ฝากการบ้าน “มส.” ชุดใหม่??

“ผู้เขียน” เพิ่งกลับมาจากประเทศเมียนมา เห็นภาพ “มส.” ชุดใหม่ ล้วนเป็น “พระมหาเถระ” เป็นที่เคารพบูชาของสังคมไทย  มส.บางรูปอยู่วัดเดียวกัน 3 รูปก็มี บางวัด 2 รูป  บางรูปเป็นมาแล้วนับ 20-30 ปีก็มี

“ผู้เขียน” หลายปีมานี้พยายามเสนอ “แนวคิด” ให้ “มส.” และ “เจ้าคณะภาค” มาจากต่างจังหวัดบ้าง เพื่อให้การบริหาร “กิจการคณะสงฆ์” คล่องตัว

สุดท้ายมีแต่พระ “ในกรุง” และคนในชิด “พระผู้ใหญ่” ซ้ำมีข่าวลือ “รายชื่อหลุด” เป็น “รองเจ้าคณะภาค” ชุดใหม่ที่กำลังที่ “กำลังจะคลอด” ก็มีแต่ พวกใกล้ชิดพระผู้ใหญ่ทั้งนั้น

บางรูปมี “มลทิน” และมี “ข้อครหา” พฤติกรรมย่ำแย่!!

ฟังแล้ว “อนาถใจ” ได้แต่ถอนหายใจ

ขนาดโดน “ยึดอำนาจ” ไปเกือบหมดแล้ว..ยังไม่รู้สึก..สำนึกกันสักที!!

“ผู้เขียน” อยากฝากการวัดการวาหรือภาษาที่สังคม “เข้าใจ”กันก็การบ้านให้ มส..ชุดใหม่

ประการแรก  การสร้าง “ศาสนทายาท” เข้าระบบ “องค์กรสงฆ์” ลำพัง “บ่น” ออกไมล์แล้ว แสดงความเป็น “ห่วง” ทำหน้าเศร้าเล่าความหลัง “ทำมาหมดแล้ว”  ยังเดียวไม่ได้ มันต้องทำอย่างจริงจังและมียุทธศาสตร์ แบบแผนที่ชัดเจน

ตอนนี้ คนใน “องค์กรสงฆ์” พระรุ่นใหม่ซึ่งเป็น “มดงาน” ทำงานขับเคลื่อนกิจการศาสนา  “เบื่อระบบ” ลาสิกขากันเยอะมาก

เหลือแต่ พวกไม่มีที่ไปแบบ “ทนอยู่ – อยู่ทน” ส่วนกลุ่มมุ่ง “นิพพาน” อันเป็นกลุ่มพระน้อย เว้นกล่าวถึงในบทความนี้

อันนี้ “มส.” ต้องคิดว่าทางออกควรเป็นอย่างไร

ประการที่สอง เรื่อง “ระบบการศึกษา” ของคณะสงฆ์ทั้งเรื่อง นักธรรม บาลี มุ่งเน้นให้คนมาเรียนแล้วสอบเพื่อเอา “งบประมาณ” ยังเดียวไม่ได้ “หลักสูตร” ต้องได้รับการพัฒนาให้สอดคล้องกับ “โลกสมัยใหม่” ด้วย รวมทั้งทำอย่างไร “โรงเรียนการกุศลในพระพุทธศาสนา” กว่า 160 โรงเรียนมีนักเรียนกว่า 1 แสนคน บุคลากรนับหมื่นราย ดึงมาเป็นพวก

ประการที่สาม เรื่อง คณะสงฆ์ชายแดนใต้ตอนนี้เป็นที่ “รับรู้” จากข้อมูลที่แพร่หลายอยู่แล้วว่า “พระสงฆ์ชายแดนใต้” ในพื้นที่ “ขาดแคลน” วัดร้างเพิ่มขึ้น จำนวนชาวพุทธในพื้นที่ “ร่อยหรอ” ตรงนี้ “มส.” ต้องคิดแบบ “นักบริหาร” อย่าปล่อยให้เป็นหน้าที่ “เจ้าคณะใหญ่-เจ้าคณะภาค”ยังเดียว

พลังอำนาจของ “ศาสนา” พลังอำนาจ “มส.” เป็นพลัง “ลึกลับ” หากลงมือทำ ทุกภาคส่วนพร้อมให้ความร่วมมือ

ประการที่สี่ เรื่อง “นิตยภัต-เงินเดือน” ของพระสงฆ์ บุคลากร  “จ.ศ.ป.” หรือ เจ้าหน้าที่การศึกษาพระปริยัติธรรม ทั้ง  3 แท่งคือ ครูนักธรรม บาลี และพระปริยัตินิเทศก์ เป็นไปได้อย่างไร รัฐตั้งเงินเดือนแล้ว แต่ “คนที่เกี่ยวข้อง” ไม่ยอมเซ็นอนุมัติ!!

ประกาศที่ห้า เรื่อง “ศาสนสมบัติกลาง” เรื่อง “กองทุนวัดช่วยวัด” สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ หรือ “สมเด็จชิน” ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นประธาน เวลาเกิดน้ำท่วม ไฟไหม้ ข้อมูลต้องพร้อม เงินต้องถึง เพราะมันเป็นเงินของ “ส่วนรวม” อย่าง “เงินวัดช่วยวัด” เป็นเงินของพระสงฆ์ทุกรูปที่ร่วมกับ..บริจาคจากนิตยภัตตัวเอง

ความจริงเรื่อง “กองทุนวัดช่วยวัด” มันต้องอยู่ในมือ “สมเด็จพระมหาธีราจารย์” ฝ่ายสาธารณะสงเคราะห์ด้วยซ้ำไป เพราะตรงกับภารกิจ งานช่วยเหลือวัด ช่วยเหลือพระภิกษุสามเณร

และรวมทั้ง “เงินศาสนสมบัติกลาง” ทำอย่างไรจึงจะช่วยกิจการคณะสงฆ์ อย่างได้มรรคได้ผลจริง ๆ ไอ้ความคิด “เงินต่อเงิน” คิดแบบ “เอกชน” ไม่ควรเกินคิด จนละเลยความเป็น..สงฆ์

ประการที่หก..เรื่องต่างประเทศ ที่มี “พระพรหมโมลี” เป็นประธานตั้งแต่ มส.ตั้งพระพรหมโมลี ขึ้นมาเป็นประธาน ยังไม่เคยเห็น “พระพรหมโมลี” เดินทางไปเยี่ยม “พระธรรมทูต” ต่างประเทศเลยสักครั้ง ลองไฟฟัง “ข้อมูล” บ้างว่า องค์พระธรรมทูตมีปัญหาอะไร พาสปอร์ตทำไมได้ แค่ 5 ปี หรือเวลาไปเผยแผ่ศาสนาต่างประเทศ..พระธรรมทูตมันต้องเพิ่ม “เขี้ยวเล็บ” อะไรบ้าง

ประกาศที่เจ็ด เรื่อง “พาสปอร์ต” ลดขั้นตอนลงได้หรือไม่ ตอนนี้พระส่วนใหญ่มี “บัตรสมาร์ทการ์ด” เกือบทุกรูปแล้ว ไม่จำเป็นต้องซื้อแบบฟอร์ม “ศตภ.”  300-400 บาท ไม่จำเป็นต้อง “ล่าลายเซ็นต์”  6-7 ขั้นตอน ซ้ำปล่อยให้เป็น “ช่องทาง” หากินให้เหล่า “เอเจนซี่” อีกต่างหาก

ประการที่แปด ประะภทงาน “รูทีน” วัดประชารัฐสร้างสุข,หมู่บ้านรักษาศีล 5 และหน่วยอบรมประชาชน เรื่องส่งเสริมการปฎิบัติธรรม ส่งเสริมพระวิปัสสนา  มันต้องคิดว่าทำอย่างไร จึงจะ “เข้าถึง” ประชาชนและวัดได้จริง ๆ

“ผู้เขียน” ฝากการบ้าน..ง่าย ๆ แบบนี้ ไม่มีอะไร “ซับซ้อน” ทำได้ “ทันที” ภายใต้ “อำนาจ” ของ มส. ฝากทิ้งท้าย “อีกนิด”  เรื่อง “พศ.” อย่าปล่อยให้ “คนนอก” มาจุ้นจ้านมาก  การดึง “คนนอก” เข้ามาทำงาน เข้ามาบริหาร หาก “มองบวก” มีผลดี คือมาเพื่อปัญหา “งานไม่เดิน” หรือ “รองรับ” การปรับโครงสร้างใหม่ จึงจำเป็นต้องให้ “คนนอก” เข้ามามาแก้ปัญหา

แต่การ“ล้วงลูก” มากจนเกินควรหรือนำคนของ “ตัวเอง” เข้ามา อาจทำให้คนภายใน “องค์กร” เสียขวัญและกำลังใจ สุดท้ายจะกลายเป็น “เกียร์ว่าง” และประการสุดท้าย

“ผู้เขียน” ไม่ขอพูดถึง เรื่องการดูแล “พฤติกรรมพระ” ละเมิดพระวินัย เรื่อง “เงินวัด”  เพราะตอนนี้ “ภาครัฐ” เข้าสนับสนุนสอดส่องจน “พระสังฆาธิการ” กระอักกระอ่วนถ้วนหน้ากันอยู่แล้ว และการแก้ พ.ร.บ.สงฆ์   รวมทั้งเรื่อง “สมณศักดิ์” และตำแหน่ง “เจ้าคณะปกครอง”  นับตั้งแต่เจ้าคณะภาคขึ้นไป เพราะรู้ดีว่า แท้จริงแล้ว มส.ไม่มีอำนาจ!!

 

 

ที่มาภาพ..สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

Leave a Reply