หวังว่า!! พระหนุ่มเณรน้อยคง “ไม่ฝันค้าง” รอบสอง ชาวพุทธเราจำนวนมากเห็น “ผู้นำศาสนา” หนึ่ง รัฐบาลโดยกรมบัญชีกลางอนุมัติได้รับค่าตอบแทนเพื่อให้สอดคลองกับค่าครองชีพ และเป็นขวัญกำลังใจให้กับผู้นำองค์กรศาสนานั่นแล้ว พากันไปเปรียบเทียบกับ “พ.ร.บ.การศึกษาพระปริยัติธรรม” ของชาวพุทธที่ประกาศมาตั้งแต่เดือนเมษายน 2562 แล้วว่าทำไม ยังไม่ได้รับเงิน เพราะกระทบต่อพระหนุ่มเณรน้อย 600 กว่าโรงเรียน บุคลากรไม่เฉพาะ พระสงฆ์ที่ทำงานเท่านั้น รวมถึง ครูสอน ธุรการ เจ้าหน้าที่ของโรงเรียนพระปริยัติธรรมด้วยที่มีประมาณ 4000 รูป/คน บางคนพูดถึงขนาดว่าหากเป็น “ศาสนาอื่น” คงบุกถึงทำเนียบ รัฐสภา สำนักผู้ตรวจการแผ่นดินหรือไม่ก็ “ยื่นศาล” ตีความกันบ้างแล้ว มีที่ไหน ตอนไม่มีกฎหมายรองรับ รัฐบาลก็ชี้หน้าจะจ่ายเงินให้ “ต้องมีกฎหมาย” รองรับ พอมีกฎหมายรองรับก็อ้างว่า “ไม่มีเงิน” “เปรียญสิบ” มีหนังสือยืนยันข้ออ้างของกระทรวงการคลังที่ว่า ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันประเทศกำลังประสบปัญหาจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้งบประมาณเพื่อบริหารราชการแผ่นดินที่มีความจำเป็นเร่งด่วนในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดค่าใช้จ่ายภาครัฐเพิ่มสูงขึ้น การพิจารณาให้ความเห็นชอบร่างประกาศคณะกรรมการบริหารงานบุคคลการศึกษาพระปริยัติธรรมว่าด้วยเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง ซึ่งจะต้องใช้งบฯ 4,068,000,720 บาทต่อปี จึงจำเป็นต้องพิจารณาในรายละเอียดอีกหลายประเด็น ได้แก่ 1.ประเด็นเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ของการจัดสรรงบฯตามพ.ร.บ.การศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ. 2562 มาตรา 7 วรรคสอง ที่กำหนดให้รัฐอุดหนุนงบฯสำหรับการจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมตามความเหมาะสมและจำเป็น ซึ่งคำว่า เหมาะสมและจำเป็น ในที่นี้จะหมายความรวมถึงการอุดหนุนงบฯไปตั้งจ่ายเป็นเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง หรือเงินวิทยฐานะ ในลักษณะเดียวกับเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง หรือเงินวิทยฐานะของข้าราชการพลเรือน หรือไม่ 2.ประเด็นเกี่ยวกับการจัดโครงสร้างการบริหารงานบุคคลการศึกษาพระปริยัติธรรม ที่กำหนดให้ตำแหน่งที่มีสิทธิได้รับเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง หรือเงินวิทยฐานะ มีจำนวนทั้งสิ้น 35 ตำแหน่ง โดยเป็นตำแหน่งผู้ปฏิบัติงานสอนพระปริยัติธรรม 2 ตำแหน่ง เมื่อเปรียบเทียบกับตำแหน่งผู้สนับสนุนการศึกษา ซึ่งมี 33 ตำแหน่ง แสดงให้เห็นว่า ตำแหน่งผู้สนับสนุนการศึกษามีสัดส่วนที่สูงกว่าตำแหน่งผู้สอนเป็นอย่างมาก 3.ประเด็นการกำหนดอัตราเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งที่ยังไม่ปรากฏความชัดเจนว่า อัตราดังกล่าวกำหนดขึ้นโดยอ้างอิงจากหลักเกณฑ์ใด และเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งตามร่างประกาศฯ มีความซ้ำช้อนกับเงินนิตยภัต ตามระเบียบสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติว่าด้วยการเบิกจ่ายนิตยภัต พ.ศ.2553 หรือไม่ อย่างไร ดังนั้น เพื่อให้การใช้จ่ายงบฯภาครัฐเป็นไปตามความจำเป็น เหมาะสมกับสถานการณ์ และสอดคล้องกับสถานะการเงินการคลังของประเทศ จึงขอส่งร่างประกาศดังกล่าวให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ทบทวนความเหมาะสมเกี่ยวกับประเด็นข้างต้น และส่งเรื่องให้กระทรวงการคลังพิจารณาให้ความเห็นชอบเมื่อสถานการณ์เข้าสู่สภาวะปกติแล้ว ความจริง!! พระสงฆ์เราก็เหลือเกิน โดยเฉพาะข้อ 2 โรงเรียนหนึ่งขอไป 33 ตำแหน่ง แต่มีครูสอนแค่ 2 คน หรือข้อ 3 บางรูปมีทั้งเงินเดือนจากมหาวิทยาลัย /เจ้าคณะภาค/เงินประจำตำแหน่ง/เบี้ยประชุม อันนี้ไม่นับรวม “เงินอันพึงได้” จากกิจนิมนต์อีกต่างหาก แต่เอาเถอะทราบว่าหลังจากระทรวงการคลังให้สำนักงานพุทธฯแก้ประเด็นดังกล่าวแล้ว ตอนนี้เสนอไปยังกระทรวงการคลังแล้ว คาดว่าในงบประมาณปี 2566 ที่จะเริ่มวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ค่อนข้างได้ “ชัวร์” เท่าที่รู้เรื่องนี้ต้องยกย่องความดีให้กับผู้ริเริ่มทำงานกันอย่างหนักจนได้พ.ร.บ.นี้ที่เราถือว่าเป็น “ประวัติศาสตร์หน้าหนึ่ง” แม้จะเสียทรงบ้าง เพราะมีแล้วแต่ “ไม่ได้เงิน” คือ พระเทพเวที หรือ “เจ้าคุณพล” เจ้าคณะภาค 6 และ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ขวัญใจคณะสงฆ์นั่นเอง สองท่านนี้เป็น “ตัวตั้งตัวตี” ตั้งแต่เริ่มต้นจนได้มาพระราชบัญญัติฉบับนี้ และสุดท้ายหลังรัฐบาลไม่ให้เงินอีกคนหนึ่งตามจิกไม่ปล่อยคือ “เพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล” รองประธานคณะกรรมาธิการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร ที่เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมประชุม ร่วมปรึกษาหารือ ร่วมหาทางออกกันหลายครั้ง จนล่าสุด แจ้งมาว่า “ได้รับแจ้งจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติแล้วว่า หลังจากปรับแก้ไขดังที่กรมบัญชีกลางต้องการแล้วตอนนี้เสนอกระทรวงการคลังไปแล้ว และในวันที่ 17 พฤษภาคมที่จะถึงนี้จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งกฤษฎีกา สำนักงบประมาณ กรมบัญชีกลาง สำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ รวมทั้งคณะสงฆ์มาร่วมสรุปประเด็นนี้ เพื่อจะได้ไม่พลาดให้ทันต่อการเสนองบประมาณในปี 2566 ” “เปรียญสิบ” หวังว่าตาม พ.ร.บ.การศึกษาพระปริยัติธรรม ฉบับนี้ ที่รัฐต้องดูแลการศึกษาของคณะสงฆ์ อันครอบคลุมทั้งสำนักเรียนบาลี,สำนักศาสนศึกษา, โรงเรียนพระปริยัติธรรมและพระปริยัตินิเทศก์ งบประมาณปี 2566 นี้ รัฐบาลคงไม่ทำให้คณะสงฆ์รอคอยและ “ฝันค้าง” เหมือนปีที่ผ่านมา!! จำนวนผู้ชม : 320 Leave a ReplyFacebook Comments More Articles By the same author ปรางค์กู่โมเดลตั้ง “วิสาหกิจชุมชนรักษ์สันติสุข” เยียวยาหลังโควิดซา อุทัย มณี ส.ค. 19, 2021 สันติศึกษา"มจร" ร่วมกับเครือข่ายช่วยเหลือคนปรางค์กู่ไม่ทอดทิ้งกัน… จังหวัดนราธิวาส ประชุมจัดทำน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ อุทัย มณี ก.พ. 02, 2024 วันที่ 2 ก.พ. 67) เวลา 09.00 น. ที่ ห้องประชุม พระนราภิบาล (ใหญ่) ชั้น… ราชประเพณีในราชสำนัก “การสวดมหาชาติคำหลวง” และ “การสวดโอ้เอ้วิหารราย” อุทัย มณี ก.ค. 19, 2022 วันที่ 20 ก.ค. 65 ในช่วงเทศกาลวันเข้าพรรษาที่ผ่านมา ในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม… ‘มจร’มหาวิทยาลัยแห่งการพัฒนาชีวิตและสังคมอุดมสติ อุทัย มณี ธ.ค. 15, 2018 วันที่ 15 ธันวาคม 2561 ที่ศูนย์พัฒนาศาสนาแคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์… ปลัด มท. สั่งการผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด ขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน SDGs ผ่านกิจกรรม “ปลูกต้นไม้คู่ชีวิต” โดยให้นักเรียนทุกโรงเรียนในพื้นที่จังหวัด ร่วมปลูกต้นไม้คนละ 1 ต้น อุทัย มณี มิ.ย. 25, 2022 วันที่ 25 มิ.ย. 65 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า… วันชัย สอนศิริ : วิพากษ์การเมืองและการคณะสงฆ์ อุทัย มณี ม.ค. 23, 2019 สัมภาษณ์พิเศษ : วันชัย สอนศิริ กรรมการปฎิรูปประเทศด้านการเมือง … “สมเด็จพระสังฆราช” ประทานคติธรรมแก่ “ชาวพุทธนานาชาติ” เนื่องในวันวิสาขบูชาโลก ยก “ความไม่ประมาท” คือสุดยอดแห่งพุทโธวาท อุทัย มณี พ.ค. 10, 2023 วันที่ 10 พฤษภาคม 2566 การจัดงานวิสาขบูชาโลก ในประเทศไทย กำลังใกล้เข้ามาแล้ว… “เจ้าคุณเสียดายแดด” ชื่นชม “ปลัดเก่ง” ทำงานด้วยหัวใจ จนวันสุดท้าย!! อุทัย มณี ก.ย. 30, 2024 วันที่ 30 กันยายน 2567 พระปัญญาวชิโรโมลี หรือ "เจ้าคุณเสียดายแดด"… “สมเด็จพระมหาวีรวงศ์” ประทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตจบใหม่ “มมร” เตือนสติ จงเป็นผู้ไม่มีความริษยา ในสุขประโยชน์ของใคร!! อุทัย มณี ธ.ค. 17, 2023 วันที่ 17 ธันวาคม 2566 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมอาคารสุชีพ ปุญญานุภาพ… Related Articles From the same category ตั้ง”เจ้าคุณประสาร “คุมวัดพระธาตุดอยสุเทพUSA เช้าวันนี้ (21 ม.ค.63 ) ณ วัดศรีโสดา พระอารามหลวง… สมเด็จพระพุฒาจารย์ และ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานงาน พระราชทานเพลิงศพ “อดีตเจ้าอาวาสวัดเศวตฉัตร” วันนี้ 16 ก.ค. 66 เวลา 17.00 น. ที่เมรุชั่วคราว วัดเศวตฉัตร วรวิหาร… รองอธิการบดีฝ่ายประชาสัมพันธ์ “มจร” มรณภาพ สิริอายุ 62 ปี วันอังคารที่ 17 พฤษภาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระครูโสภณพุทธิศาสตร์… ปลัดมหาดไทยพร้อมแม่บ้าน สร้าง “เทวดาเหยียบมอม” ถวายพระธาตุแช่แห้ง หลังสูญหายไปกว่า 60 ปี วันนี้ (26 เม.ย. 67) เวลา 09.00 น. ที่วัดพระธาตุแช่แห้ง พระอารามหลวง… พระราชธรรมวาทีแนะ พระอุปัชฌาย์และเจ้าอาวาส รู้จักวิเคราะห์คนสื่อธรรม พระธรรมรัตนาภรณ์ย้ำพระอุปัชฌาย์และเจ้าอาวาสต้องปฏิบัติเป็นบรรทัดฐานเดียวกัน…
Leave a Reply