“พวงเพ็ชร” ส่ง “ทีมที่ปรึกษา” ถกผู้บริหาร “สำนักงานพุทธฯ” ชูนโยบายเร่งด่วน 7 ข้อ

วันที่ 16 ตุลาคม 2566  เวลา 17.00 น. ที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ นางสุภาภรณ์ คงวุฒิปัญญา เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด) ดร.นิยม เวชกามา ประธานที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ดร.เพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล ที่ปรึกษารัฐมนตรี ดร.ณพลเดช มณีลังกา และคณะทีมที่ปรึกษา ได้เข้าร่วมประชุมกับ นายอินทพร จั่นเอี่ยม รองผู้อำนวยการ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พร้อมด้วยผู้บริหารสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียง

นางสุภาภรณ์ คงวุฒิปัญญา กล่าวว่า  รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายนโยบาย ให้คณะที่ปรึกษา ซึ่งวันมีท่านนิยม เวชกามา ดร.เพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล พร้อมอีกหลายท่านมาร่วมพูดคุยกับผู้บริหารสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งทีมที่ปรึกษาเหล่านี้ ท่านสมัครใจเลือก มางานที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

“รัฐมนตรีมีนโยบายเร่งด่วน 7 เรื่อง ที่ต้องการให้สำนักงานพระพุทธศาสนาขับเคลื่อน คือ 1. การเผยแผ่พระพุทธศาสนาเชิงรุกในการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับคณะสงฆ์  2. การพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางของชุมชน เรื่องที่ดินวัด การของตั้งวัด การพัฒนาวัดร้าง ปัญหาที่ดินวัด ตอนนี้มีประมาณ 10 วัดที่ยื่นขอให้สำนักนายกรัฐมนตรีช่วยแก้ไขปัญหา 3. เรื่องศาสนสมบัติกลาง  4. โรงเรียนพระปริยัติธรรม ทำอย่างไรให้ได้งบประมาณเร็วที่สุดอันนี้รวมถึงงบประมาณของครูสอนนักธรรม และบาลี ด้วย 5.บัตร Smart Card เพื่อป้องกันพระปลอม ซึ่งอนาคตจะมีการยกเลิกในสุทธิทั้งหมด และอาจนำร่องในเมืองใหญ่ ๆ ก่อน 6. การขับเคลื่อนพระคิลานุปัฎฐาก เนื่องจากปัจจุบันวัดหลายแห่งมีพระสงฆ์อาพาธ แต่ท่านยังขาดการดูแลการขั้นพื้นฐาน รวมทั้งคณะสงฆ์เองก็ต้องปรับตัวรองรับเข้าสู่สังคมสูงวัยของประเทศไทย ตรงนี้อนาคตจะมีการทำงานร่วมกันกับกระทรวงสาธารณสุข และ 7. เงินนิตยภัต ทั้ง 7 เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนที่รัฐมนตรีสั่งการมาให้คณะที่ปรึกษามาปรึกษาหารือกับผู้บริหารสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือแม้กระทั้งการพัฒนาพุทธมณฑลให้เป็นศูนย์กลางพุทธศาสนาโลก อันนี้ท่านรัฐมนตรีก็มีความห่วงใย ซึง่ท่านมองว่าอนาคตเราอาจต้องมี พาร์ทเนอร์ หรือหุ้นส่วนมาช่วยบริการจัดการในบางพื้นที่ เพื่อให้พุทธมณฑล มีรายได้ เลี้ยงตัวเองได้ ส่วนกิจกรรมอาจต้องเพิ่มช่องทางอื่น ๆ  เช่นการส่งเสริมการปฎิบัติธรรม ให้หน่วยงานภาคเอกชน ประชาชน เข้ามาใช้มากขึ้น เพราะทุกวันนี้จากตัวเลขส่งมา ค่าใช้จ่ายรายเดือนค่อนข้างสูง ตรงนี้ทำอย่างไรให้พุทธมณฑล เลี้ยงตัวเองได้ ไม่ต้องเพิ่งพางบประมาณแผ่นดินมากนัก..”

ด้าน ดร.เพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล กล่าวว่า วันนี้พวกเราตั้งใจมาทำงานร่วมกันกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ทุกคนตั้งใจมา เพราะต้องการแก้ไขปัญหาให้กับคณะสงฆ์โดยเฉพาะปัญหาที่ดินวัด ตอนที่เป็นกรรมาธิการศาสนา อยู่นั่นมีปัญหามาก ตรงนี้ต้องเร่ง รวมทั้งนโยบายเร่งด่วนที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีท่านกำชับมาคือเรื่องบัตร Smart Card และเรื่องพระคิลานุปัฎฐาก

“อย่างที่เลขานุการรัฐมนตรีท่านกล่าวไว้ พวกเรามานี้ขอรัฐมนตรีท่านเองว่า ทีมที่ปรึกษาชุดนี้ขอมาทำงาน ร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ไม่เลือกไปที่ไหน เพราะอยากทำงานตรงนี้ และมาอยู่ มาทำงานร่วมกับพวกท่าน อย่าคิดว่าพวกเรามากดดัน พวกเราฝ่ายการเมือง ต้องพึ่งคนของสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ ในฐานะเจ้าของงาน พวกท่านมีข้อมูลมากกว่า มีความรู้มากกว่า พวกเราแค่มาเพิ่มเติมเสริมงานของคณะสงฆ์ให้ไปมันเดินได้เร็วยิ่งขึ้น ตามนโยบายของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี..”

ส่วน นายอินทพร จั่นเอี่ยม ได้กล่าวปิดท้ายว่า รู้สึกดีใจที่ทีมที่ปรึกษารัฐมนตรีให้ความสนใจเรื่องกิจการคณะสงฆ์ กิจการพระพุทธศาสนา ซึ่งหลายท่านก็คุ้นเคยกันอยู่แล้ว ทำงานสบายใจ และทุกเรื่องที่กล่าวมาซึ่งเป็นนโยบายของท่านรัฐมนตรี สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติหยิบขึ้นมาต่อยอดได้เลย ไม่ลำบากอะไร ต่อจากนี้จะมอบให้แต่ละกองแบ่งกันทำงานตามภาระหน้าที่ เช่น เรื่อง บัตร Smart Card สำนักงานเลขาธิการสมาคม ทำอยู่แล้ว ตอนนี้ทำเรื่องขอข้อมูลกับกรมการปกครอง ไม่นานคงพร้อม และอนาคตหากพระท่านมี บัตร Smart Card สิทธิผลประโยชน์ต่าง ๆ  ก็ได้รับเหมือนกับพลเมืองไทยทั่วไป หรือแม้กระทั้งเรื่องเงินนิตยภัต ตอนนี้ก็ให้สำนักงานเลขาธิการสมาคม เตรียมข้อมูลไว้แล้วเช่นกัน พระคิลานุปัฎฐาก มอบให้กองพุทธศาสนสถานดูแล ภายในวันจันทร์หน้าโครงสร้างงานที่พูดคุยกันในวันนี้จะส่งถึงทีมงานที่ปรึกษาทั้งหมด..”

Leave a Reply