พุทธะอิสระ “เย้ยเจ็บ” “เสี่ยคม” กลายเป็น “ก้อนขี้ลอยน้ำ” แล้ว

วันที่ 10 พ.ค. 66  เฟชบุ๊ค “หลวงปู่พุทธะอิสระ” ได้โพสต์ มีความว่า  แล่ว แล่ว แล้ว เสี่ยคมกลายเป็นก้อนขี้ลอยน้ำไปเสียแล้ว

ตอนเสี่ยคมยังเป็นผู้ที่ทำตัวเหมือนพระอริยะ แถมมียศถาบรรดาศักดิ์

 เสี่ยคมโพทนาว่า ตนเคยเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งหนึ่ง ทั้งที่เสี่ยคมโพทนาออกไปตามสื่อโซเชียลต่างๆ มาเป็นเวลาแรมปี

มหาวิทยาลัยแห่งนั้นก็เงียบกริบ หรืออาจจะมีแอบภูมิใจเล็กๆ ว่าศิษย์ของตนได้เป็นอริยะเจ้า แถมมียศถาบรรดาศักดิ์

 แต่พอเสี่ยคมมีปัญหาถูกจับสึกแถมด้วยอาบัติปาราชิก

 มหาวิทยาลัยสงฆ์ดังกล่าวก็ออกมาปฏิเสธกันพัลวันว่า เสี่ยคมไม่เคยมีประวัติเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งนี้เลย

 แม้แต่วัดที่เสี่ยเคยเข้าไปพัก ครูอาจารย์ที่เคยไหว้ ผู้เฒ่าผู้แก่ที่เคยไปพึ่งพิงอิงอาศัยถึงกับเรียกแม่เรียกชื่อ ก็ออกมาปฏิเสธตัดความสัมพันธ์ที่เคยเอ็นดูรักใคร่ ใกล้ชิดกันมา

 จนคนในวัดนี้ออกมาปฏิเสธว่า

 เสี่ยคม ก็เหมือนบุคคลทั่วๆ ไปที่เข้ามาวัดกราบไหว้ครูบาอาจารย์เท่านั้น หาได้เป็นศิษย์ใกล้ชิดไม่

 นาทีนี้ดูเหมือนเสี่ยคมจะมีสภาพไม่ต่างอะไรกับขี้ลอยน้ำ ลอยไปทางไหนก็จะมีผู้คนออกมาแสดงความรังเกียจ

 นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

 เมื่อกูมั่งมี หมู่มิตรมากมายเฝ้าหมายมอง

 เมื่อกูมัวหมอง มิตรมองกูเหมือนหมูหมา

 เมื่อกูไม่มี หมู่มิตรไม่มองมา

 เหมือนหมูหมา ที่ไม่เมียงมามอง

 เหล่านี้คือ โทษและพิษภัยของโลกธรรมทั้ง 8 คือ

1.ได้ลาภมา ลาภนั้นก็ต้องเสื่อมไป

2.ได้ยศมา ยศนั้นก็ต้องเสื่อมไป

3.ได้รับสรรเสริญมา สรรเสริญนั้นก็ต้องเสื่อมไป ต่อให้ทำดีแทบตาย สุดท้ายก็ต้องเสื่อมไปอยู่ดี

4.ได้สุขมา สุดท้ายมันก็กลายเป็นทุกข์ไม่คงที่

 หากใครเข้าไปยุ่งวุ่นวาย ส้องเสพติดมัวเมาอยู่ในโลกธรรมทั้ง 8 ด้วยความประมาทแล้ว ย่อมต้องตกอยู่ในอำนาจการครอบงำของทุกข์ โทมนัส อุปาทาน ความยึดถือที่เรียกว่า อุปาทานจนต้องมีที่ไปอันน่าอนาถอย่างที่เห็น

พุทธะอิสระเห็นมาหลายคนแล้วพวกที่เข้าไปเสพติดโลกธรรมทั้ง 8 สุดท้ายก็เป็นสภาพไม่ต่างอะไรกับขี้ลอยน้ำ เป็นที่น่ารังเกียจของมนุษย์ เทวดา พรหม และสุจริตสัตว์ทั้งปวง..

Leave a Reply