เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2567 เวลา 09.30 น. ที่วิทยาลัยศิลปหัตถกรรมนครศรีธรรมราช (โรงเรียนช่างถม) อ.เมืองนครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช นางเทียบจุฑา ขาวขำ ประธานคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร พร้อมคณะกรรมาธิการ ได้เข้าศึกษาดูงาน ด้านศิลปะและวัฒนธรรม
นางเทียบจุฑา กล่าวว่า จากการมา จ.นครศรีธรรมราช ด้วยการแนะนำของ นายษฐา ขาวขำ ผู้แทนราษฎรจังหวัดนครศรีธรรมราช ในฐานะกรรมาธิการ ซึ่งมีประเด็นสำคัญ 2 เรื่อง คือดูงานศิลปะ และวัด กรณีของศิลปะ วานนี้ได้ศึกษางานที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ที่จะผลักดันขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก จากก่อนนี้ที่ผ่านไป 10 ปี ยังไม่คืบหน้า หลังจากกรรมาธิการฯมาผลักดันและประชุมจัดเสวนา ก็เริ่มมีความคืบหน้าทั้งด้านเอกสารและงบประมาณ คาดว่าจะทำให้เกิดความสำเร็จเร็วๆ นี้

ตนขอยกตัวอย่างประโยชน์การได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ที่ จ.อุดรธานี ในอดีต เมืองโบราณศรีเทพ มรดกโลกแห่งที่ 7 ของไทย อดีตมีคนมาท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศหลักร้อย ปัจจุบันมาขึ้นถึงหลักพัน ส่งผลถึงการสร้างงานสร้างอาชีพ ลูกหลานก็ไม่ต้องไปทำงานไกล สำหรับเครื่องถม นครศรีธรรมราช มีชื่อเสียง ทั้งนี้ปัญหาอุปสรรคอาจมีในการสนับสนุนจากภาครัฐ ตามที่ นายพิมนศิลป์ ทัพนันตกุล ผู้อำนวยการ ได้ชี้ถึงปัญหาอุปสรรคด้านงบประมาณ ท่าน กมธ. นั้นอยู่กันหลายพรรค นำไปศึกษาได้ข้อสรุปแล้วนำไปเสนอต่อสภา เสนอต่อรัฐบาล ต่อไป
อย่างไรก็ตาม นายพิมนศิลป์ กล่าวว่า การให้งบประมาณปัจจุบันมีการกำหนดระเบียบงบประมาณให้เด็กรายหัว ซึ่งไม่ยุติธรรม การใช้ครูเท่ากัน การสร้างพิพิธภัณฑ์จะต้องดูแลเป็นพิเศษ ทำไมข้าราชจังหวัดชายแดนใต้เต็มอัตรา งานของเราเหมือนดูแลรากแก้ว ครูเกษียณแต่จ้างเพิ่มไม่ได้ งบรายหัว 5 คน แบกคุณค่าประเทศมากมาย น่าจะมีงบเพิ่มเฉพาะทางด้านศิลปะบ้าง การดูแลวิทยาลัยด้านศิลปะ นำไปสู่ soft power แต่ถูกขีดเส้นไว้ นักเรียนกว่า 80% ทำงานสายตรง ยกตัวอย่างที่ช่างสิบหมู่ แม้นักเรียนจบน้อย แต่คุณภาพมาก


Leave a Reply