วันนี้ 10 พ.ย 66 นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า จังหวัดแม่ฮ่องสอนได้จัดกิจกรรม “ลงแขก เกี่ยวข้าว นานาชาติ เอามื้อสามัคคี ทำความดี เพื่อแผ่นดิน” เพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา 28 กรกฏาคม 2567 สนองพระราชปณิธาน “สืบสาน รักษา และต่อยอด” น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ พร้อมสัมผัสชีวิตวิถีไทยในการปลูกข้าวแบบขั้นบันได ที่แปลงครัวเรือนต้นแบบ โคก หนอง นา เฟิร์นริมธาร รีสอร์ท ของนายธวัชชัย น้าทิพากร บ้านหัวน้ำแม่สะกึด อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศจำนวนมาก อาทิ นักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน เนเธอร์แลนด์ เบลเยี่ยม รวมกว่า 100 คน ร่วมกิจกรรม
นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า กิจกรรม “ลงแขก เกี่ยวข้าว นานาชาติ เอามื้อสามัคคี ทำความดี เพื่อแผ่นดิน” เป็นกิจกรรมที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนจัดขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากควบคู่การส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยใช้พื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต ตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา” แปลง เฟิร์นริมธาร เป็นพื้นที่แหล่งศึกษาเรียนรู้ โดยน้อมนำพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมุ่งมั่น แน่วแน่ ในการสืบสาน รักษา และต่อยอด แนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่พระราชทานหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง พร้อมขยายผลน้อมนำแนวทางพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการปลูกพืชผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร ตามโครงการ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” เพื่อทำให้เกิดการเรียนรู้หลักการพึ่งพาตนเองและความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่จนเป็นวิถีชีวิต ผ่านการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ (Eco-tourism) ส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งทำให้ชาวบ้านในชุมชนมีส่วนร่วม ส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีไทย กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนจังหวัดแม่ฮ่องสอน
“โครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา” เป็นต้นแบบที่นำมาใช้ในการบริหารจัดการน้ำ และพื้นที่การเกษตร ผสมผสานกับภูมิปัญญาพื้นบ้าน ตามความเหมาะสมของสภาพภูมิศาสตร์ และภูมิสังคม นับว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีที่การจัดกิจกรรมในครั้งนี้เป็น Soft Power ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในการให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ได้ร่วม “ลงแขก เกี่ยวข้าว นานาชาติ เอามื้อสามัคคี ทำความดี เพื่อแผ่นดิน” เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา 28 กรกฏาคม 2567 สนองพระราชปณิธาน “สืบสาน รักษา และต่อยอด” น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพีย งซึ่งกิจกรรมนี้ได้รับความสนใจอย่างมากจากนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมจังหวัดแม่ฮ่องสอน ทำให้ได้สัมผัสธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และเรียนรู้เเนวทางในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังได้มีโอกาสเรียนรู้เเละเข้าใจวัฒนธรรมท้องถิ่นผ่านเจ้าหน้าที่ของรีสอร์ต เพราะเจ้าหน้าที่ทุกคน คือ คนในท้องถิ่น ทั้งคนกะเหรี่ยง คนไทยใหญ่ และปกาเกอะญอ ซึ่งทุกคนล้วนมีส่วนร่วมในการสร้างพื้นที่รีสอร์ตแห่งนี้ให้เต็มไปด้วยความรัก ความสุข และความอบอุ่น รวมถึงช่วยรักษาธรรมชาติที่มีอยู่ให้มีความสมบูรณ์” นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าว
นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา” แห่งนี้ได้เข้าร่วมโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา” ของกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เมื่อปี 2563 โดยมี นายธวัชชัย น้าทิพากร เป็นเจ้าของแปลง ซึ่งแต่เดิมนั้น เฟิร์นริมธาร รีสอร์ท ประกอบธุรกิจด้านการให้บริการที่พักแก่นักท่องเที่ยว ภายใต้แนวคิดเรื่องการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ (Eco-tourism) มาเป็นระยะเวลากว่า 30 ปี โดยเน้นการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคม อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทำให้ชาวบ้านในท้องถิ่นได้มีส่วนร่วมต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยเเละชาวต่างชาติ ซึ่งการเข้าโครงการนี้เจ้าของแปลงมีความมุ่งหวังที่จะให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันระหว่างนักท่องเที่ยวและชาวบ้านในพื้นที่ สอดคล้องตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพีอง บนหลักการ “พึ่งพาตนเอง” และ UN SDGs และยังสร้างอัตลักษณ์ใหม่ภายในรีสอร์ตได้อีกด้วย
“ขอขอบคุณ คุณธวัชชัย น้าทิพากร เจ้าของแปลงครัวเรือนต้นแบบ โคก หนอง นา เฟิร์นริมธาร รีสอร์ท ที่ได้มีกิจกรรมดี ๆ ผลักดันให้จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้มี Landmark อันเป็นสถานที่ที่สร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ขับเคลื่อน Soft Power อารยเกษตรไทย เป็นต้นแบบขยายผลสู่ความยั่งยืนทั่วโลก อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้คนในท้องถิ่นได้เรียนรู้วิถีความพอเพียง หลักการทำเกษตรอินทรีย์ พร้อมส่งเสริมสร้างแรงบันดาลใจให้นำเเนวคิดไปขยายผลสร้างความมั่นคงทางอาหารให้แก่ครัวเรือนของตนเอง ให้มีผัก อาหารปลอดภัยไว้บริโภคในครัวเรือน เป็นการสร้างการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน อันจะเป็นการสร้างความรักความสามัคคี สร้างความหวงแหนอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีไทย เพื่อถ่ายทอดไปสู่เยาวชนคนรุ่นใหม่ นำไปสู่การเป็นหมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village) ตามพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ยกระดับขยายผลสู่ความยั่งยืนให้เกิดขึ้นในทุกพื้นที่ของจังหวัดแม่ฮ่องสอนอย่างเป็นรูปธรรม” นายเชษฐาฯ กล่าวทิ้งท้าย
Leave a Reply