เรื่องเล่า : คนพุทธ-มุสลิม “สามจังหวัดชายแดนใต้” “ผู้เขียน” เดินทางมา 3 จังหวัดชายแดนใต้เพื่อมาติดตามหาข้อมูลพูดคุยกับนายอำเภอ เจ้าหน้าที่รัฐ ผู้นำชุมชน ผู้นำศาสนา รวมทั้งประชาชนทั้งชาวไทยมุสลิมและพุทธ ตามโครงการอำเภอนำร่อง “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ของกระทรวงมหาดไทย ภายใต้การนำของ คุณสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่ตอนนี้ผ่านการคัดเลือกแล้วมี 10 อำเภอทั่วประเทศ และใน 10 อำเภอนี้ ในพื้นที่ชายจังหวัดชายแดนใต้มีอำเภอนำร่องด้วย คือ อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา และอีกอำเภอนำร่องคือ อำเภอเมือง จังหวัดยะลา “อำเภอเทพา” เป็นอำเภอนำร่องระดับยอดเยี่ยม “ผู้เขียน” ได้ลงพื้นที่ไปดูวิถีชีวิตชาวบ้านในพื้นที่ ๆ “ปลัดอำเภอฝ่ายมั่นคง” บอกว่าเป็นพื้นที่ “สีแดงเข้ม” ได้พูดคุยกับชาวบ้าน ปราชญ์ชุมชน แกนนำหมู่บ้าน รวมทั้งผู้อำนวยการโรงเรียน ทำให้รู้ว่าพื้นที่ตรงนี้แม้จะ “สีแดงเข้ม” แต่วิถีชีวิตชาวไทยพุทธและมุสลิม “อยู่ร่วมกัน” อย่างสันติ โดยมี “กิจกรรม” เป็นตัวเชื่อม ทำให้นึกถืงหลักธรรม “อปริหานิยธรรม 7” หลักการปกครอง ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่เจ้าวัชชีทั้งหลายเพื่อให้เกิดความรู้รักสามัคคี ซึ่งแม้แต่รัฐคู่อริก็มองว่าหากเจ้าวัชชีทั้งหลายใช้หลักธรรม “อปริหานิยธรรม 7 ประการ” นี้ปกครองแคว้นอยู่ยากที่จะตีแตก มีอย่างเดียวที่จะตีแตกทำลายแคว้นวัชชีได้ คือ ต้องหาคนยุแหย่ให้แตกความสามัคคี กัน สามจังหวัดชายแดนใต้ก็เช่นเดียวกัน..เวลาเราลงพื้นที่จริงไปดูของจริงแบบนี้ มันคนละเรื่องกับภาพ “จินตนาการ” ของคนไทยส่วนใหญ่ โดยเฉพาะของคนกรุงเทพมหานคร ที่แม้จะมีการศึกษาดี มีฐานะดี แต่ส่วนใหญ่ “ขี้กลัว” และขี้ระแวง “จินตนาการเก่ง” “ผู้เขียน” เดินทางมาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ครั้งนี้มิใช่ครั้งแรกเดินทางลงพื้นที่แบบนี้มาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง ตั้งแต่ยุค “ดร.อุกฤษ มงคลนาวิน” เป็นประธานคณะกรรมการอิสระเพื่ออำนวยความยุติธรรมและเสริมสร้างสิทธิเสรีภาพในจังหวัดชายแดนใต้ และล่าสุดเมื่อปีที่แล้วก็ลงพื้นที่ไปดูแปลงโคก หนอง นา ในอำเภอยะหา จังหวัดยะลา ซึ่งเป็นพื้นที่ “สีแดงเข้ม” เฉกเช่นเดียวกัน ทุกที่ ๆ ไปสัมผัสทุกที่ ๆ ที่ลงไปพูดคุยกับชาวบ้านทั้งคนมุสลิมและคนพุทธ ในระดับชุมชนและหมู่บ้าน จะถามตรง ๆ หรือ แอบถามอะไรก็ตาม ทุกคนพูดตรงกันว่า พี่น้องพุทธและมุสลิม “พวกเรารักกันดี” หมายความว่ามันต้องมีอะไร “แปลก” จากที่ชาวคิดและทำ จึงทำให้ปัญหาภาคใต้ “ผิดปกติ” มีเหตุรุนแรงอยู่ร่ำไป เวลาไปชุมชนคนมุสลิมหรือไปชุมชนคนพุทธ สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ทำให้พวกเขามีความรักและความสามัคคีส่วนใหญ่ “ผ่านกิจกรรม” และ “การพูดคุย” และ “การแบ่งปัน” การเปิดพื้นที่ให้เกียรติซึ่งกันและกัน อย่างเช่น “ไพซอน หนิเร่” ผอ.โรงเรียนกระอาน ต.ท่าม่วง อ.เทพา จ.สงขลา บอกว่า การทำกิจกรรมและการพุดคุยถือว่าเป็นหัวใจของชุมชนโดยเฉพาะแปลงโคก หนอง นา แปลงนี้ มันคือ วิถีชีวิตหล่อหลอมความเป็นไทยพุทธและมุสลิมทำกิจกรรมร่วมกัน มาจิบน้ำชา กินกาแฟด้วยกัน มีปัญหาอะไรมาพูดคุยกันตรงนี้ ปัญหามันก็จะคลี่คลาย ไม่ตกเป็นเหยือของขบวนการใด ๆ หรือ แม้กระทั้ง “สันติ ล่ากูด” ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.ท่าม่วง อ.เทพา จ.สงขลา ก็เล่าว่า เรื่องกิจกรรมเป็นเรื่องสำคัญ ชุมชนหมู่บ้านที่นี้แม้จะเป็นชุมชนมุสลิมประมาณ 95 % ชาวพุทธ 5 % แต่เราให้เกียรติซึ่งกันและกันเหมือนกับปู่ย่าตายายเราเคยทำ อย่างเช่นตนเองในฐานะผู้ใหญ่จะนิมนต์พระภิกษุมาร่วมให้ศีลให้พร ประกอบศาสนกิจให้กับลูกบ้านที่เป็นชาวพุทธเดือนละ 1 ครั้งในศาลาประชาคมหมู่บ้าน เวลาชาวพุทธมีงาน จะมีแม่ครัวคนมุสลิมไปช่วย หรือ งานมุสลิมก็มีคนพุทธมาร่วมด้วยช่วยกัน อย่างงาน “อาซูรอ” ก็จะเชิญคนพุทธมาร่วมรับประทานอาหารด้วยกัน ทุกอย่างมันต้องพูดคุยและผ่านกิจกรรม ความรู้รักสามัคคีมันจึงเกิดขึ้น “ผู้เขียน” เดินทางไปพูดคุยกับชุมชนไทยพุทธล้วนอย่างน้อยอีก 2 ตำบล ทุกคนเปิดอกพูดคุยด้วยใจจริงว่า “ผู้ก่อเหตุ” เวลาจะทำใครมีเป้าหมาย ภาพออกไปข้างนอกพื้นที่ในอำเภอเทพาหรือชายแดนใต้อาจจะ “รุนแรง” แต่ความจริงแล้ว สถานการณ์ไม่ได้น่ากลัวดังที่ปรากฏออกไปสู่สังคมกว้างขนาดนั้น ไทยพุทธ ไทยมุสลิม ที่นี้หลายครัวเรือนก็เป็นญาติกัน เดียวดองกัน ไปมาหาสู่กัน ทำกิจกรรมร่วมกันได้ไม่มีปัญหาอะไร ที่จังหวัดยะลา เจอพระคุณเจ้า 2 รูป ที่มาอบรม “ปรับทัศนคติ” ณ ศูนย์อบรมของกรมการพัฒนาชุมชน จังหวัดยะลา พระคุณเจ้าชื่นชมกิจกรรมที่กระทรวงมหาดไทยจัดขึ้นเป็นอย่างมาก เพราะมองว่าทำให้ “พระสงฆ์” มีที่ยืนในสังคมที่ท่านเรียกว่า “สังคมพหุวัฒนธรรม” พร้อมกับบอกว่า การอบรมแบบนี้นอกจากได้ความรู้ในการทำงานแล้ว ยังทำให้มีเพื่อนเป็นโต๊ะอิหม่ามบ้าง คนมุสลิมบ้าง นายอำเภอบ้าง รู้จักชาวพุทธในพื้นบ้าง ทำให้มีเครือข่าย กระทรวงมหาดไทยทำแบบนี้ สอดคล้องกับ พระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ว่า “เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา” มีความหมายยิ่งขึ้น อำเภอนำร่อง “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ถือว่าเป็นผลงาน “ชิ้นโบว์แดง” ของกระทรวงมหาดไทยที่ดึงการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วนเข้ามาพัฒนาชุมชนหมู่บ้านผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เท่าที่คุยกับนายอำเภอในเขตพื้นที่ “สีแดงเข้ม” ทั้งในจังหวัดสงขลาและยะลา ทุกคนพูดตรงกันว่า “ภาวะผู้นำ” และ ความ “จริงใจ” ของนายอำเภอ ถือว่าเป็น “หัวใจสำคัญ” และนายอำเภอยุคใหม่ต้องเข้าไปนั่งอยู่ใน “หัวใจ” ชาวบ้านให้ได้ อย่านั่งทำงานอยู่แต่ในห้องที่ว่าการอำเภออย่างเดียว ต้องหมั่นขยันลงพื้นที่สร้างความคุ้นเคยกับชาวบ้าน ทำกิจกรรมร่วมกับชาวบ้าน ไปนั่งคุย กินชากาแฟ ใช้ชีวิตติดดินแล้ว แล้วความไว้วางใจ ความเป็นกัลยาณมิตร ความรู้รักสามัคคี สันติสุขในชุมชนหมู่บ้าน ก็จะเกิดขึ้นมาเอง!! Leave a ReplyFacebook Comments More Articles By the same author “พระลี้ภัย” บิณฑบาตโปรดชาวพุทธ “เมืองหลวงชเวรีน” อุทัย มณี ธ.ค. 28, 2021 วันที่ 28 ธันวาคม 2564 เมื่อช่วงค่ำวันนี้ เฟชบุ๊ค Phra Panya Seesun หรือ… นายกฯ หารือนายกฯ ศรีลังกา เยือนไทยเพื่อร่วมพิธีเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชาฯ ย้ำความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด บนพื้นฐานร่วมทางศาสนาและวัฒนธรรม อุทัย มณี มิ.ย. 01, 2023 วานนี้ (วันพุธที่ 31 พฤษภาคม 2566) เวลา 10.00 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า… รองแม่กองบาลีสนามหลวง ชมคณะสงฆ์และภาคีทำงานสร้างสุขภาวะในโรงเรียนพระปริยัติธรรม อุทัย มณี พ.ย. 23, 2022 รองแม่กองบาลีสนามหลวง ชื่นชมคณะสงฆ์และภาคีทำงานสร้างสุขภาวะในโรงเรียนพระปริยัติธรรม… สมเด็จพระสังฆราช ประทานคติธรรมเนื่องในวันมาฆบูชา 2565 อุทัย มณี ก.พ. 15, 2022 วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เนื่องในวันมาฆบูชา… พช. สุดปลื้ม “หนึ่งเดียวของมหาดไทย” คว้า 6 รางวัลเลิศรัฐ ปี’ 64 เป็น 1 ใน 4 ของประเทศ อุทัย มณี ก.ย. 17, 2021 วันที่ 17 กันยายน 2564 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน… “สมเด็จพระพุฒาจารย์” ประธานในพิธีเททองหล่อรูปเหมือน “สมเด็จช่วง” อุทัย มณี ส.ค. 26, 2022 วันศุกร์ที่ ๒๖ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๕ วัดปากน้ำภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร… “สมเด็จชิน ” ประชุมผลักดันงบประมาณ ตาม พ.ร.บ. “การศึกษาพระปริยัติธรรม” อุทัย มณี ก.ค. 01, 2023 วันที่ 1 กรกฎาคม 2566 วานนี้ ณ สำนักงานแม่กองธรรมสนามหลวง สมเด็จพระธีรญาณมุนี… เรียนทำไม!! ภาษาบาลี อุทัย มณี ม.ค. 24, 2022 สมัยเป็นนักเรียนบาลี มีบรรดาพระเณรในวัดที่ไม่ได้มาร่วมเรียนด้วย… รพ.สงฆ์รับอนุญาตเจ้าคณะกทม. ลงพื้นที่เสริมสร้างสุขภาพและป้องกันโรคพระ-เณรวัดสารอด อุทัย มณี ม.ค. 26, 2022 เมื่อวันพุธที่ 26 มกราคม 2565 เนื่องจากโรงพยาบาลสงฆ์ กรมการแพทย์… Related Articles From the same category ส่องเศรษฐีหัวใจพอเพียง! ตอบจดหมาย “บิ๊กตู่” จัดงบฯหนุนไทยฟื้นจากโควิด ตามศาสตร์พระราชา ส่องเศรษฐีหัวใจพอเพียง! ตอบจดหมาย "บิ๊กตู่" จัดงบฯหนุนไทยฟื้นจากโควิด… เหรียญเซียนแปะโรงสี รุ่นเฮงสุดๆ พิธีพุทธาภิเษกไทย – จีน วัตถุประสงค์ในการจัดสร้าง รายได้ส่วนหนึ่งนำไปสมทบทุน ค่ายารักษาและอาหารน้องหมาน้องแมว""ป้าจุ๊… “ปลัด มท.” เน้นย้ำ “ปรัชญาพอเพียง” ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นาโมเดล” ลดภาวะโลกร้อนได้จริง ปลัด มท. ปาฐกถาพิเศษ "บทบาทของกระทรวงมหาดไทยในการขับเคลื่อนงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในระดับจังหวัด"… ‘อธิการบดีมจร’ชม งานวิจัยสันติศึกษา เป็นฐานบริหารจัดการ ความขัดแย้งสังคม วันจันทร์ที่ ๗ เดือนมกราคม พ.ศ. ๒๕๖๒ ที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร)… “แพนเค้ก เขมนิจ”พร้อมครอบครัวทำบุญทอดกฐินที่วัดไทยเมืองลียงฝรั่งเศส สมเด็จพระมหาธีราจารย์เป็นประธาน เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา สมเด็จพระมหาธีราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม…
Leave a Reply