ปีใหม่.. 1 มกราคมมาจากไหน

นายจงเจริญ ส้มเกิด นักศึกษาชั้นปีที่ 3

โครงการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

 

     เทศกาลวันขึ้น “ปีใหม่” เป็นเทศกาลที่ผู้คนต่างเฉลิมฉลองให้กับศักราชใหม่ที่กำลังเริ่มต้นขึ้น พร้อมทั้งยังตั้งความหวังว่า “ขอให้ปีที่กำลังจะถึงมีแต่สิ่งดีๆ” ความหวัง ความฝัน ความสำเร็จ หลายๆเหล่านี้จะเริ่มต้นขึ้นในปีใหม่ของแต่ละปี ซึ่งหากทำความเข้าใจนั้น เราจะทราบว่าเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ของทั่วโลกนั้น มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานไม่น้อยกว่าสี่พันปี เทศกาลปีใหม่นั้นโดยส่วนใหญ่เริ่มต้นในวันที่ 31 ธันวา(วันส่งท้ายปีเก่า) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายในปฏิทิน Gregorian จนถึงเริ่มต้นในช่วงเช้าของวันที่ 1 เดือนมกราคม(วันขึ้นปีใหม่)

เริ่มแรกของการเฉลิมฉลองปีใหม่

        เทศกาลงานเฉลิมฉลองวันปีใหม่ที่ถูกบันทึกไว้ให้เป็นเกียติยศนั้น สามารถย้อนกลับไปได้ถึงสมัยบาบิโลนโบราณราวๆ 4,000 ที่แล้ว ซึ่งสำหรับชาวบาบิโลน หรือ Babylonians จะดูดวงจันทร์ดวงแรกที่ขึ้นบนท้องฟ้าในยามราตรีที่ตามหลังวสันตวิษุวัต(จุดราตรีเสมอภาคที่เมื่อดวงอาทิตย์โคจรไปถึงในราววันที่ ๒๑ มีนาคม (vernal equinox) จะทำให้เวลากลางวัน และกลางคืนเท่ากันทั่วโลก เป็นวันเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิ, คู่กับ ศารทวิษุวัต)  โดยในช่วงปลายเดือนมีนาคมเมื่อแสงแดดกับความมืดมีความเท่ากันเกิดขึ้นบนท้องฟ้า ชาวบาบิโลนจะนับว่าวันนั้นคือการเริ่มต้นปีใหม่ ซึ่งในขณะเดียวชาวบาบิโลนจะทำเครื่องหมายทางศาสนาขนาดใหญ่ที่เรียกว่า Akitu (มาจากคำ Sumerian สำหรับข้าวบาร์เลย์ซึ่งถูกตัดในฤดูใบไม้ผลิ) โดยเกี่ยวข้องกับพิธีกรรมที่แตกต่างกันในแต่ละวันซึ่งรวมแล้วมีจะมีการประกอบพิธีกรรมดังกล่าว 11 วัน นอกจากจะเฉลิมฉลองปีใหม่แล้ว พิธี Atikut ยังเป็นการฉลองชัยชนะของเหล่าเทพแห่งท้องฟ้าของชาวบาบิโลน ซึ่งเทพเหล่านั้นยังมีความหมายถึงกษัตริย์ของชาวบาบิโลนในการปกครอง


ตลอดยุคโบราณอารยธรรมทั่วโลกนั้นล้วนพัฒนารูปแบบของปฏิทินของตน ซึ่งในการออกแบบเหล่าล้วนแต่มีความซับซ้อนเพิ่มมากขึ้น โดยส่วนมากการทำปฏิทินวันแรกของปีจะเกี่ยวข้องกับเรื่องทางการเกษตรหรือเรื่องทางด้านดาราศาสตร์ อาทิ ในอียิปต์การเริ่มต้นปีจะนับด้วยเหตุการณ์น้ำท่วมประจำปี ซึ่งน้ำที่ท่วมจะท่วมจากแม่น้ำไนล์ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวยังสอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของจำนวนหมู่ดาวซิเรียสบนท้องฟ้าหรือวันแรกของปีใหม่ตามแบบจีนนั้น มักจะเกิดขึ้นพร้อมกับดวงจันทร์ใหม่ ซึ่งนับเป็นดวงที่สองหลังจากดวงจันทร์ในฤดูหนาวรู้หรือไม่?ในการจัดวางปฏิทินโรมันกับดวงอาทิตย์ จูเลียสซีซาร์ต้องเพิ่มวันอีก 90 วันพิเศษ ซึ่งในปี 46 ปีก่อนคริสต์ศักราช เมื่อจูเลียสซีซาร์แนะนำปฏิทินรูปแบบใหม่ของเขา

1 มกราคม มาจากไหน?

            ในแรกเริ่มนั้นปฏิทินโรมันตอนต้นจะมีการใส่เดือนเข้าไปด้วยกัน 10 เดือนและมี 304 วัน โดยการเริ่มต้นปีใหม่แต่ละปีในปฏิทินโรมันนั้นจะเริ่มต้นจากการเกิดวสันตวิษุวัต ซึ่ง ประเพณีปีใหม่นั้นถูกประกอบสร้างโดย Romulus (ผู้ก่อตั้งกรุงโรมในศตวรรษที่ 8 ก่อนคริสต์ศักราช ซึ่งกษัตริย์องค์ต่อมานาม Numa Pompilius ได้ทรงเพิ่มเดือนอีกสองเดือนเข้าไปในปฏิทินนั้นก็คือเดือน Januarius และ Februarius แปลไทยคือ มกราคมกับกุมภาพันธ์ ตลอดหลายศตวรรษผ่านมาปฏิทินเริ่มไม่สอดคล้องกับทางดาราศาสตร์หรือการขึ้นของดวงอาทิตย์และใน 46 ปีก่อนคริสตกาลนั้น จักรพรรดิจูเลียสซีซาร์ ทรงตัดสินพระทัยแก้ปัญหาความไม่สอดคล้องดังกล่าว โดยทรงปรึกษากับนักดาราศาสตร์และนักคณิตศาสตร์ที่มีชื่อเสียง โดยกลุ่มนักคิดเหล่านั้นได้แนะนำพระองค์ให้ใช้ปฏิทินจูเลียน ซึ่งมีความคล้ายกับปฏิทินเกรโกเรียนที่มีความสมัย โดยประเทศส่วนใหญ่ทั่วโลกใช้กันอยู่ในปัจจุบัน

            ซึ่งการปฎิรูปการใช้ปฏิทินดังกล่าว ซีซาร์จึงก่อตั้งวันที่ 1 มกราคมเป็นวันแรกของปี ซึ่งส่วนหนึ่งการก่อตั้งวันดังกล่าวในเดือนดังกล่าวก็เพื่อเป็นเกียรติแก่ชื่อของเดือนคือ Janus ซึ่งยังเป็นเทพเจ้าแห่งการเริ่มต้นของความเชื่อชาวโรมัน เทะองค์ดังกล่าวจะมีลักษณะเด่นคือ มีสองใบหน้าซึ่งสะท้อนความหมายถึงการมองโลกในอนาคตและโลกในอดีต ทั้งนี้ชาวโรมันจะเฉลิมฉลองเทศกาลดังกล่าวด้วยการถวายเครื่องบูชาแก่เทพ Janus  ซึ่งจะฉลองโดยการแลกเปลี่ยนของขวัญกันและตกบ้านให้สวยงามต้อนรับเทศกาลขึ้นปีใหม่ โดยในยุโรปยุคกลางผู้นำชาวคริสเตียนเปลี่ยนวันที่ 1 มกราคมเป็นวันแรกของปีชั่วคราว เพราะมีวันที่สำคัญทางศาสนาเพิ่มมากขึ้น อาทิ วันคริตส์มาส (วันครบรอบวันเกิดของพระเยซู)และสมเด็จพระสันตะปาปาเกรกอรีที่สิบสามสถาปนาวันที่ 1 มกราคมเป็นวันขึ้นปีใหม่ในปี 1582

            ด้วยเหตุนี้เองวันขึ้นปีใหม่จึงเป็นวันที่ 1 มกราคมของทุกปีเพราะทุกประเทศจะใช้ตามรูปแบบสากล ในประเทศไทยก็เช่นกันได้เปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่จากแต่เดิมชาวไทยถือว่า วันแรม 1 ค่ำเดือนอ้าย เป็นวันขึ้นปีใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับคติแห่งพระพุทธศาสนา ซึ่งนับเหมันตฤดูเป็นการเริ่มต้นปี ต่อมาได้มีการเปลี่ยนแปลงไปตามความเชื่อในคติพราหมณ์ คือ ถือเอาวัน ข้ึน 1 คํ่า เดือน 5 เป็นวันขึ้นปีใหม่ ซึ่งตรงกับวันสงกรานต์ ต่อมาประเทศไทยได้รับแนวคิดความเป็นสากลเข้ามา ทางราชการจึง ได้ประกาศเปลี่ยนแปลงวันข้ึนปีใหม่ เนื่องจากมีพระบรมราชโองการให้ตรา “พระราชบัญญัติปีประดิทิน พุทธศักราช 2483” ซึ่งมี หลวงวิจิตรวาทการ เป็นประธานกรรมการ ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ให้เปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่เป็นวันที่ 1 มกราคม โดยกำหนดให้วันที่ 1 มกราคม 2484 เป็น วันขึ้นปีใหม่เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน

**************************

Leave a Reply