วันที่ 17 พฤษภาคม 2568 หลายวันนี้มานี้มีข่าวลือในมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาถึงปรากฎการณ์พระพุทธศาสนาในประเทศจีนหลังจากพระเถระใหญ่มีกำหนดการเดินทางจะมาเยือนมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย แต่กำหนดการถูกระงับไปโดยกระทันหัน ซ้ำพระสงฆ์จากประเทศไทยจะเข้าไปเยือนประเทศจีนก็ถูกห้ามด้วยเช่นกัน

เรื่องนี้ พระมหานรินทร์ นรินฺโท ป.ธ. 9 เจ้าอาวาสวัดไทยลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา ตั้งข้อสงสัยว่าอาจเกิดจากคณะสงฆ์จีน เดินทางไปเยือนนครรัฐวาติกัน ก็เป็นได้ โดยได้ เปิดภาพปริศนา ที่มาของคำสั่ง “คว่ำการประชุมพระธรรมทูตไทยในจีน”

หลังจากที่ได้นำเสนอข่าวสารการพระศาสนา ว่าด้วยการประชุมสหภาพพระธรรมทูตไทยในเอเชียตะวันออก (UTEA) ซึ่งกำหนดจะจัดขึ้น ณ วัดเหมอัศวาราม เมืองลั่วหยาง มณฑลเหอหนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ในระหว่างวันที่ 15-19 พฤษภาคม ศกนี้ โดยมีกำหนดการประชุมและฉลอง 50 ปี ความสัมพันธ์ไทย-จีน มีการเชิญแขกผู้ใหญ่ในทางคณะสงฆ์และบ้านเมืองไปเป็นเกียรติแก่งาน และมีพระธรรมทูตจากทั่วโลกได้รับนิมนต์ไปร่วมประชุมด้วยนั้น

ปรากฏว่า ในตอนเย็นวันที่ 13 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ทางรัฐบาลจีนได้มีคำสั่ง “ห้ามการประชุมครั้งนี้ออกไปโดยไม่มีกำหนด” และห้ามมิให้แขกที่ได้รับเชิญมาร่วมงานนี้ “เข้าไปในเขตมณฑลเหอหนาน” โดยเด็ดขาด ส่งผลให้แขกเหรื่อมากมายตั้งค้างเติ่งอยู่ที่กรุงปักกิ่ง บางส่วนเลี่ยงไปเที่ยวชมเมืองในมณฑลอื่น เพราะไหนๆ ก็มาแล้ว เพื่อมิให้เสียเที่ยว ส่วนที่มีเวลาจำกัดก็ต้องรีบกลับ เพราะอยู่นานก็ไม่ได้อะไร ท่านที่กำลังจะบินเข้าปักกิ่งก็ต้องยกเลิกการเดินทางกะทันหัน เป็นเรื่องฉุกละหุกที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพราะถ้ารู้ล่วงหน้าซัก 5-6 วัน ก็คงเปลี่ยนทัน แต่นี่ก็ถึงวันสุกดิบแล้ว คำสั่งเพิ่งจะออกมาตอนเย็น พรุ่งนี้เช้าก็จะเริ่มประชุมแล้ว เป็นอะไรที่เรียกว่า สภาล่ม

สืบข่าวจากหลายกระแส ทราบมาว่า สาเหตุที่รัฐบาลจีน “สั่งระงับ” การประชุมของคณะสงฆ์ไทย (ซึ่งมาจากทั่วโลก) ในครั้งนี้ และมีกระแสข่าวการ “สั่งปลด” เจ้าอาวาสวัดเส้าหลิน ออกจากทุกตำแหน่ง ในเวลาพร้อมๆ กัน เหมือนนัดกันไว้นั้น ก็มาจากสาเหตุว่า

เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2567 ท่านซื่อ หย่ง ซิน เจ้าอาวาสวัดเส้าหลิน พร้อมคณะ ได้เดินทางไปเยือนนครรัฐวาติกัน ศูนย์กลางของคริสต์จักรโรมันคาทอลิก และได้เข้าเยี่ยมคำนับโป๊ปฟรานซิสอีกด้วย

ซึ่งสมเด็จพระสันตปาปาฟรานซิสนั้น ท่านได้แสดงท่าทีเกี่ยวกับปัญหามุสลิมอุยกูร์ ในแคว้นซินเจียงของจีน ไปในทางว่ารัฐบาลจีนได้ข่มเหงชาวอุยกูร์ ซึ่งรัฐบาลจีนก็ได้ออกมาตอบโต้อย่างรุนแรงเช่นกัน

แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับว่า รัฐบาลจีนมองว่า การที่นักบวชในพุทธศาสนาไปพบปะกับนักบวชในคริสต์ศาสนา ซึ่งมีทัศนะเป็นลบต่อนโยบายของรัฐบาลจีน จึงเกรงว่าจะเป็นการจุดกระแสต่อต้านรัฐบาลจีนเข้าไปภายในประเทศ ทั้งพุทธและคริสต์จึงถูกจับตามองเป็นพิเศษ

และแล้วก็มาถึงการประชุมของพระธรรมทูตไทยในครั้งนี้ ซึ่งมีการจัดอย่างที่ต้องเรียกว่า “ยิ่งใหญ่” รวมงานสำคัญๆ ไว้ถึง 4 พิธี เรียกว่า 4 IN 1 ที่สำคัญก็คือ มีพระธรรมทูตจากยุโรปและอเมริกามาร่วมงานด้วย

แรกนั้น รัฐบาลจีนขอดูเอกสารการประชุม แม้กระทั่งคำปราศัยของแต่ละท่าน ว่าจะพูดอะไร เป็นการแสกนในขั้นต้น แต่จนแล้วจนรอด งานครั้งนี้ก็ถูกสั่งยกเลิกจนได้

ขณะเดียวกัน ก็มีข่าวว่า ท่านซื่อ หย่ง ซิน เจ้าอาวาสวัดเส้าหลิน ถูกสั่งปลดจากทุกตำแหน่งที่ท่านดำรงอยู่ ได้แก่
1. เจ้าอาวาสวัดเส้าหลิน
2. รองประธานพุทธสมาคมจีน (ทั้งประเทศ)
3. ประธานพุทธสมาคมมณฑลเหอหนาน

ก็คงมีสาเหตุมาจากการไปพบกับโป๊ปฟรานซิสผู้ล่วงลับนั่นเอง  แต่ถามว่า วัดเหมอัศวาราม เกี่ยวอะไรกับวัดเส้าหลิน คำตอบก็คือ วัดเหมอัศยาราม ตั้งอยู่ในบริเวณวัดม้าขาว ซึ่งเป็นวัดในสังกัดของวัดเส้าหลิน เมื่อวัดแม่คือเส้าหลินโดนคำสั่ง วัดลูกและหลาน ก็ย่อมจะต้องถูกคำสั่งให้อยู่ในระบบเดียวกันด้วย
น่าเห็นใจก็คือเจ้าภาพ ที่ลงทุนเตรียมการเตรียมงานไปมหาศาล แต่สุดท้ายไม่ได้อะไรเลย ใครเจอเหตุการณ์แบบนี้ก็เหมือนล้มละลาย

และนี่คือภาพที่มาของเหตุการณ์ประชุมล่มในวันนี้