“ผู้เขียน” ฟังคำสัมภาษณ์ “คุณพวงเพ็ชร ชุนละเอียด” หรือที่รู้จักกันในชื่อเล่นว่า “แจ๋น” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่ดูแล “คณะสงฆ์” ศิษย์สายตรง “บ้านจันทร์ส่องหล้า” เรื่องการเข้าไปแก้ไขปัญหา “วัดบางคลาน” จังหวัดพิจิตรแล้ว “สิ้นหวัง” แปลว่า ท่านเป็นคนไม่รู้เรื่องความเป็นมาของวัดบางคลาน ผลประโยชน์ในวงการวัด วงการคณะสงฆ์ อะไรเลย
“ผู้เขียน” ขอนำเนื้อข่าวที่เผยแพร่โดยกรมประชาสัมพันธ์ที่ “คุณแจ๋น” ดูแลนี่แหละ ลงข่าวว่า “นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ) กล่าวถึง กรณีปัญหาข้อพิพาท วัดบางคลาน จ.พิจิตร จากการสอบถามไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พบว่าระหว่างพระกับฆราวาส มีความไม่เข้าใจกัน ปัญหายืดเยื้อมาถึง 9 ปี ซึ่งวันจันทร์ ที่ 25 กันยายนนี้ จะประชุมกันในวงเล็ก ที่มีสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ตำรวจ และอาจจะเชิญนายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สว. ร่วมด้วย เพื่อรับเรื่องทั้งหมดมาพิจารณา โดยเจ้าคณะจังหวัดจะเป็นผู้รับเรื่อง และตัดสินใจ ซึ่งเจ้าคณะหนเหนือจะเป็นผู้ไกล่เกลี่ยว่าจะทำอะไรได้บ้าง..”

แปลว่าจะดึง “เจ้าคณะปกครอง” ทั้งเจ้าคณะจังหวัด ทั้งเจ้าภาค และเจ้าคณะหนเหนือ เข้ามาให้ “คนหัวดำ” ด่าอีกรอบหรือไร ปัญหาวัดบางคลานยืดเยื้อมาถึง 9 ปี เลยขั้นตอน “การไกล่เกลี่ย” แล้ว เรื่องนี้ศาลแพ่ง เคยพิพากษาไว้เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2562 สรุปใจความตอนท้ายว่า
“มีคำพิพากษาให้ขับไล่จำเลยทั้งสิบเอ็ดและบริวารออกจากวัด (จำเลยที่ 1สว.คนดัง) พร้อมทั้งขนย้ายสิ่งของและสิ่งก่อสร้างออกจากวัด ห้ามจำเลยทั้ง 11 คนและบริวารเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกิจการและทรัพย์สินของวัด ห้ามจำเลยทั้งสิบเอ็ดและบริวารพักอาศัยหรือชุมนุมในวัด และห้ามจำเลยทั้งสิบเอ็ดและบริวารขัดขวางการปฎิบัติหน้าที่ของโจทก์..”
ตอนนี้มิใช่ “หน้าที่” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ต้องนิมนต์พระสงฆ์เข้ามาคุยเพื่อ “ไกล่เกลี่ย” จำได้ว่า “เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร” กลุ่มบุคคลที่เข้าไปยึดวัด เคยตั้งข้อกล่าวหาเรื่อง “อาบัติปาราชิก” ด้วยใช่หรือไม่ ท่านกลายเป็น “คู่ขัดแย้ง” ไปแล้ว จะมาไกล่เกลี่ยด้วยได้อย่างไร ซ้ำศาลก็พิพากษามาแล้ว
ตอนนี้ “รัฐบาล” ทำได้อย่างเดียวคือ “เจรจา” ควบคู่ไปกับการบังคับใช้กฎหมาย..จากเบาไปหาหนัก ต้อง “ทวงวัดคืน”
เรื่องวัดบางคลาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ยังเอาไม่อยู่ ข้อมูลเรื่องเหล่านี้ “ทีมงาน” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ต้อง “ทำงาน” ให้หนักกว่านี้ ต้องมี “ข้อมูล” เพียงพอก่อนที่จะให้รัฐมนตรีสัมภาษณ์


Leave a Reply