วันที่ 23 มกราคม 2562 ดร.ณวพงศ์ธร นิติภูวนนท์ แกนนำพรรคแผ่นดินธรรม ระบุถึงกรณี พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหาร(ผบ.ทบ.) มีแนวคิดต้องการรับสมัครทหารสมัครใจบวช กระจายตามวัดในจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า อ่านข่าวพาดหัวแล้วน่าชื่นใจ ที่ผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมือง ให้ความสำคัญต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะรั้วของชาติออกมาประกาศเจตนารมณ์ในการแก้ปัญหาความไม่ปลอดภัยของพระสงฆ์ ที่ส่งผลกระทบต่อพระพุทธศาสนาในวงกว้าง
ความเป็นอดีตนักบวชเก่า เห็นข่าวปรับแผนรับมือไฟใต้ ให้ทหารบวชเป็นพระ รู้สึกอกสั่นขวัญแขวนกับแผนการนี้ หวั่นใจว่าหากแผนนี้นำไปใช้จริง เกรงจะเป็นการเพิ่มภัยให้กับพระสงฆ์ โดยสมณภาวะ พระสงฆ์เป็นภาพที่อบอุ่น เย็นใจ ปลอดภัยในสายตาชาวบ้านที่พบเห็น ปฏิบัติศาสนกิจ เช้ามืดทำวัตรสวดมนต์ ช่วงเช้าออกบิณฑบาตโปรดญาติโยม ช่วงสายศึกษาและปฏิบัติธรรม ตกค่ำทำวัตรสวดมนต์ ถือเป็นกิจวัตรโดยรวมของพระสงฆ์
ทหารกล้าคือรั้วของชาติ ด้วยภารกิจในชีวิตประจำวัน ย่อมมีความแตกต่างกับวิถีของพระสงฆ์โดยสิ้นเชิง จะให้ทหารมาปฏิบัติศาสนกิจดังกล่าวก็ใช่แนวทางของทหาร แต่ทหารในคราบผ้าเหลือง นอกจากจะไม่สามารถบำเพ็ญสมณวัตรให้เป็นสัมมาปฏิบัติได้สมบูรณ์แล้ว ยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ของพระสงฆ์เป็นที่หวาดระแวงของชาวบ้าน นำความมัวหมองมาสู่พระพุทธศาสนาอีกด้วย
เรื่องเล่าในอดีต ที่ฝ่ายบ้านเมืองขอความร่วมมือกับคณะสงฆ์ได้เคยเกิดขึ้นเหมือนกัน เช่น สมัยกรุงศรีอยุธยา ฝ่ายข้าศึกได้ส่งทหารปลอมตัวเป็นพระ ลอบเข้ามาสืบข่าวความเคลื่อนไหวในพระนคร มีการร้องให้คณะสงฆ์ไทยโกนคิ้ว เพื่อให้เกิดความแตกต่างระหว่างพระไทยกับข้าศึกที่ปลอมบวชเป็นพระ แผนนี้นับว่าได้ผล ฝ่ายบ้านเมืองก็บรรลุผลในการปกป้องประเทศ ฝ่ายสงฆ์ก็ไม่มัวหมองเพราะผิดวินัย
“แผนการของฝ่ายบ้านเมืองมี 108 วิธี แต่แผนนี้ มีแต่จะเพิ่มภัยแก่พระสงฆ์และทำให้ภาพลักษณ์พระพุทธศาสนามัวหมอง หากมีปฏิบัติการระหว่างทหารในคราบผ้าเหลือง กับโจร ภายในวัด ” ดร.ณวพงศ์ธร ระบุ
Leave a Reply