วันที่ 18พฤศจิกายน 2568 วานนี้เวลา 09.00 น. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดงานวันครอบครัวอำเภอพิบูลมังสาหาร ณ ลานพระปรมาภิไธย แก่งสะพือ อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี โดยมี รศ.วรวรรณ โรจนไพบูลย์ อาจารย์คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง ผศ. พิเชฐ โสวิทยสกุล อดีตคณบดีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง และคณะ รวมไปถึงนางนวลจันทร์ ศรีมงคล ผู้ตรวจราชการกรม ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนอุบลราชธานี นายสรชาย ครองยุทธ นายอำเภอพิบูลมังสาหาร ดร.ศิริมาเมธ์วดี ศิรธนิตรา นายกเทศมนตรีเมืองพิบูลมังสาหาร คณะผู้บริหารเทศบาล สมาชิกสภาเทศบาล หัวหน้าส่วนราชการ นักเรียน นักศึกษา ภาคีเครือข่าย และพี่น้องประชาชนเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียงกัน

ในส่วนของสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุบลราชธานี นางกนกอร โพธิ์สิงห์ พัฒนาการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วย นางสาวรัชนี จันทสิงห์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชน นายภคิน ศรีวงศ์ พัฒนาการอำเภอพิบูลมังสาหาร พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอพิบูลมังสาหาร ได้เข้าร่วมงานและสนับสนุนการดำเนินงานและร่วมจัดทรรศการเฉลิมพระเกียรติและนิทรรศการ “วันครอบครัวเมืองพิบูล” ที่ถ่ายทอดเรื่องราวแห่งความทรงจำ ความจงรักภักดี และความผูกพันระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์กับประชาชนชาวพิบูลมังสาหาร รวมถึงพระราชกรณียกิจ และพระอัจริยภาพ ซึ่งสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอพิบูลมังสาหาร ได้จัดนิทรรศการกองทุนแม่ของแผ่นดิน และผ้าไทยใส่ใฟ้สนุก ท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่นและเปี่ยมด้วยความภาคภูมิใจ

สำหรับกิจกรรมภายในงานฯ ประกอบด้วย 1)พิธีมอบประกาศเกียรติคุณครอบครัวตัวอย่างของทั้ง 17 ชุมชน เพื่อเชิดชูครอบครัวที่เป็นต้นแบบด้านความเข้มแข็งและการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข 2)พิธีมอบประกาศเกียรติคุณคนดีศรีพิบูล และภาคีเครือข่ายยอดเยี่ยม เพื่อยกย่องผู้ทำคุณประโยชน์แก่สังคม 3)ร่วมลงนามแสดงความอาลัยเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เยี่ยมชมนิทรรศการจากหน่วยงานต่าง ๆ เช่น เทศบาลเมืองพิบูลมังสาหาร โรงเรียนในสังกัด และชุมชนต่าง ๆ ในเขตเทศบาลเมืองพิบูลมังสาหาร สำนักงานสาธารณสุขอำเภอพิบูลมังสาหาร สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอพิบูลมังสาหาร ร่วมกับ คณะกรรมการพัฒนาสตรีพิบูลมังสาหาร ได้นำเสนอนิทรรศการ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” และทีมวิทยากรกองทุนแม่ของแผ่นดิน (ครู ค.) อำเภอพิบูลมังสาหาร นำเสนอการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดโดยกองทุนแม่ของแผ่นดิน รวมถึงสาธิตอาชีพและกิจกรรมของเด็กและเยาวชนอีกด้วย 5)การจำหน่ายสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ชุมชน จากตลาดเกษตรสีเขียวและผลิตภัณฑ์ OTOP อำเภอพิบูลมังสาหาร และพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อสร้างรายได้และกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก
จากนั้น อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะ ได้เดินทางไปเยี่ยมชม ศูนย์การเรียนรู้โคกหนองนา หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 บ้านโนนโพธิ์ หมู่ที่ 5 ตำบลอ่างศิลา อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี ของนางมาลัย สีแสด เนื้อที่ 3 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นแบบและเป็นศูนย์อารยเกษตรเพื่อการเรียนรู้อย่างยั่งยืน โดย นางกนกอร โพธิ์สิงห์ พัฒนาการจังหวัดอุบลราชธานี ได้กล่าวถึงภารกิจสำคัญของกรมการพัฒนาชุมชน ได้แก่ ประชาสัมพันธ์และการรับลงทะเบียนโครงการคนละครึ่งพลัส การขับเคลื่อนงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี การส่งเสริมการเรียนรู้และสร้างรายได้ตามหลัก โคกหนองนา ร่วมกับหน่วยงานและภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง นอกจากนั้น ยังมีการนำผลผลิตทางการเกษตรจากเครือข่ายโคกหนองนาในพื้นที่ตำบลอ่างศิลา มาจำหน่าย หรือตลาดสีเขียว ซึ่งเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัสด้วย

ต่อจากนั้นได้เดินทางไปยังศูนย์ผู้นำจิตอาสาพัฒนาชุมชน หรือศูนย์การเรียนรู้ “เฮือนฮ่วมแฮง” หมู่ที่ 2 ตำบลหนองบัวฮี อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งมีจุดเด่นในการเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร การปลูกผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร เส้นทางนี้มีผลผู้คนรักกัน การเพาะเลี้ยงสัตว์ และแบ่งปันเมล็ดพันธุ์ ในพื้นที่ต้นแบบโคกหนองนา โดยมีนายอัมพร วาภพ ผู้นำอาสาพัฒนาบ้านเกิดระดับจังหวัด และผู้จัดการศูนย์เรียนรู้ฯ ตลอดจนคณะทำงาน และภาคีเครือข่าย ร่วมให้การต้อนและรับประทานอาหารพื้นถิ่น ก่อนลงพื้นที่ศูนย์เรียนรู้ฯ เพื่อชมพื้นที่แปลง ที่ได้ยึดหลักหลักสิกรรมธรรมชาติในการดำเนินงาน เช่น สระน้ำ คันนาทองคำ แปลงผักสวนครัว และไม้ 5 ระดับ ซึ่งเป็นรูปธรรมเพื่อพึ่งตนเองตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งนายภคิน ศรีวงศ์ พัฒนาการอำเภอพิบูลมังสาหาร ได้เปิดเผยถึงการลงพื้นที่ครั้งนี้ ได้สะท้อนถึงความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคประชาชน และภาคีเครือข่ายในการร่วมกันพัฒนาคุณภาพชีวิต สร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนอย่างยั่งยืน ตามแนวทางของกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ได้อย่างแท้จริง



Leave a Reply