วันที่2 มกราคม 2566 พระปราโมทย์ วาทโกวิโท ผู้อำนวยการหลักสูตรบัณฑิตศึกษาพุทธศาสตรมหาบัณฑิต หลักสูตรสันติศึกษา มจร ซึ่งขณะนี้ได้นำคณะนักศึกษาจาก มจร ไปทัศนศึกษาอยู่ ณ พุทธคยา เมืองคยา ประเทศอินเดีย ได้รายงานว่า องค์ดาไลลามะเดินทางมาประทับที่พุทธคยา ประเทศอินเดีย ทำให้บรรยากาศพุทธคยาคึกคักอย่างยิ่ง แดงเลือดหมูไปทั่วพุทธคยา ซึ่งพระองค์เป็นความหวังอันยิ่งใหญ่ของทิเบตเป็นนักสันติภาพต้นแบบที่มีประโยคฮิตที่ว่า “กลัวว่าจะเกลียดศัตรูเข้าสักวัน” เมื่อปี 2563มีโอกาสได้เข้าเฝ้าพระองค์ที่ดารัมชารา ได้กล่าวถึงโรคระบาดคือ โคโรนาไวรัส กำลังระบาดรุ่นแรงได้กระจายออกนอกประเทศจีนแล้ว พวกเราชาวพุทธควรจะร่วมกันสวดมนต์ไม่ให้แพร่ระบาดต่อไป ท่านได้ให้คำเสนอแนะว่า เรามีวิธีการสวดมนต์คล้ายๆ กัน แต่บทสวดมนต์อาจจะแตกต่างกันไม่เป็นไร สวดเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้อื่นเป็นโรคร้าย มีผู้คนส่วนมากส่วนมากในโลกขณะนี้กังวลและหวาดกลัวโรคระบาดนี้มาก ขอท่านทั้งหลายร่วมสวดมนต์เพื่อป้องกันโรคร้าย
พระพุทธศาสนาสอนให้มองเห็นศักยภาพของมนุษย์แต่มิติศาสนาอื่นจะเชื่อในพระเจ้า พระพุทธศาสนาจะต้องพิสูจน์ด้วยการปฏิบัติด้วยตนเอง ต้องปฏิบัติเท่านั้น แต่เราเคารพทุกศาสนาเพราะแต่ละศาสนามีดีอยู่แล้ว เราจึงต้องให้เกียรติทุกศาสนาจะนำไปสู่สันติสุข ปัจจุบันเราอายุ 84 ปี ยังต้องเรียนรู้ตลอดเวลา สิ่งที่เน้นมากคือ วิปัสสนากรรมฐาน สำคัญในทุกชีวิตทุกศาสนา ตะวันออกมีฐานของวิปัสสนากรรมฐาน ตะวันตกเพิ่งมาสนใจในด้านของสติ ธรรมะของพระพุทธเจ้าจะต้องปฏิบัติด้วยตนเองเท่านั้น มีการพัฒนาต่อยอดคำสอนให้เหมาะสมกับบริบทแต่ละประเทศ
กล่าวย้ำว่า ให้ทุกท่านฝึกปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานจะสามารถลดความโลภโกรธหลงสามารถจัดการความทุกข์ได้เป็นอย่างดี เน้นย้ำให้เคารพผู้อื่นแม้จะมีความคิดที่แตกต่างกัน ให้เกียรติทุกศาสนา รวมถึงเคารพในศาสนาเดียวกัน เราจึงต้องไม่โจมตีศาสนาและนิกายอื่นๆ ด้วยการมีเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ทุกรูปแบบด้วยการฝึกฝนตนเองเป็นสันติภายใน #ฝึกตนเองก่อนแล้วไปช่วยเหลือคนอื่น จึงต้องฝึกการลดอัตตาตัวตนของเราในเบื้องต้น การเข้าเฝ้าในครั้งนี้ พระองค์ทรงให้เกียรติคนไทยเป็นอย่างยิ่ง พอพระองค์มาถึงห้องประชุมเบื้องต้นคือถามหาคนไทย เสด็จมาทักทายพระสงฆ์ทุกรูป นับว่าเป็นบุญอันยิ่งใหญ่ในการมีโอกาสเข้าพบองค์ดาไลลามะในครั้งนี้..
Leave a Reply