จากกุสินาราถึงไทย “พระณพลเดช” ชี้สายสัมพันธ์พุทธภูมิเริ่มต้นสมัย ร.5 ร.9 สืบสาน และรัชกาลปัจจุบันทรงต่อยอด

“พระณพลเดช” เผยขณะสังการะสังเวชนียสถานที่กุสินารา ระบุรัชกาลที่ 9 ทรงมีพระราชกรณียกิจสำคัญต่อวัดไทยกุสินารา ตั้งแต่การออกแบบพระมหาเจดีย์จนถึงการรับคลินิกกุสินาราไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์

เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2568 พระดร.ณพลเดช มณีลังกา อดีตอนุกรรมาธิการด้านพระพุทธศาสนา สภาผู้แทนราษฎร และอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เผยแพร่ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า จากที่ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ได้รับฉายา “ญาณวีรโพธิ” วันนี้ที่เมืองกุสินารา ประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นสถานที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าดับขันธปรินิพพาน ตรงกับในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือนอ้าย 5 ธ.ค. 2568 ซึ่งตรงกับวันพ่อแห่งชาติและวันชาติไทย

จากความประทับใจเมื่อทราบถึงพระราชกรณียกิจของพระมหากษัตริย์ไทยหลายรัชกาลที่สนับสนุนพระพุทธศาสนาในดินแดนพุทธภูมิ โดยเริ่มตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ซึ่งทรงสนับสนุนการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากอินเดียกลับไทย เป็นชุดเดียวกับชุดที่ประดิษฐานอยู่ที่ภูเขาทอง วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ถือเป็นจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ระหว่างสยามกับประเทศในดินแดนพุทธภูมิ อย่างเป็นทางการ

ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ได้ทรงสานต่อพระราชปณิธานในการค้ำจุนพระพุทธศาสนาในดินแดนพุทธภูมิ ผ่านพระราชกรณียกิจสำคัญ ได้แก่ การพระราชทานแบบแปลนและพระราชวินิจฉัยการออกแบบพระมหาธาตุเฉลิมราชศรัทธาในปี 2542 ซึ่งเป็นพระมหาเจดีย์แบบไทยร่วมสมัยที่มี 9 ยอด และถวายการประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและเส้นพระเจ้า รวมถึงการพระราชทานพระบรมฉายาลักษณ์เมื่อครั้งทรงผนวชเพื่อประดิษฐานในพระอุโบสถของวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ในปี 2543 และการรับสถานพยาบาลกุสินาราคลินิก หรือโรงพยาบาลพระพุทธเจ้าไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อใช้เป็นศูนย์การแพทย์ดูแลพระสงฆ์ ชาวอินเดีย และนักแสวงบุญนานาชาติ

พระอุโบสถวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ถูกออกแบบโดย รศ.ดร.ภิญโญ สุวรรณคีรี ศิลปินแห่งชาติ มีขนาดกว้าง 8 เมตร ยาว 22 เมตร และลานประทักษิณกว้าง 12 เมตร ภายในประดิษฐานพระพุทธสยัมภูญาณ ปางสมาธิ หน้าตักกว้าง 56 นิ้ว ประดับทองคำเปลว พร้อมประติมากรรมพระสาวกสำคัญ ได้แก่ พระอานนท์ พระมหากัสสปะ พระสุภัททะ และพระอนุรุทธะ ตามพุทธประวัติคืนแห่งการปรินิพพาน

ในรัชสมัยปัจจุบันพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ได้ทรงสืบสานพระราชกรณียกิจดังกล่าว โดยเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ทรงโปรดเกล้าฯ รับโรงพยาบาลพระพุทธเจ้า ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ เพื่อส่งเสริมงานด้านการแพทย์และการธำรงพระพุทธศาสนาในดินแดนประวัติศาสตร์

ขณะนี้วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์กำลังดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารโรงพยาบาลแห่งใหม่เพื่อรองรับผู้ป่วยจำนวนมากขึ้น ทั้งแพทย์แผนปัจจุบันและแพทย์แผนไทย โดยทางวัดเปิดรับบริจาค เพื่อร่วมสมทบทุนก่อสร้างให้สำเร็จตามเจตนารมณ์ในการรับใช้พระพุทธศาสนาบนแผ่นดินแห่งปรินิพพาน อย่างไรก็ตามตนขอแผ่ส่วนกุศลให้ทุกท่านให้ได้ส่วนบุญจากการอุปสมบทในครั้งนี้ด้วย

Leave a Reply