วันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๖ เวลา ๐๙.๐๐ น. ณ วัดปากน้ำ ต.กุดลาด อ.เมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี พระศรีวิสุทธิมุนี รองเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ได้เป็นประธานจัดงานโครงการพลัง “บวร” จากหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ขยายผลสู่ “หมู่บ้านศีลธรรม” ในการขับเคลื่อนโครงการสร้างความปรองดอง สมานฉันท์โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา และทั้งสร้างความเข้มแข็งของชุมชนตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทย โดยมี พระมหาไพทูล ชุตินฺธโร เลขานุการรองเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี เจ้าอาวาสวัดบ้านบาก, พระครูโกศลธรรมประโชติ เจ้าคณะตำบลโพธิ์ไทรเขต ๑ เจ้าอาวาสวัดวารีอุดม พร้อมด้วยพระภิกษุสามเณรจำนวน ๙๙ รูป นายปรีดา อุ่นอุดม นายอำเภอเมืองอุบลราชธานี หัวหน้าส่วนราชการ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลกุดลาด กำนันตำบลกุดลาด ผู้ใหญ่บ้าน ส.อบต. อสม. ทุกหมู่ในเขตตำบลกุดลาด ร่วมในพิธี
พระศรีวิสุทธิมุนี กล่าวว่า โครงการ “พลังบวร” สู่การสร้างความเข้มแข็งของชุมชนตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทยนั้นถือว่าเป็นโครงการที่ดีมีประโยชน์อย่างมาก เพราะประเทศไทยมีความเป็นบึกแผ่นมาจนถึงทุกวันนี้ก็ด้วย “พลังบวร” คือการประสานสัมพันธ์กันระหว่างอาณาจักรกับพุทธศาสนจักรจึงทำให้บ้านเมืองผ่านพ้นวิกฤติการณ์ต่างมาได้ การที่กระทรวงมหาดไทยได้ขับเคลื่อนโครงการนี้โดยเน้นใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา “หมู่บ้านรักษาศีล ๕” ขยายผลสู่หมู่บ้านศีลธรรมอันนำไปสู่หมู่บ้านเข็มแข็งยั่งยืนได้นั้น หลักธรรมที่เป็นพื้นฐานเพื่อให้เกิดความยั่งยืนนั่นก็คือ ทาน ศีล ภาวนา ซึ่งเป็นหลักธรรมที่สำคัญอย่างยิ่ง เมื่อจะสรุปให้สั้นลงก็คือทานนั่นเอง เพราะทาน คือการให้ ไม่จะเป็นการให้วัตถุสิ่งของ ให้วิชาความรู้ การมีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ แลที่สำคัญคือการให้อภัย ให้โอกาสกัน ฉะนั้นเมื่อมีการให้ จึงเป็นผู้มีศีลเพราะไม่อาฆาตพยาบาท มีการให้จึงเกิดการภาวนาเพราะนึกถึงตนเองว่า เราเป็นอย่างไร คนอื่นก็เป็นเช่นนั้น เราไม่ชอบถูกแกคนอื่นก็เช่นกัน เป็นต้น ฉะนั้น ทานจึงเป็นบ่อเกิดของศีล และภาวนา
ขณะที่ นายปรีดา อุ่นอุดม นายอำเภอเมืองอุบลราชธานี กล่าวว่า จังหวัดอุบลราชธานี เป็นเมืองพระพุทธศาสนาซึ่งมีพระมหาเถระจำนวนมากที่เป็นชาวจังหวัดอุบลราชธานีได้ไปทำคุณประโยชน์เผยแผ่พระศาสนาในจังหวัดต่างๆจนมีชื่อเสียงก้องไประดับโลก ทั้งผู้เฒ่าผู้แก่สมัยก่อนมีความเชื่อกันว่าข้าวก้นบาตรมีความศักดิ์สิทธิ์ ใครได้รับประทานก็จะมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงขึ้น ทั้งกิจกรรมนี้ก่อให้เกิดความสามัคคีขึ้นชุมชนหมู่บ้าน
สำหรับวัดปากน้ำหรือ “วัดบุ่งสระพัง” เป็นวัดที่มีความสำคัญอีกวัดหนึ่งในจังหวัดอุบลราชธานีซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปโบราณสำคัญศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัดคือ หลวงพ่อเงิน ๗๐๐ ปีพระชัยหลังช้างหนึ่งเดียวในภาคอีสานซึ่งถูกค้นพบโดยการนิมิตของ พระมงคลธรรมวัฒน์ (บุญจันทร์ จตฺตสลฺโล) อดีตเจ้าคณะตำบลกุดลาด เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ, พระบรมสารีริกธาตุ พระอรหันตธาตุ ๙ แผ่นดิน และพระพุทธรูปโบราณสำคัญศักดิ์สิทธิ์อีกหลายองค์
นอกจากนั้นวัดปากน้ำ ซึ่งมีพระศรีวิสุทธิมนี รองเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ยังสืบสานปณิธาน “พระมงคลธรรมวัฒน์” ในการส่งเสริมการศึกษาของพระภิกษุสามเณรให้มีการศึกษา ตามปณิธานที่ว่า “ชุมชนใดไม่มีการศึกษา ชุมชนนั้นพัฒนายาก” ได้จัดให้มีการเรียนการสอนทั้งแผนกธรรม-แผนกบาลี และแผนกสามัญศึกษาในนาม “โรงเรียนมงคลธรรมวัฒน์วิทยา” สังกัดกองพุทธศาสนศึกษา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ปัจจุบันมีนักเรียนที่เป็นพระภิกษุสามเณรตั้งแต่ชั้นม.๑-ม.๖ จำนวน ๘๕ รูป บุคลากร ๑๐ รูป/คน มีพระศรีวิสุทธิมุนี เป็นผู้จัดการโรงเรียน พระครูโกศลธรรมประโชติ เป็นผู้รักษาการผู้อำนวยการโรงเรียน
Leave a Reply