มส.พักตำแหน่งเจ้าอาวาส “วัดมหาพฤฒาราม” หลังถูกกล่าวหาปล่อย “คนนอก” คุมวัด??

วันที่ 21 มิ.ย. 66  วานนี้ ที่ตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหาร มีการประชุมมหาเถรสมาคม (มส.)​ โดยภายหลังการประชุม นายสุพัฒน์ เมืองมัจฉา ผอ.สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม และโฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.)​ แถลงผลการประชุม มส. ว่า มส. ได้มีมติเห็นชอบตามที่ สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมฺมธโช) กรรมการ มส. เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ได้มีหนังสือแจ้ง มส. ตามหนังสือที่อ้างถึง พระธรรมวชิรเมธี (มีชัย วีรปญฺโญ) เจ้าคณะภาค 1 ได้รับรายงานจาก พระธรรมชิรมุนี วิ. (บุญชิต ญาณสํวโร) เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร รายงานว่า พระราชวชิราภรณ์ (สุรเดช รกฺขิตญาโณ)​ อายุ 83 ปี พรรษา 62 วัดมหาพฤฒาราม วรวิหาร แขวงมหาพฤฒาราม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดมหาพฤฒาราม วรวิหาร ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสพระอารามหลวง ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค. 2553 รวมเวลาดำรงตำแหน่ง 13 ปี โดยได้ปฏิบัติหน้าที่เรียบร้อยตลอดมาจนถึงชราทุพพลภาพ สมควรได้รับปลดเปลื้องเพื่อให้พักผ่อน ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า ควรให้ พระราชวชิราภรณ์ ได้ปลดเปลื้องภาระ เพื่อให้พักผ่อน หรือรักษาตัว จึงเสนอยกเป็นกิตติมศักดิ์ในตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดมหาพฤฒาราม วรวิหาร แขวงมหาพฤฒาราม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร ตามข้อ 39 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2541) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการ ออกตามความใน พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.คณะสงฆ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้วัดมหาพฤฒาราม ได้ถูกร้องเรียนไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และทนายกองทัพธรรม ว่าพระที่ทำหน้าที่ดูแลเจ้าอาวาส วางตัวกีดกันไม่ให้ใครเข้าใกล้เจ้าอาวาส ทั้งได้นำบุคคลจากองค์กรภายนอกเข้ามาควบคุมภายในวัด และแต่งตั้งบุคคลจากองค์กรดังกล่าวเป็นไวยาวัจกร เข้ามาควบคุมและบริหารวัด ทำให้สร้างความเดือดร้อนแก่พระภิกษุสามเณร และผู้อาศัยอยู่ในวัด รวมถึงพุทธศาสนิกชนจนไม่กล้าเข้ามาภายในวัด

โดยมีรายงานว่า สำหรับพระเถระที่เจ้าคณะกรุงเทพฯ จะแต่งตั้งให้มาเป็นผู้รักษาการเจ้าอาวาสวัดมหาพฤฒาราม เพื่อเข้ามาดูแลวัดเป็นการชั่วคราว คือ พระธรรมสุธี (นรินทร์ นรินฺโท) เจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 1 ซึ่งท่านเคยดำรงตำแหน่งสำคัญในคณะสงฆ์กรุงเทพฯ คือ เจ้าคณะกรุงเทพฯ ผู้รักษาการแทนเจ้าคณะกรุงเทพฯ และรองเจ้าคณะกรุงเทพฯ

ที่มา : เดลินิวส์

 

Leave a Reply