างดินพังทลาย จัดทำเป็นวาระแก้ปัญหาป่าไม้ และวาระการงดใช้สารเคมีทำการเกษตร เน้นทำเกษตรอินทรีย์ และเกษตรผสมผสานแทนการปลูกพืชเชิงเดี่ยว และร่วมกันกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ดำเนินการฟื้นป่า “ปลูกป่าโดยไม่ต้องปลูก” จัดทำฝายชะลอน้ำตามร่องน้ำภูเขาทุกหมู่บ้าน จนทำให้อำเภอแม่แจ่มในปัจจุบันกลับกลายมามีชีวิตชีวา พื้นที่ภูเขาเต็มไปด้วยทุ่งข้าวโพด มีสีเขียวในหน้าฝน เป็นสีน้ำตาลหน้าแล้งและหน้าหนาว แวดล้อมไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ อันเป็นการยืนยันว่าถ้าภาครัฐสนับสนุนสิ่งที่ดี และพี่น้องประชาชนร่วมลงมือทำ จะทำให้เกิดการ Change for Good ทั้งสิ่งแวดล้อมและชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน ซึ่งมีความสำคัญและความจำเป็นอย่างยิ่ง
Post navigation
Posted in:
Leave a Reply