วันที่ 22 มี.ค. 67 เวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุมแสนสุข 4 – 5 โรงแรมบางแสนเฮอริเทจ ตำบลแสนสุข อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดโครงการเชิดชูเกียรติสตรีภาคกลางที่มีผลงานดีเด่นเนื่องในงานสตรีสากล ประจำปี 2567 พร้อมมอบโล่ด้านการพัฒนาชุมชน และด้านผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม และกล่าวมอบแนวทางการขับเคลื่อนงานพัฒนาสตรีภาคกลาง โดยมี นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นางสาวประภัสรา ศรีทอง ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดชลบุรี นายอำนาจ เจริญศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นายสนธยา คุณปลื้ม ผู้เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นางสุกุมล คุณปลื้ม ประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรีภาคกลาง นายวิทยา คุณปลื้ม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ พัฒนาการอำเภอ คณะกรรมการพัฒนาสตรีภาคกลาง สมาชิกสตรีภาคกลาง 25 จังหวัด และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รวมกว่า 200 คน ร่วมในงาน
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติและดีใจอย่างยิ่งที่ได้มาพบกับพี่ ๆ น้อง ๆ ผู้เป็นผู้นำสตรีภาคกลางทั้ง 25 จังหวัด ผู้มีความสำคัญต่อชาติ ทั้งนี้ สังคมไทยเราดำรงคงอยู่ได้เพราะสุภาพสตรี เห็นได้จากบรรพบุรุษไทยเรายกย่องและให้ความสำคัญกับสตรี หรือ “แม่” เราเรียกแม่น้ำลำคลองว่า แม่คงคา เรียกดินว่า แม่ธรณี เรียกผู้นำกองทัพว่า แม่ทัพ สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญยิ่งของสตรี ซึ่งมีหน้าที่ทั้งดูแลครอบครัว ลูกหลาน ทำให้สถาบันครอบครัวมีความมั่นคง ช่วยทำงานหารายได้มาเจือจุนครอบครัว จึงขอให้พวกเราสตรีทุกคนจงภาคภูมิใจ และต้องไม่ลืมทำหน้าที่สำคัญ คือ การเป็นผู้นำของกลุ่มสตรี ด้วยหลักการทำงานที่เรียกว่า “ผู้นำต้องทำก่อน” เพราะสิ่งที่ดีจะเกิดขึ้นต้องเริ่มจากผู้นำ ดังนั้น ผู้นำหรือกรรมการพัฒนาสตรีทุกท่าน ต้องช่วยกันกลั่นกรองสมาชิกที่มีความรับผิดชอบในการทำโครงการให้เป็นไปตามงบประมาณและวัตถุประสงค์ ซึ่งจุดเริ่มต้นมาจากการที่ผู้นำของเรา คือ ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องเอาใจใส่ ติดตาม และสนับสนุนการดำเนินงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการดำเนินงานของสตรีภาคกลาง นำโดยท่านสุกุมล คุณปลื้ม ประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรีภาคกลาง ถือเป็นต้นแบบที่ดีให้กับกองทุนทุกจังหวัดในการถ่ายทอดขยายผลสู่พื้นที่ให้กับสมาชิกกองทุนทุกคน เพื่อยังผลประโยชน์และทำให้สมาชิกอยู่ร่วมกันอย่างเข้มแข็ง
“การดำรงชีวิตเรามีหลายมิติ เช่นเดียวกันกับกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี มีทั้งการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส การที่สมาชิกทุกคนนำเงินไปลงทุนเพื่อขยายโอกาส ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์ที่รัฐบาลมุ่งเน้นในการส่งเสริมให้พี่น้องประชาชนได้มีโอกาส สิ่งสำคัญ คือการนำเงินเหล่านั้นที่ได้จากการลงทุนหรือกำไรไปคืนเพื่อให้โอกาสกับสมาชิกคนอื่น ๆ ต่อไป อีกประการหนึ่ง คือ การน้อมนำเอาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาประยุกต์ใช้ในชีวิต เพื่อให้พี่น้องสมาชิกทุกคนสามารถพึ่งพาตนเองได้ สามารถลดรายจ่ายครัวเรือนด้วยการปลูกพืชผักสวนครัว ปลูกทุกอย่างที่กินและกินทุกอย่างที่ปลูก สร้างความมั่นคงทางอาหาร น้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ตามโครงการ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” และ “ทางนี้ผล ผู้คนรักกัน” ด้วยการใช้ทุกพื้นที่ว่างของบ้านหรือสำนักงานปลูกผักสวนครัว มีผักปลอดภัยไร้สารพิษไว้บริโภค เช่นเดียวกันกับการเลี้ยงสัตว์เพื่อนำไข่ไว้รับประทาน ซึ่ง พญ.พักตร์พิไล ทวีสิน ภริยานายกรัฐมนตรี ได้ให้คำแนะนำให้กลุ่มสตรีทุกคนได้รับประทานและส่งเสริมให้ลูกหลานได้รับประทานไข่ไก่ต้ม วันละ 2 ฟอง เพราะไข่มีสารอาหารที่ครบถ้วน สามารถซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ อีกทั้งยังมีประโยชน์มากมายต่อร่างกาย และที่สำคัญ คือ ทำให้มีชีวิตยืนยาว” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าว
Leave a Reply