ชาวบ้านกว่า 50 คน บุกศาลากลางจังหวัดฯ ยื่นหนังสือถึง ป.ป.ช. และ ผู้ว่าฯบุรีรัมย์ ร้องให้ตรวจสอบเจ้าอาวาสวัดดัง ทั้งยักยอกเงินวัด มีส่วนได้เสียเอาเงินวัดไปก่อสร้างกุฏิ ในที่สาธารณะ และมีการฟ้องร้องชาวบ้านข้อหาบุกรุก จี้ขอให้ย้ายอาวาส ด้านศูนย์ดำรงธรรมฯ และ ป.ป.ช.บุรีรัมย์ รับเรื่องไว้พิจารณาดำเนินการคาดใช้เวลาไม่เกิน 1-2 เดือน
วันที่ 18 ต.ค.2566 ชาวบ้านหมู่ 6 บ้านสะเดา , หมู่ 8 บ้านทุ่งมน และหมู่ 13 บ้านหนองเสม็ด ต.สะเดา อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ กว่า 50 คน ได้รวมตัวกันเดินทางมาร้องเรียนที่หน้าศาลากลางจังหวัด บุรีรัมย์ พร้อมทั้งยื่นหนังสือถึงประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช. และผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ให้ทำการตรวจสอบเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่ง ใน ต.สะเดา อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์โดยกล่าวหาว่า เจ้าอาวาส รูปดังกล่าว มีพฤติกรรมยักยอกเงินของวัดไปใช้ส่วนตน และมีส่วนได้เสียในการเอาเงินวัดไปก่อสร้างกุฏิในที่สาธารณะประโยชน์ เพื่อประโยชน์ของตนเอง ทำให้วัดเสียหาย อีกทั้งได้ตั้งไวยาวัจกรวัด โดยไม่ชอบกฏมหาเถรสมาคม เพื่อประโยชน์ของตนเองหรือผู้อื่น เป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
อีกทั้ง ยังมีการฟ้องร้องผู้นำ และชาวบ้านหลายคน ถูกกล่าวหาว่าบุกรุกกุฏิของเจ้าอาวาส จึงอยากให้มีการตรวสอบที่สาธารณะประโยชน์ และผู้ที่มาบุกรุกจะดำเนินการอย่างไร เพื่อให้ความชัดเจนกับชาวบ้าน
นางนกเอี้ยง พิมพ์อริยธาดา ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 บ้านสะเดา ต.สะเดา อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ กล่าว่า ชาวบ้านต้องการให้ทางจังหวัดตรวจสอบว่ามีการบุกรุกที่สาธารณะประโยชน์จริงหรือไม่ และต้องการให้เจ้าอาวาสออกจากสถานที่ดังกล่าว ชาวบ้าน 3 หมู่บ้าน ไม่ต้องการเจ้าอาวาสรูปนี้อีกต่อไป ซึ่งมีพฤติกรรมหลายอย่างที่ทำให้ชาวบ้านรับไม่ได้ อีกทั้งยังมีการฟ้องร้องผู้นำ และชาวบ้านหลายคนถูกกล่าวหาว่าบุกรุกกุฏิของเจ้าอาวาส ซึ่งก็มีหมายศาลมาแล้ว ทั้งที่บริเวณดังกล่าวเป็นหนองสระ ที่สาธารณะประโยชน์ของหมู่บ้านชุมชน อยู่ติดกับวัดเป็นเขตติดต่อกัน จึงอยากให้มีการตรวสอบที่สาธารณะประโยชน์ด้วย และผู้ที่มาบุกรุกจะดำเนินการอย่างไร เพื่อให้ความชัดเจนกับชาวบ้าน
หากการร้องเรียนครั้งนี้ ไม่ได้ตามที่ชาวบ้านต้องการ ก็จะมาทวงถามที่ศาลากลางจังหวัดบุรีรัมย์อีก หรืออาจจะไปร้องเรียนนายกรัฐมนตรี ช่วยแก้ปัญหาที่เกิดจากคนๆ เดียว ที่ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน จะช่วยแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้าน เรื่องเกิดมายาวนานเป็นปีแล้วยังแก้ไขไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้ ชาวบ้านจึงมาร้องเรียนกันที่จังหวัด
ต่อมา นายชุมพล ภูผานิล ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นตัวแทนผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ สำนักงาน ป.ป.ช.จังหวัดบุรีรัมย์ ได้มารับหนังสือร้องเรียนจากตัวแทนชาวบ้าน พร้อมชี้แจ้งรายละเอียด ระเบียบขั้นตอนการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ชาวบ้านได้รับฟัง เป็นที่เข้าใจแล้ว ชาวบ้านต่างพอใจจึงพากันสลายตัวกลับไป
เจ้าหน้าที่ สำนักงาน ป.ป.ช.จังหวัดบุรีรัมย์ ชี้แจงว่า หลังจากรับหนังสือแล้ว เจ้าหน้าที่จะพิจารณาคำกล่าวหาอีกครั้งว่า เกี่ยวกับผู้ถูกกล่าวหา จะมีเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับเรื่องการดูแลรักษาที่สาธารณะประโยชน์เข้ามามีส่วนร่วม ว่ามีการละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ แล้วจึงจะพิจารณาเสนอ คณะกรรมการ ป.ป.ช.เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป ว่าจะดำเนินการเรื่องนี้เองหรือจะมอบหมายเรื่องนี้ให้หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไปอีก ซึ่งในขั้นตอนการพิจารณาเรื่องกล่าวหาก็ใช้เวลาไม่เกิน 1-2 เดือน
ที่มา :ไทยโพสต์
Leave a Reply