วันที่ 26 พ.ค. 65 เวลา 14.30 น. ณ อาคารหอประชุม มวก. 48 พรรษา มหาวชิราลงกรณ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา สมเด็จพระมหาธีราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม และประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ ได้เดินทางไปปฎิบัติศาสนกิจแทนสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในการเป็นประธานพิธีปัจฉิมนิเทศและมอบวุฒิบัตรแก่พระธรรมทูตผู้ผ่านการอบรมจำนวน 116 รูป โดยมี พระธรรมวัชรบัณฑิต อธิการบดี,พระเทพปวรเมธี รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร ผู้บริหารและคณาจารย์มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และ นายเกรียงศักดิ์ บุญประสิทธิ์ อธิบดีกรมการศาสนา , นายบุญเชิด กิตติธรางกูร ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถวายการต้อนรับ
พระธรรมวัชรบัณฑิต อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย กล่าวว่า “มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายเช่น สมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา พระธรรทูตสายประเทศอินเดีย -เนปาล องค์กรพระธรรมทูตไทยต่างประเทศอื่น ๆ รวมทั้งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กรมการศาสนา ได้จัดอบรมพระธรรมทูตตั้งแต่ปี 2538 เป็นต้นมา รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ 28 การอบรมเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม 2565 เป็นต้นมา การอบรมแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ หนึ่ง ด้านสาธารณูปการ มีการสร้างฝ่ายกั้นน้ำ การจัดสร้างกุฎิ เป็นต้น ส่วนที่สองภาควิชาวิปัสสนากรรมฐาน โดยการนำพระธรรรมทูตไปฝึกอบรม ณ แคมป์สน จังหวัดเพชรบูรณ์ และภาควิชาการตลอดการอบรมมีผู้ผ่านจำนวน 116 รูป .”
ดร.พระพฤกษ์ กตกุสโล จากวัดพุทธเมตตาบุญญานุภาพ อ.เถิน จ.ลำปาง หนึ่งในผู้ผ่านการอบรมพระธรรมทูต เปิดเผยว่า ตอนเองจบการศึกษาระดับปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร เดินทางมาจังหวัดลำปาง ซึ่งหลังจากจบโครงการท่านเจ้าอาวาสวัดพุทธเมตตาบุญญานุภาพ หากไม่ติดขัดอะไรท่านตั้งใจไว้ว่าจะส่งไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่ประเทศออสเตรเลีย
“อาตมาพรรษา 5 จบนักธรรมเอก และปริญญาเอก อยากเป็นพระธรรมทูตจึงเข้าอบรม การอบรมที่นี้ไม่ใช่ได้เฉพาะความรู้อย่างเดียว ตลอด 3 เดือนนี้ได้เพื่อน ได้กัลยาณมิตรเพื่อเป็นเครือข่ายจำนวนมาก มีทั้งประโยค 9 ปริญญาเอก บางคนเป็นครูบาอาจารย์ มีแต่คนมีความรู้ หัวใจสำคัญของการเป็นพระธรรมทูตมันต้องมีความรู้เรื่องพระพุทธศาสนา รู้เรื่องกรรมฐาน สติปัฎฐานสี่ ส่วนภาษาแม้จะสำคัญ แต่ก็เรียนรู้กันได้ ความอ่อนน้อมนอบถ้อม การมีหัวใจที่มั่นคงในพระพุทธศาสนาก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน..”
ในขณะที่ ดร.พระพรชัย อาสโภ วัดป่าเทพอินทรประดิษฐ์ ต.บ้านไร่ อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ เล่าว่า การอบรมพระธรรมทูตในครั้งนี้ได้ปฎิบัติวิปัสสนาอย่างเข้มงวด โดยมีพระอาจารย์ที่เชี่ยวชาญเรื่องวิปัสสนามาอบรมให้ไม่ต่ำกว่า 8 รูป โครงการอบรมพระธรรมทูตนี้จึงเป็นการต่อยอดในการที่จะเผยแผ่พระพุทธศาสนาในต่างประเทศได้เป็นอย่างดี
“หลังจากจบการอบรมพระธรรมทูตแล้ว อาตมาตั้งใจจะไปเป็นพระธรรมทูตที่ประเทศเกาหลีใต้ จะเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่นั้น เนื่องจากอาตมาจบปริญญาโทด้านวิปัสสนาภาวนา ที่ วิทยาเขตบาฬีศึกษาพุทธโฆส จังหวัดนครปฐมและจบปริญญาเอกพุทธจิตวิทยา มจร วังน้อยแห่งนี้ การอบรมพระธรรมทูตคุณสมบัติเบื้องต้นต้องจบนักธรรมเอก ปริญญาตรีจึงเข้ามาสมัครเข้าร่วมโครงการได้ การอบรมเข้มข้นมาก ได้ทั้งความรู้และเทคนิคการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ซึ่งโครงการนี้นับว่าเป็นโครงการที่ดีมากโครงการหนึ่งของคณะสงฆ์ไทย..”
Leave a Reply