วันที่ 6 สิงหาคม 2568 พระเมธีวัชรบัณฑิต หรือ “เจ้าคุณหรรษา” ผู้ช่วยเลขาธิการสภาสากลวันวิสาขบูชาโลก โพสต์เชิงคำถามว่า  ภายใต้ Brand สภาสากลวันวิสาขบูชาโลก โดยพระเมธีวัชรบัณฑิต ได้อธิบายให้เหตุผลไว้ 7 ประการดังนี้

1: วิสาขบูชาวันสำคัญสากลของสหประชาชาติ United Nations Day of Vesak ตั้งแต่องค์การสหประชาติได้ให้การรับรอง ในปี 2542 ว่า วันวิสาขบูชาเป็นวันสำคัญสากลของสหประชาชาติ หรือ United Nations Day of Vesak วันวิสาขบูชาจึงมิได้สำคัญต่อชาวพุทธอย่างเดียวเท่านั้น หากแต่เป็นวันสำคัญสากลของโลกซึ่งปรากฎในปีปฏิทินวันหยุดของยูเอ็นว่าจะต้องปิดสำนักงานใหญ่ และสำนักงานตามภูมิภาค ทั้งไทย และสวิสเซอร์แลนด์ เป็นต้น เพื่อให้ชาวโลกได้มีพิธีเฉลิมฉลองอย่างเป็นทางการในฐานะที่พระพุทธเจ้าได้นำเสนอหลักการที่เป็นภูมิปัญญาของโลก เพื่อชาวโลก

2: ประเทศไทยปักธงนำเป็นศูนย์กลางพุทธโลกตั้งสภาสากลวันวิสาขบูชาโลกพาชาวพุทธเฉลิมฉลองปี 2552 ชาวพุทธนานาชาติ นำโดยพระพรหมบัณฑิต ได้จัดตั้งสภาสากลวันวิสาขบูชาโลก เพื่อรองรับการจัดพิธีเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชาโลก ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นองค์กรพุทธที่มีกรรมการนานาชาติจากหลากหลายประเทศ ทำหน้าที่เป็นแกนหลักในการจัดพิธีเฉลิมวันวิสาขบูชาโลกมาทั้งสิ้น 20 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2548

3: ที่ปรึกษาพิเศษสหประชาชาติสนับสนุนสภาสากลวันวิสาขบูชาโลกทำพันธกิจ ปี 2556 คณะมนตรีเศรษฐกิจ และสังคมแห่งสหประชาชาติ (Economic and Social Council: ECOSOC) ได้ให้การรับรองสภาสากลวันวิสาขบูชาโลก (International Council for the Day of Vesak:ICDC) เป็นที่ปรึกษาพิเศษขององค์กรสหประชาติ (Consultative Status) โดยมีพันธกิจหลัก 4 ด้าน คือ การพัฒนาที่ยั่งยืน ภาวะโลกร้อน การศึกษา และการสร้างสันติภาพ

4: รัฐบาลและคณะสงฆ์ประเทศต่างๆใช้วันวิสาขบูชาโลกนำเสนอภาพลักษณ์ประเทศ ปฏิเสธมิได้ว่า ตั้งแต่ยุคแรกที่องค์การสหประชาชาติให้การรับรองวันวิสาขบูชาเป็นวันสำคัญสากลของสหประชาชาตินั้น รัฐบาลและคณะสงฆ์ไทยเห็นโอกาสดังกล่าว จึงเริ่มต้นด้วยการพาคณะไปจัดพิธีเฉลิมฉลองอย่างเป็นทางการที่องค์การสหประชาชาติ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา หลังจากนั้น ก็จัดต่อเนื่องเรื่อยมา โดยมีศรีลังกา และเวียดนามเข้ามาใช้ Platform ของวันวิสาขบูชาโลก เปิดตัวประเทศเวียดนามอย่างยิ่งใหญ่ ทั้งด้านการท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรม สร้างภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือให้แก่ชาวพุทธทั่วโลก

5: ถึงเวลารัฐบาลและคณะสงฆ์จีนใช้เวทีวันวิสาขบูชาโลกเปิดประตู ต้อนรับชาวพุทธทั่วโลก รัฐบาลและคณะสงฆ์จีนมีบทบาทสำคัญในการจัดงาน World Buddhist Summit โดยตลอดเวลา 20 ปีนั้น ก็เดินมาร่วมพิธีฉลองวิสาขบูชาโลกที่เมืองไทยและประเทศต่างๆ ถึงกระนั้นก็พาทีมงานมาศึกษาเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ในที่สุดก็ได้ใช้เวลา 3 ปีเต็มกว่าจะเปิดตัวว่าพร้อมจัดพิธีเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชาโลก

ทั้งนี้ รัฐบาลและคณะสงฆ์จีนมีความพร้อมอย่างเต็มเปี่ยม ทั้งประสบการณ์ องค์ความรู้ ศักยภาพ ทุน บุคลากร เทคโนโลยี และปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ ที่พร้อมเข้ามาสนับสนุนการจัดพิธีเฉลิมฉลอง และการจัดประชุมสัมมนานานาชาติ ครั้งที่ 21 ในปี 2569 นี้

6:Brand สภาสากลวันวิสาขบูชาโลกกับภาพลักษณ์ที่สร้างมากว่า 20 ปีบนเวทีชาวพุทธนานาชาติทั่วโลก การจัดพิธีเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชาโลก ผนวกกับการประชุมวิชาการระดับโลกนี้ กระดูกสันหลัง (Backbone) ที่ทำหน้าที่อยู่เบื้องหลังการขับเคลื่อนทั้งหมดคือ สภาสากลวันวิสาขบูชาโลก โดยมีพระพรหมบัณฑิต กรรมการมหาเถรสมาคม เป็นประธานกรรมการบริหาร และมีพระพรหมวัชรธีราจารย์ อธิการบดี มจร เป็นเลขาธิการ รวมถึงมีกรรมการนานาชาติร่วม 15 รูปคนเป็นกรรมการบริหาร  กรรมการบริหารสภาสากลวันวิสาขบูชาโลก จะมีบทบาทสำคัญในการเลือกประเทศเจ้าภาพแต่ละปี การเข้าร่วมกำหนดวัน ประเด็นการจัดงาน สถานที่ กำหนดองค์ปาฐกถา นักวิชาการ รวมถึงผู้นำทางศาสนาและการเมืองเพื่อมาร่วมกิจกรรมในละปี คณะกรรมการนานาชาติจะทำงานร่วมกับคณะกรรมการระดับชาติของแต่ละประเทศเพื่อจับมือกันจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองและการจัดสัมมนานานาชาติร่วมกัน

7: ประเทศอินเดียส่งสัญญาณจัดวิสาขบูชาโลกแต่ก็ขึ้นกับคณะกรรมการบริหารให้ความเห็นชอบสองเดือนที่แล้ว เลขานุการของท่านทูตอินเดียประจำประเทศไทยสนใจการจัดพิธีเฉลิมฉลอง และการประชุมสัมมนานานาชาติ ได้ประสานข้อมูลเชิงลึก ด้วยมุ่งจะนำชาวพุทธกลับไปเฉลิมฉลอง ณ แดนพุทธภูมิ เปิดงานที่พุทธคยา และปิดงานที่ลุมพินีร่วมกับประเทศเนปาล ท่าทีเหล่านี้ เป็นการส่งสัญญาณเชิงบวก แต่ก็ยังต้องมีกระบวนการอีกหลายขั้นตอน ทั้งนี้ก็ขึ้นกับความตั้งใจของชาวพุทธอินเดียว่าจะดำเนินการต่ออย่างไร

วิสาขบูชาโลก ที่มักจะเฉลิมฉลองจำเพาะในระดับพื้นที่ หรือระดับชาติ ได้รับการขยายคุณค่าและความสำคัญสู่องค์การสหประชาชาติ จนทำให้มีการตั้งองค์กรขึ้นมารองรับ แล้วส่งผลเชิงบวกต่อองค์กรชาวพุทธรวมถึงรัฐบาลประเทศต่างๆ นั้นนับเป็นพุทธานุภาพที่ยิ่งใหญ่ ให้ชาวโลกหันมาใส่ใจพุทธปัญญาของโลก แล้วขยายผลสู่การปฏิบัติในชุมชน และสังคมโลก เพื่อให้เกิดการตระหนักรู้ในการนำพุทธปัญญาลงสู่การปฏิบัติในวิถีชีวิต เพื่อเข้าถึงลมหายใจของหลักคำสอน และสร้างความยั่งยืนผาสุกตลอดไป