ปลัด มท. ปล่อยคาราวานเจ้าหน้าที่เดินสำรวจ ออกโฉนดที่ดิน 69 จังหวัด ตั้งเป้า 5.2 หมื่นแปลงทั่วประเทศ 

วันที่ 14 ธ.ค. 65  เวลา 08:00 น. ที่อาคารรังวัดและทำแผนที่ กรมที่ดิน ตำบลบ้านใหม่ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้รับมอบหมายจาก พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีปล่อยคาราวานเจ้าหน้าที่ พร้อมมอบนโยบาย และแนวทางการปฏิบัติราชการแก่เจ้าหน้าที่ของกรมที่ดินผู้ปฏิบัติงานในโครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โดยมี นายชยาวุธ จันทร อธิบดีกรมที่ดิน นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี นายวราพงษ์ เกียรตินิยมรุ่ง ที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมสำรวจ นายณรงค์ สืบตระกูล ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย กรมที่ดิน นายเปลี่ยน แก้วฤทธิ์ นางพนิตาวดี ปราชญ์นคร รองอธิบดีกรมที่ดิน ผู้ตรวจราชการกรมที่ดิน ผู้บริหารกรมที่ดิน ผู้อำนวยการศูนย์เดินสำรวจ ผู้กำกับการเดินสำรวจ ผู้กำกับการรังวัด หัวหน้างานอำนวยการ และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานภาคสนามในแต่ละศูนย์อำนวยการเดินสำรวจทั่วประเทศ เข้ารับมอบนโยบายในการปฏิบัติงาน

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การสำรวจออกโฉนดที่ดิน เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย ที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างโอกาส อันส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนคนไทย ซึ่งพวกเราชาวดินมีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง ในฐานะของเจ้าหน้าที่รัฐที่มีหน้าที่ตามกฎหมาย กล่าวอย่างตรงไปตรงมาใน 2 ประการ คือ ประการที่ 1 พี่น้องประชาชนจำนวนมาก มีเสียงสะท้อนที่ปรารถนาให้เจ้าหน้าที่ที่ดินมีการเดินสำรวจเยอะ ๆ เพราะปัจจุบันยังมีพี่น้องประชาชนที่ถือครองที่ดินโดยไม่มีเอกสารสิทธิ์ที่ดิน และประการที่ 2 คือ เกิดข้อกังวล ข้อห่วงใยว่าการเดินสำรวจออกโฉนดแบบทันทีนั้น จะทำให้เกิดความผิดพลาดในการดำเนินการได้ และอาจจะนำไปสู่เรื่องของการเพิกถอนสิทธิ์หรือการต้องคืนสิทธิ์ คืนที่ดินกลับไปเป็นของหลวง ซึ่งทั้ง 2 ประการที่กล่าวมานั้นล้วนแล้วแต่เป็นความคาดหวังที่ฝากไว้กับพี่ ๆ น้อง ๆ ชาวดินทุกคนในการต้องช่วยกันนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่กรมที่ดินก็ได้รับรางวัลการันตีอย่างมากมายและต่อเนื่อง ทั้งเรื่องของระบบการรังวัดด้วยดาวเทียม (RTK GNSS Network) ที่หรือว่าระบบแผนที่ดาวเทียม ที่ประสบความสำเร็จในการนำมาใช้กับโครงการบอกดิน จนเป็นที่นิยมชมชอบของพี่น้องประชาชน เพราะสามารถเข้าถึงบริการได้อย่างสะดวก สามารถดูตำแหน่งที่ดินได้ บอกราคาราคาประเมินที่ดินได้ผ่านโทรศัพท์มือถือ ที่แสดงให้เห็นว่าเราก้าวหน้ามาก

“แม้ว่าเราเองมีหน้าที่ต้องบำบัดทุกข์ บำรุงสุขในการที่จะทำให้พี่น้องประชาชนซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินที่ยังขาดเอกสารสิทธิ์ได้มีโอกาสที่ดีเพิ่มมากขึ้น เพราะเมื่อมีที่ดินแล้ว ที่ดินก็จะกลายเป็นหลักทรัพย์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย จะมีโอกาสได้ลงทุนหรือพัฒนา ก็สามารถทำได้โดยไม่ต้องระแวดระวัง ไม่ต้องกังวลว่าจะทำผิดกฎหมายเพราะตนเองครอบครองที่ดินไม่ชอบและต้องถูกดำเนินคดีหรือโดนเพิกถอนยึดคืน ซึ่งทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับ “พวกเราชาวดินทุกคน” ต้องทำหน้าที่โดยยึดถือระเบียบกฎหมาย ทำให้ถูกต้อง ทำด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ละเอียดรอบคอบ ระมัดระวัง กรณีเป็นพื้นที่ป่าไม้ พื้นที่สาธารณประโยชน์ หรือที่ดินของรัฐประเภทอื่น ๆ ซึ่งเป็นพื้นที่สงวนห้ามตามกฎหมาย ต้องตรวจสอบให้ดี” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวเน้นย้ำ

นายสุทธิพงษ์ฯ ได้กล่าวต่ออีกว่า หน้าที่ที่สำคัญของผู้บังคับบัญชากรมที่ดินในส่วนกลาง ต้องให้ความรู้ความเข้าใจและเป็นที่ปรึกษาให้กับพี่ ๆ น้อง ๆ ชาวดินที่ต้องไปทำงานภาคสนาม โดยถอดบทเรียนข้อสังเกตหรือปัญหาอุปสรรคหรือสิ่งที่เคยวางระเบียบหลักเกณฑ์ไว้โดยกรมที่ดินเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ กฎกระทรวง ฉบับที่ 43 ตามประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งต้องถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เพื่อที่จะไม่ให้เกิดสิ่งที่เป็นจุดอ่อน คือ ทำให้โครงการนี้ถูกยกเลิกไป เพราะโครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน เป็นโครงการที่พี่น้องประชาชนฝากความหวังไว้ พวกเราในฐานะข้าราชการผู้เคยปฏิบัติงานในส่วนภูมิภาค เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า ชาวบ้านยังอยากเห็นโครงการนี้มีความกว้างขวางอย่างทั่วถึง และอยากให้เดินสำรวจเยอะ ๆ แต่ในขณะเดียวกันในเชิงระบบ พวกเราในฐานะเจ้าหน้าที่รัฐก็ต้องรับผิดชอบตามระเบียบกฎหมายอย่างเคร่งครัด ซื่อสัตย์สุจริต ควบคู่กับการให้บริการด้วยความรวดเร็ว ซึ่งแม้ว่าความรอบคอบกับความรวดเร็วอาจจะดูขัดแย้งกันอยู่ แต่ด้วยความสมัครสมานสามัคคี ด้วยความร่วมไม้ร่วมมือของพวกเราชาวดินทุกคน ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ด้วยระบบ ระเบียบ เครื่องไม้ เครื่องมือที่ทันสมัย จะทำให้พี่ ๆ น้อง ๆ ชาวดินที่จะต้องตระเวนไปเดินสำรวจได้มีระบบที่เสริมให้เกิดความรอบคอบรัดกุมพร้อมกับสิ่งที่เป็นความรวดเร็ว “มันก็จะเกิดขึ้นได้”

“ขอฝากพี่ๆน้องๆ ทุกคนว่าภารกิจในการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ของกระทรวงมหาดไทย อยู่ที่งานนี้ของชาวดินทุกคนด้วย อย่าได้กังวลใจว่า คนจะว่าอย่างไร ขอให้ทุกคนได้เชื่อมั่นว่า เราทำดีที่สุดแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นย่อมดีด้วย ขอเป็นกำลังใจและขอให้ทุกท่านประสบความสำเร็จในการทำหน้าที่ เป็นที่รัก เข้าถึงหัวใจของพี่น้องประชาชนที่เราไปช่วยเหลือดำเนินการตามโครงการฯ นี้ และที่สำคัญที่สุด ขอให้ท่านอธิบดีกรมที่ดินได้ร่วมไม้ร่วมมือในการขยายผลให้โครงการฯ นี้ เกิดมรรคเกิดผลทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพเพิ่มพูนมากยิ่งขึ้น ทำให้พี่น้องประชาชนทุกคน ทุกครอบครัว ได้รับสิ่งที่ดี และขออำนวยพรให้ผู้ปฏิบัติหน้าที่ศูนย์เดินสำรวจทุกคนเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ราชการอย่างปลอดภัยและปฏิบัติหน้าที่ให้ประสบความสำเร็จเพื่อพี่น้องประชาชนทุกคน” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในช่วงท้าย

นายชยาวุธ จันทร อธิบดีกรมที่ดิน กล่าวว่า โครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินและรังวัดรูปแปลงโฉนดที่ดินให้เป็นมาตรฐานเดียวกันให้ครอบคลุมทั่วประเทศ และโครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถือเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล และกระทรวงมหาดไทย ที่มีความต้องการให้ประชาชนที่ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินที่สามารถออกโฉนดที่ดินได้ ได้มีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน ลดความเหลื่อมล้ำของสังคมและสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการของรัฐ รวมทั้งแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของประชาชน โดยที่ผ่านมา กรมที่ดินได้ดำเนินโครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2528 จนถึงปัจจุบัน โดยออกโฉนดที่ดินให้แก่ประชาชนทั่วประเทศไปแล้ว จำนวน 14.72 ล้านแปลง เนื้อที่ 70.95 ล้านไร่ โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 เดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน ในพื้นที่ 70 จังหวัด เป้าหมาย 43,500 แปลง ดำเนินการได้ 45,443 แปลง คิดเป็นร้อยละ 104.46 นอกจากนี้ กรมที่ดินได้ตอบสนองยุทธศาสตร์ชาติและนโยบายของรัฐบาล ด้วยการนำข้อมูลที่ประชาชนแจ้งตำแหน่งที่ดินตามโครงการ “บอกดิน” โครงการ “บอกดิน 2” และโครงการ “บอกดิน 3” ที่ได้ตรวจสอบเบื้องต้นแล้วมาจัดทำแผนงานโครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ในพื้นที่ 69 จังหวัด ทั่วประเทศ จำนวน 52,000 แปลง จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ 1) โครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินและรังวัดรูปแปลงโฉนดที่ดินให้เป็นมาตรฐานเดียวกันให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ในพื้นที่รวม 66 จังหวัด ดำเนินการโดยศูนย์อำนวยการเดินสำรวจ จำนวน 6 ศูนย์ 60 สายสำรวจ ในพื้นที่ 30 จังหวัด เป้าหมาย จำนวน 35,700 แปลง และดำเนินการโดยสำนักงานที่ดินจังหวัด/สาขา/ส่วนแยก ในพื้นที่ 36 จังหวัด เป้าหมาย จำนวน 2,300 แปลง รวมเป้าหมายทั้งสิ้นจำนวน 38,000 แปลง ปฏิบัติงานระหว่างวันที่ 15 ธันวาคม 2565 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2566 และ 2) โครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 จำนวน 3 ศูนย์ 30 สายสำรวจ เป้าหมาย จำนวน 14,000 แปลง ดำเนินการในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส และอำเภอจะนะ เทพา นาทวี สะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ปฏิบัติงานระหว่างวันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2566

Leave a Reply