จับตา! วาระการประชุม “ครม.” พรุ่งนี้ ชงชื่อ ผอ.พศ.คนใหม่ แหล่งข่าวเผยเน้นคนมีความรู้ “ด้านการเงิน–บัญชี-งานคณะสงฆ์”

วันที่ 18 สิงหาคม 2568 มีรายงานว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีพรุ่งนี้ จะมีการพิจารณารายชื่อผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติคนใหม่แทน นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ คนปัจจุบัน ที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน 2568 นี้

“แหล่งข่าว” จากทำเนียบรัฐบาล เผยว่า ตอนนี้มีรายชื่อผู้ที่เหมาะสมจะมาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติคนใหม่แล้ว โดยเน้นพิจารณาบุคลากรที่มีความรู้ด้านการเงินและบัญชี ควบคู่กับประสบการณ์การบริหารงานราชการระดับสูง เพื่อรองรับโจทย์ใหญ่ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยเฉพาะการจัดการศาสนสมบัติที่มีมูลนับแสนล้านบาท ทั้งศาสนสมบัติกลาง ศาสนสมบัติวัด หรือ ศาสนสมบัติประเภทอื่น ๆ ซึ่งที่ต้องอาศัยบุคคลที่มีความรู้ ความเข้าใจด้านกฎหมายและกฎระเบียบ รวมทั้งพระธรรมวินัย จารีตประเพณีของคณะสงฆ์ ตลอดจนมีความสามารถในการประสานงานกับคณะสงฆ์อย่างอย่างราบรื่น ไม่ตึงหรือหย่อนจนเกินไป

สาเหตุสำคัญที่ต้องทาบบุคคลภายนอกมา เนื่องด้วยข้อจำกัดตามหลักเกณฑ์การแต่งตั้งในระดับซี 11 ตามโครงสร้างใหม่ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ปัจจุบันรองผู้อำนวยการหลายท่านมีความรู้ ความสามารถ และทำงานร่วมกับคณะสงฆ์ได้อย่างมีคุณภาพและราบรื่น แต่ดำรงตำแหน่งระดับแค่ซี 9 จึงยังไม่สามารถก้าวขึ้นมารับตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้ หน่วยงานที่รับผิดชอบในการเสนอชื่อผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จึงได้ทาบทามบุคคลภายนอก โดยพิจารณาบุคลากรในระดับรองปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า ซึ่งมีความอาวุโสและประสบการณ์เพียงพอ และมีความเข้าใจในบริบทของพระพุทธศาสนาเป็นอย่างดี

“การทาบทามผู้บริหารจากภายนอกเข้ามาถือเป็นจังหวะสำคัญที่ทำให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้โอกาสเพิ่มเติมมุมมองใหม่ เสริมภาพลักษณ์ความเป็นกลาง และสร้างความเชื่อมั่นต่อการบริหารจัดการศาสนสมบัติและงบประมาณอย่างโปร่งใส ขณะเดียวกันก็ช่วยให้การประสานงานกับหน่วยงานรัฐและมหาเถรสมาคมเป็นไปอย่างสมดุล รู้กฎระเบียบราชการ แต่ก็เข้าใจวิถีสงฆ์ สามารถออกแบบนโยบายที่มุ่งเน้นการพัฒนาและนำไปปฏิบัติได้จริง..”

“แหล่งข่าว” คนเดิมกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “ตอนนี้แม้จะมีเสียงสนับสนุนจากบางกลุ่ม บางฝ่ายให้ทาบทามบุคลากรจากสายงานด้านความมั่นคง หรือหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายเข้ามารับตำแหน่ง โดยมองว่าน่าจะช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในวงการพระพุทธศาสนาได้อย่างเด็ดขาด แต่แนวทางดังกล่าวก็มีข้อกังวลว่าอาจขาดความละมุนละม่อมและนำไปสู่การบริหารจัดการที่เข้มงวดเกินไป ส่งผลต่อบรรยากาศความร่วมมือระหว่างรัฐกับคณะสงฆ์ ดังนั้น การเลือกผู้บริหารที่มีพื้นฐานด้านการเงินและการจัดการองค์กร จึงถูกมองว่าเป็นทางเลือกที่สมดุลกว่าในการขับเคลื่อนภารกิจสำคัญของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ..”

สำหรับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ยังมีภารกิจที่ท้าทายอีกหลายด้านในห้วงเวลานี้ ไม่ว่าจะเป็นการจัดระเบียบและพัฒนาการศึกษาของคณะสงฆ์ การยกระดับระบบบริหารจัดการด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล การจัดทำฐานข้อมูลพระสงฆ์ การเสริมสร้างความโปร่งใสในการใช้งบประมาณ ตลอดจนการสนองงานมหาเถรสมาคมตามภารกิจ 6 ด้าน รวมทั้งโครงการอื่น ๆ และรวมทั้งดูแลกิจการพระพุทธศาสนาภาพซึ่งล้วนต้องอาศัยผู้นำองค์กรที่มีความรอบรู้ รอบคอบ และสามารถขับเคลื่อนได้อย่างมั่นคง แหล่งข่าวกล่าวทิ้งท้าย..

Leave a Reply