ตื่นเช้ามาเจอข่าว เจ้าอาวาสจมน้ำ ที่ วัดไหล่หินหลวง ต.ไหล่หิน อ.เกาะคา จ.ลำปาง  พร้อมกับทิ้งจดหมายปริศนาไว้ว่า “ถูกบีบบังคับ” เหตุเกิดที่จังหวัดลำปาง จากจดหมายที่ “พระคุณเจ้า” เขียนเอาไว้พออนุมานได้ว่าอาจ “ฆ่าตัวตาย” แต่การ “ฆ่าตัวตาย”  ซึ่งเจ้าหน้าที่คงต้องพิสูจน์ว่า “ลายมือ” ในจดหมายเป็นของ “พระคุณเจ้า” ที่ฆ่าตัวตายจริงหรือไม่ หรือมีกลิ่นแปลก ๆ เหมือนกับกรณี “พระธรรมทูต” สายประเทศออสเตรเลีย “ผูกคอตาย” ที่จังหวัดอ่างทองหรือไม่..อันนี้คงต้องให้ “ตำรวจ” เข้าไปดูแล

สอบถาม “พระคุณเจ้า -พศ.” ในพื้นที่ให้ข้อมูลทำนองว่าพระที่ฆ่าตัวตายเดินให้จมน้ำ “เครียด” เพราะไปสร้างวัตถุมงคลไว้ แล้ว “จำหน่ายไม่ออก” ซึ่งเรื่องนี้ “จริงหรือไม่” ก็เป็นประเด็นหนึ่ง ต้องสืบสวนสอบสวน กันต่อไปเหมือนกัน

แต่ที่  “โหดเหี้ยม” มากคือ “ฆ่าพระ -เผานั่งยาง” เหตุเกิดที่ จังหวัดเพชรบูรณ์ จากสื่อเสนอ ชื่อ หลวงปู่พูน ฐิตปุญโญ อายุ 75 ปี เป็นพระภิกษุสังกัด “ธรรมยุตินิกาย”  ชาวบ้านบอกเป็น “พระนักพัฒนา” อาศัยอยู่ในป่าชุมชน “รูปเดียว”  บางสื่อรายงานว่าก่อน “เผายาง” คนร้าย “ปาดคอ” หลวงปู่ไว้ด้วย

“ผู้เขียน” หากเป็น  “พระธรรมวชิรเมธาจารย์” เจ้าคณะภาค 4-5 (ธ) วัดโสมนัส จะรีบลงพื้นที่ด่วนเพื่อ “ติดตาม” เรื่องนี้ พร้อมกับ “พระราชปริยัติบัณฑิต” รองเจ้าคณะภาค ซึ่งอยู่ในจังหวัดเพชรบูรณ์พื้นที่เดียวกัน “ลงพื้นที่” เพื่อ “สร้างขวัญ” และกำลังใจให้กับ “พระในพื้นที่” และญาติโยม อีกนัยหนึ่ง “สร้างกระแส” กดดันให้ “เจ้าหน้าที่” ทำงานประเภทเกาะติด  เพราะเรื่องนี้ “สะเทือนใจ” ชาวพุทธทั่วประเทศ และที่สำคัญ “หลวงปู่พูน” เป็นพระนักพัฒนา เป็นพระอยู่กับป่า..กรณี “หลวงปู่พูน” ที่ถูกฆ่าตัวเพื่อรักษาป่าหรือเพื่ออะไรก็ตาม แต่ท่านเป็น พระภิกษุ มิใช่ครั้งนี้เป็นครั้งแรก มีหลายรูปที่ “ถูกฆ่า” แบบหลวงปู่พูน เพื่อรักษาป่า

 อยากเห็น “มหาเถรสมาคม” สั่งสำนักงานพระพุทธศาสนา “สำรวจ” หน่อยว่า “พระถูกฆ่าตาย” แล้วคดีไม่คืบหน้า หรือเป็นคดีที่ “น่าสงสัย” มีอะไรบ้าง หากเห็นว่า “พศ.” งานเยอะก็ควร “สั่งการ” ให้เจ้าคณะปกครอง เจ้าคณะภาค เจ้าคณะจังหวัด อำเภอ ตำบล ของคณะสงฆ์นี้แหละ สำรวจแล้วส่งไปที่ “มหาเถรสมาคม” หรือ “กองเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช” เพื่อเป็น “ฐานข้อมูล” ให้กำกับ “รัฐบาล – ตร.” ในการดูแลกำกับตาม “คดีพระ” ถูกทำร้าย ถูกฆ่า  เพราะหากปล่อยปละละเลย “หลวงปู่พูน” อาจตายฟรี เหมือนกับ “ศพพระ” ที่แล้ว ๆ มา

คณะสงฆ์ต้อง “ปกป้อง” คนของตัวเองบ้าง อย่าคิดแค่ “แต่งตั้ง -เลื่อน” อย่างเดียว

“ผู้เขียน”  เบื่อรำคาญบรรดานักวิชาการ “ชาวพุทธ” หรือแม้กระทั้ง “องค์กรพุทธ”  ที่มักอ้างตัวเองอุทิศตนเพื่อ “พระพุทธศาสนา” แต่ลับหลัง “รับจ๊อบ” เดินสายบรรยายบ้าง  ไปขอ “เงินวัด” เพื่อเคลื่อนไหวบ้าง ตอนหลัง ๆ มานี้จึงมัก “หลีกเลี่ยง” คนประเภทนี้

กรณี “พระถูกฆ่า” หรือ “พระจมน้ำตาย” หรือแม้กระทั้ง “วัดถูกไล่ที่” แย่งชิงที่ดิน พระภิกษุสงฆ์ถูก “ย่ำยี” เรื่องเหล่านี้ คณะสงฆ์ ชาวพุทธ  ต้องตื่นรู้  ต้องช่วยกันพิสูจน์ ว่า “ข้อเท็จจริง” เป็นเช่นไร  ลำพังตำรวจบอกตรง ๆ  “เอาไม่อยู่”

ชาวพุทธต้อง “ตืนตัว” เรื่องนี้ อย่าปล่อยให้คนชั่วได้ใจ..ฆ่าพระได้ แปลว่า “ชั่วโดยสันดาน”