ฉับพลันที่เห็นข่าวพรรคภูมิใจไทย ได้เสนอร่างกฎหมายเพื่อพี่น้องชาวมุสลิมเข้าสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 2 เรื่อง ประกอบด้วย พ.ร.บ.ฮัจญ์ และ พ.ร.บ.สันติภาพ เพื่อคุ้มครองพี่น้องชาวมุสลิม และสร้างหลักประกันในชีวิตครอบคลุมทุกมิติ สาระสำคัญ มี ดังนี้ 1.คณะกรรมการกิจการฮัจญ์ ซึ่งคณะนี้เป็นบอร์ดใหญ่ จะเป็นที่กำกับดูแลเรื่องฮัจญ์ 2.คณะกรรมการผู้แทนฮัจญ์ทางการ ซึ่งคณะนี้จะมี 12 คน จะหน้าที่กำกับดูแลในการปฎิบัติ 3. สำนักงานกิจการฮัจญ์ เป็นการตั้งหน่วยงานที่รับผิดชอบขึ้นมาใหม่ โดยไม่ใช่หน่วยงานของรัฐ ไม่เป็นศูนย์ราชการ ไม่เป็นรัฐวิสาหกิจ โดยมีเลขาธิการเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด โดยที่จะมีการยกเลิก พ.ร.บ.ส่งเสริมกิจการฮัจญ์ปี 2524, 2532 และ 2559 โดยใช้ร่างฉบับผู้แทนราษฎร และ 4. จัดตั้งกองทุนส่งเสริมกิจการฮัจญ์ในสำนักงาน เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนสำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของสำนักงาน
มูลเหตุสำคัญที่จะต้องดำเนินการเรื่องนี้ ก็เพราะมีพี่น้องชาวมุสลิมจำนวนมาก ที่เดินทางไปแสวงบุญประกอบพิธีฮัจญ์ ที่ซาอุดีอาระเบีย แต่ถูกทัวร์เอารัดเอาเปรียบ โดนลอยแพ และเก็บค่านายหน้าที่สูงเกินกว่าความเป็นจริง โดยผลักดันให้มีกองทุนฉุกเฉินให้กู้ยืมโดยไม่มีดอกเบี้ย พร้อมขอให้ตั้งองค์กรกิจการพิธีฮัจญ์ เป็น “หน่วยงานอิสระ” มีเลขาธิการเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด…

“ผู้เขียน” ขอแสดงความดีใจกับพี่น้องคนมุสลิม ที่พวกท่านเลือกผู้แทนและ มีพรรคการเมืองที่ดีได้แบบนี้ แบบที่ปกป้องคุ้มครองผลประโยชน์ของประชาชนผู้เลือกและเอาใจใส่ศาสนา
“พวกท่าน” ผู้เป็นพี่น้องมุสลิม เพียงแค่เดือดร้อนจาก “ถูกเอารัดเอาเปรียบจากคณะทัวร์” ยังมี “นักการเมือง” กลุ่มใหญ่ เดือดร้อนใจ ยอมทำเพื่อพวกท่านขนาดนี้
ต่างจาก “ชาวพุทธ” พวกท่านรู้ไหม ความไม่สงบสุขที่เกิดขึ้นใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ปะทุขึ้นตั้งแต่ 2547 “พวกเรา” หมายถึง “ชาวพุทธ” กลายเป็น “ชนกลุ่มน้อย” ในพื้นที่บางพื้นที่ไปแล้ว ทั้งพระสงฆ์และชาวพุทธ “ถูกฆ่าตาย” หลายรูป หลายคน พระภิกษุบางรูป “ไม่กล้า” แม้กระทั้งจะบิณฑบาต อันเป็น “วัตรปฎิบัติ” ของพระภิกษุที่พระพุทธองค์บัญญัติเอาไว้ อยู่ในวัดเพียงเพื่อมิให้วัดกลายเป็น “วัดร้าง” และจำต้องอยู่เพียงเพื่อให้ “กำลังใจชาวพุทธ” บ้างเท่านั่น ทั้ง ๆ ที่โดยวิสัยแห่งปุถุชน “กลัวตาย” กลัวเกิดเหตุร้ายเหมือนกัน ชาวพุทธบางครอบครัว ต่างหนีออกมากจาก “แผ่นดิน” ที่บรรพบุรุษปู่ย่าตายายฝากฝังเอาไว้ เพราะกลัวไม่ปลอดภัย และ ความ “กลัวตาย”
พวกท่านเคยเห็นผู้นำคณะสงฆ์ หรือแม้กระทั้ง “ผอ.พศ.” เคยไปเยี่ยมเยียนคณะสงฆ์ เคยไปฉันข้าวชาวบ้าน เคยไปพูดคุยปลอบใจชาวพุทธ บ้างหรือไม่ !! แม้กระทั้งพวกท่านเคยเห็นพระเถระผู้ใหญ่ระดับมหาเถรสมาคมเคยไป รดน้ำศพ ไปเผาศพผู้ตายบ้างหรือไม่ อันนี้ไม่ต้องพูดถึง “กองทุน” สำหรับชาวพุทธที่พวกท่านกำลังคิดจะมีเพื่อใช้จ่ายในกิจการฮัจญ์
“ผู้เขียน” จึงชื่นชมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์จากพรรคภูมิใจไทย ทั้ง 71 คนที่เสนอกฎหมายทั้ง 2 ฉบับนี้ แม้บางคนจะมองว่าเป็นการ “แย่งชิง” มวลชนแย่งชิงคะแนนเสียงกับ “พรรคประชาชาติ” แต่สิ่งที่ ส.ส. ทั้ง 71 คนทำ ก็ เพื่อผลประโยชน์สำหรับคน “มุสลิม” จากสถิติประเทศไทยแม้จะมีประชากรนับถือศาสนาอิสลามประมาณ 5 % ซึ่งความจริงโดยกายภาพ พวกท่านไม่ต้องห่วง ไม่เกิน 20 ปี น่าจะเพิ่มขึ้นถึง 10 % แน่ ๆ
การตั้ง “องค์กรกิจการพิธีฮัจญ์” แบบอิสระ คงมีรูปแบบคล้ายคลึงกับสำนักงาน กกต. ปปช. หรือไม่ก็คล้ายกับ สำนักงาน กรรมการสิทธิ ซึ่งมีอิสระอย่างแท้จริง อนาคตไม่ต้องกลัว “รัฐบาล” ครอบงำ “ผู้เขียน” ขอให้สมหวัง ได้ดังใจ เพื่อผลประโยชน์พี่น้องมุสลิม เพื่อนร่วมชาติ ร่วมแผ่นดิน
“พี่น้องมุสลิม” รู้ไหม “ชาวพุทธ” ในฐานะคนส่วนใหญ่ของประเทศและในฐานะนานาชาติยกย่องให้ประเทศไทยเป็น “ศูนย์กลางพุทธศาสนาโลก” พยายามเสนอร่างกฎหมายเพื่อปกป้องคุ้มครองดูแลชาวพุทธแบบ “พี่น้องมุสลิม” บ้าง เพื่อเป็น “หลักประกัน” วิถีชีวิตและคุ้มครองชาวพุทธ ไม่มีพรรคการเมืองไหน “รับลูก” และผลักดันอย่างต่อเนื่องเลยสักพรรค


Leave a Reply