เจ้าอาวาสวัดเล่งเน่ยยี่ เข้าพบ ปลัด มท. ขอช่วยแก้ปัญหาสิ่งกีดขวางสร้างซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา

วันนี้ (30 ส.ค. 67) เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมดำรงธรรม ชั้น 2 อาคารศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาโครงสร้างด้านสาธารณูปโภค (ประปา ไฟฟ้า เสาไฟฟ้า สายสื่อสาร ป้อมตำรวจ) ที่กีดขวางพื้นที่ก่อสร้างซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยได้รับเมตตาจาก พระคณาจารย์จีนธรรมวชิรานุวัตร (เย็นงี้) ปลัดขวาจีนนิกาย เจ้าอาวาสวัดมังกรกมลาวาส ร่วมประชุม โดยมี นายประสพโชค อยู่สำราญ ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย นายดุษฎี เจริญลาภ ผู้ตรวจราชการกรมโยธาธิการและผังเมือง นายเดชา วิริยะเจริญกิจ ผู้ช่วยผู้ว่าการ (บริการระบบจำหน่าย) การไฟฟ้านครหลวง นางสาวฉวีวรรณ อุทัยพิบูลย์ รองผู้ว่าการ (บริการด้านตะวันออก) การประปานครหลวง นายมนูศักดิ์ บินยะฟัล รองผู้อำนวยการสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร นายอนุชิต หวั่งหลี กรรมการผู้จัดการบริษัท ซี.อี.เอส. จำกัด และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมหารือ

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาโครงสร้างด้านสาธารณูปโภค (ประปา ไฟฟ้า เสาไฟฟ้า สายสื่อสาร ป้อมตำรวจ) ที่กีดขวางพื้นที่ก่อสร้างซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ของวัดมังกรกมลาวาส (วัดเล่งเน่ยยี่) ในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากที่ตนได้รับความกรุณาจาก พลอากาศเอก สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งท่านได้นำความตั้งใจของทางวัดมังกรกมลาวาส ร่วมกับสหพันธ์สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ในการดำเนินโครงการจัดสร้างซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา ประดิษฐาน ณ บริเวณถนนเจริญกรุง จำนวน 2 จุด ได้แก่ บริเวณสะพานดำรงสถิต และบริเวณแยกหมอมี เพื่อเป็นสัญลักษณ์แสดงความกตัญญูกตเวทิตาต่อสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชแห่งพระบรมราชวงศ์จักรี เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

“การจัดสร้างซุ้มประตูมังกร ในความเชื่อของคนจีนนั้น เชื่อว่า ปี พ.ศ. 2567 คือ “ปีมังกร” เป็นสัญลักษณ์อันเป็นศิริมงคลของจีน กระทรวงมหาดไทยจึงร่วมกับวัดมังกรกมลาวาส (วัดเล่งเน่ยยี่) และคุณหญิงณัฐิกา วัธนเวคิน อังอุบลกุล ประธานสหพันธ์สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ และภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ดำเนินโครงการก่อสร้างซุ้มประตู เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ซึ่งนอกจากจะเป็นการแสดงความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้ว ยังเป็นสัญลักษณ์ในการเชื่อมความสัมพันธ์ของคนไทยเชื้อสายจีน อีกทั้งยังต่อยอดส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว ซึ่งสามารถเป็น Landmark จุดเช็คอินแห่งใหม่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้อีกด้วย” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในช่วงต้น

นายสุทธิพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของการวางแผนเคลื่อนย้ายโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานนั้น กระทรวงมหาดไทย โดยกรมโยธาธิการและผังเมือง การไฟฟ้านครหลวง และการประปานครหลวง อยู่ระหว่างการเร่งรัดหน่วยที่เกี่ยวข้อง ซึ่งขณะนี้ยังติดอุปสรรค อาทิ ในเรื่องการเคลื่อนย้ายท่อส่งน้ำประปา ซุ้มประตูจุดที่ 1 บริเวณสะพานดำรงสถิต และเรื่องการเคลื่อนย้ายเสาไฟฟ้า ไฟส่องสว่าง และกล้อง CCTV รวมทั้งสายสื่อสาร ของซุ้มประตูจุดที่ 2 บริเวณแยกหมอมี ซึ่งต้องประสานบูรณาการร่วมกับกรุงเทพมหานคร และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในการดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำให้ทาง บริษัท ซี.อี.เอส. จำกัด ดำเนินการตกแต่งปรับปรุงภูมิทัศน์โดยคำนึงถึงความสวยงาม เหมาะสม กลมกลืน กับพื้นที่ ซึ่งทางกระทรวงมหาดไทยจะประสานและดำเนินการแก้ไขปรับปรุงทั้งหมดให้แล้วเสร็จภายในต้นเดือนกันยายนนี้ ก่อนที่ทางทีมก่อสร้างจะเริ่มดำเนินการ เพื่อให้การก่อสร้างเป็นไปตามแผนที่วางไว้

พระคณาจารย์จีนธรรมวชิรานุวัตร (เย็นงี้) เจ้าอาวาสวัดมังกรกมลาวาส กล่าวว่า เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2562 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรเยาวราช อีกทั้งได้เสด็จไปซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา (วงเวียนโอเดียน) ซึ่งในปัจจุบันเยาวราชนับเป็น Landmark จุดสำคัญของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ด้วยทรงมีพระราชปณิธานในการดูแลอาณาประชาราษฎรทุกเชื้อชาติ รวมถึงประชาชนคนไทยเชื้อสายจีนให้มีความสุขใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร ซึ่งพระองค์ท่านทรงมีพระราชปรารภกับอาตมาว่า “ทรงปรารถนาให้วัดมังกรกมลาวาส (วัดเล่งเน่ยยี่) เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยเชื้อสายจีน” ซึ่งยังคงตราตรึงอยู่ในใจของอาตมาเสมอมา เพราะสถาบันกษัตริย์นับเป็นหนึ่งในสถาบันสำคัญของชาติ ประกอบด้วย ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ อันก่อให้เกิดการหลอมรวมดวงใจของคนไทยทุกคนยังผลทำให้ชาติไทยดำรงคงอยู่รอดจนถึงทุกวันนี้

“ในปี 2567 นี้ นับเป็นปีมหามงคล เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 วัดมังกรกมลาวาส (วัดเล่งเน่ยยี่) จึงได้นำแนวคิดต้นแบบจาก ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา (วงเวียนโอเดียน) มาดำเนินโครงการเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา จำนวน 2 ซุ้มประตู โดยคำนึงจากหลักฮวงจุ้ยของพื้นที่ ซ้ายเป็นมังกร ขวาเป็นเสือขาว มีวัดเล่งเน่ยยี่เป็นศูนย์กลาง ดังนั้นในปีนี้ตรงกับปีมะโรงหรือปี “มังกร” และในโอกาสสำคัญ ทางสมาคมและองค์กรจีนต่างๆ ได้มีการพูดคุยหารือกัน โดยมี คุณหญิงณัฐิกา วัธนเวคิน อังอุบลกุล ประธานสหพันธ์สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ ริเริ่มผลักดันแนวคิดนี้ร่วมกับอาตมาจนเป็นรูปเป็นร่าง ซึ่งในการดำเนินโครงการก่อสร้างซุ้มประตูนี้ได้ผ่านการเห็นชอบแล้ว แต่ยังมีอุปสรรคเรื่องการดำเนินการด้านโครงสร้างสาธารณูปโภค โดยที่ผ่านมาทั้งภาครัฐและภาคเอกชน โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย ได้ขับเคลื่อนยกร่างโครงการ มีเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมฺมธโช) หรือ “เจ้าประคุณสมเด็จธงชัย” เมตตาให้คำแนะนำในการดำเนินการ ดังนั้น ต้องอาศัยความร่วมมือของพวกเราผู้มีส่วนร่วมทุกฝ่ายในการผลักดันขับเคลื่อนเดินหน้าให้เกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม” พระคณาจารย์จีนธรรมวชิรานุวัตร กล่าว

พระคณาจารย์จีนธรรมวชิรานุวัตร ยังได้กล่าวสัมโมทนียกถาในช่วงท้าย ความว่า ขอเจริญพรท่านสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย คณะทุกภาคส่วนที่มาประชุมร่วมกันในวันนี้ ทำให้เห็นทิศทางการดำเนินโครงการที่เป็นไปได้ด้วยดี เพราะโครงการนี้เป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมทั้งเป็นโครงการพระราชดำริด้านการพัฒนาพื้นที่ ซึ่งต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ตามหลัก “บวร” บ้าน วัด ราชการ ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ได้รับการสืบสาน รักษา และต่อยอด โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงขออนุโมทนาทุกท่านที่เสียสละเวลามาทำให้เกิดสิ่งสำคัญอันเป็นสัญลักษณ์ของเยาวราช ด้วยความมุ่งมั่นให้แล้วเสร็จภายในเดือนมกราคม 2568 เพื่อต้อนรับวันตรุษจีน ที่ตรงกับวันที่ 29 มกราคม 2568 นับเป็นฤกษ์อันเป็นมงคลที่จะได้ทำพิธีเปิดซุ้มประตูทั้ง 2 ซึ่งในอนาคตจะยังสามารถต่อยอดไปสู่ Landmark สำคัญ เป็น Street Food เฉกเช่นถนนเยาวราช อันจะยังผลให้เกิดการเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นกระบวนงานหนึ่งที่สำคัญ ที่จะหนุนเสริมทำให้ “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข” ตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่างยั่งยืน

Leave a Reply