ผุดไอเดีย!ตั้งพรรคสติสมาธิ คอยเตือนสังคมไทยยุคดิจิทัล

คณะอนุ กก.ปฏิรูปสอนพุทธใน ร.ร. สังกัด สพฐ. ประชุมยกกรณีมัธยมวัดสิงห์ส่งผลกระทบเหตุสังคมขาดสติอย่างรุนแรง ผุดไอเดียตั้งชมรมครูสอนวิชาพระพุทธศาสนาเพื่อความยั่งยืน พร้อมตั้งพรรคสติสมาธิคอยเตือนสังคมไทยแห่งยุคดิจิทัล

วันที่ 27 ก.พ.2562 ที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ มีการประชุมคณะอนุกรรมการปฏิรูปการเรียนการสอบพระพุทธศาสนาในสถานศึกษาของ สพฐ. แต่ละด้านในคณะกรรมการการปฏิรูปการเรียนการสอบพระพุทธศาสนาในสถานศึกษาของ สพฐ. ซึ่งจัดโดย สพฐ.ในฐานเลขานุการ ทั้งนี้เพื่อสร้างความเข้าใจกรอบคิดการเรียนรู้ที่มีสติสมาธิเป็นฐาน กระบวนการเรียนรู้ที่มีสติสมาธิเป็นฐาน และวางแผนการดำเนินงานปฏิรูปการเรียนการสอนพระพุทธศาสนาในสถานศึกษาของ สพฐ.

ในการนี้พระมหาหรรษา ธมฺมหาโส รศ.ดร. ผู้อำนวยการวิทยาลัยพุทธศาสตร์นานาชาติและหลักสูตรสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) ในฐานะรองประธานการปฏิรูปการสอนพระพุทธศาสนาในสถานศึกษาของ สพฐ. กล่าวว่า กระบวนการเรียนรู้ที่มีสติสมาธิเป็นฐาน Process of Mindfulness & Concentration Based Learning ถือว่าเป็นทางรอดของสังคมไทย เกิดคุณูปการมากในการทำงาน แต่สิ่งสำคัญต้องทำเอาธรรมมิใช่ทำเอาเท่ห์ คณะกรรมทำงานจะต้องเข้าใจ mindset การทำงาน โดยมี #กรอบคิดการเรียนรู้ที่มีสติสมาธิเป็นฐาน :Framework of Mindfulness & Concentration Based Learning โดยมี #สติ #เมตตา #สุจริต #เคารพ #สัจจะ ซึ่งสติเป็นการรู้เท่าทันเป็นธรรมที่เป็นวิถีชีวิต เป็นธรรมที่มีความง่ายมาก สติเป็นของพระพุทธศาสนาที่มีความชัดเจน คำถามเราจะทำให้สติเข้าไปในวิถีชีวิตอย่างไร กรณีเด็กมัธยมวัดสิงห์ถูกกลุ่มบุคคลที่ขาดสติเข้าไปทำร้าย เพราะการขาดสติในการจัดการชีวิต การทำบุญจึงเป็นบาปด้านศาสนพิธีคือ งานบวช รวมถึงกรณีคบซ้อนก็เป็นส่วนหนึ่งของการขาดสติ

การเรียนรู้สติไม่ใช่การนั่งนิ่งๆ เท่านั้น แต่ควรออกแบบกิจกรรมที่มีส่วนร่วมผ่านการเคลื่อนไหว เช่น การจัดดอกไม้ การวาดภาพ การทำกิจกรรมร่วมกันโดยมีสติและสมาธิเป็นฐาน เพราะจิตของมนุษย์มีความปภัสสรสวยงาม แต่อุปกิเลสเข้ามาจึงทำให้มีความเศร้าหมอง การออกแบบกิจกรรมต้องมีสติเป็นฐาน ส่วนสมาธิเป็นผลของการฝึกสติ โดยเริ่มด้วยขณิกสมาธิ จึงย้ำว่า #วิชาพระพุทธศาสนาเป็นเรื่องอารมณ์และความรู้สึกมิใช่เรื่องเหตุผล เป็นการค้นพบจากภายใน ธรรมะไม่ได้เกิดจากความจำแต่เกิดจากวิถีชีวิต

“รวมถึง #ธรรมศึกษาของพระสงฆ์ที่เรียนในปัจจุบันเรายังเน้นเรื่องความจำ เรียนวิชาพระพุทธศาสนาต้องไม่แห้งแล้งจะต้องมีความชุ่มเย็น เราจะต้องออกแบบการสอนให้มีความน่าสนใจ เรียกว่า #เรียนวิชาพระพุทธศาสนา 50 นาทีแห่งความสุข จึงต้องมีเยาวชนมาร่วมประชาสัมพันธ์ สร้างบรรยากาศการเรียนการสอนพระพุทธศาสนา ด้วยการรับรู้ใหม่ ว่า #วิชาพระพุทธศาสนาเป็นวิชาแห่งความสุข จะต้องสื่อสารให้สังคมได้รับทราบ โดยยกกรณี อิคิวชัง เป็นต้นแบบการฝึกสติสมาธิทำให้เกิดปัญญา จึงต้องการสร้างเยาวชนต้นแบบ ด้านยุวชนสติและสมาธิ มีการมอบรางวัล #ยุวชนด้านสติและสมาธิ เป็นสร้างความเชื่อมั่นว่า วิชาพระพุทธศาสนาเป็นวิชาที่มีความสำคัญต่อชีวิต และสร้างทัศนคติที่ดีต่อวิชาพระพุทธศาสนา จึงมีการผุดไอเดียเรื่อง #การตั้งพรรคสติสมาธิเพื่อเตือนสติสังคมไทย เราจึงต้องสร้างบรรยากาศการเรียนการสอนวิชาพระพุทธศาสนาให้สังคมได้รับทราบ” พระมหาหรรษา กล่าวและว่า

ต้องมีเพลงสติสมาธิเพื่อเป็นกระตุ้นการเรียนรู้และมีคำปณิธานด้านสติสมาธิ เป็นสัจจะอธิษฐานเพื่อปลูกฝังเข้าสู่จิตใจ โดยการสอนในเด็กมัธยมเรียนรู้การคบซ้อน เราจะสอนอย่างไรให้สัมพันธ์กับสติสมาธิ เบื้องต้นเด็กจะต้องเรียนรู้เรื่องการฟังดังนั้น #กระบวนการเรียนรู้ที่มีสติสมาธิเป็นฐานมี 6 ขั้นตอน ประกอบด้วย 1)ขั้นตอนพร้อมเรียนรู้อย่างมีสติและสมาธิ 2)ขั้นปฏิบัติกิจกรรมอย่างมีสติและสมาธิ 3)ขั้นแลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่างมีสติและสมาธิ 4)ขั้นสรุปการเรียนรู้อย่างมีสติและสมาธิ 5)ขั้นประยุกต์วิถีธรรมสู่วิถีชีวิตอย่างมีสติและสมาธิ 6)ขั้นประเมินผลอย่างมีสติและสมาธิ โดย คณะกรรมการปฏิรูปกาเรียนการสอนพระพุทธศาสนาในสถานศึกษา

พระอาจารย์ปราโมทย์ วาทโกวิโท ประธานอนุกรรมการด้านการประชาสัมพันธ์การปฏิรูปการสอนพระพุทธศาสนา ที่เข้าร่วมประชุม เปิดเผยด้วยว่า ที่ประชุมยกกรณีการบุกโรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ ถือว่าเป็นการไม่เคารพสถานที่อันเป็นที่ของราชการ เช่น วัด และ โรงเรียน กำลังสะท้อนถึงการขาดสติขาดความเคารพ แต่มีเรื่องอบายมุขเป็นเหตุให้ขาดสตินำไปสู่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยทางคณะกรรมการปฏิรูปการสอนพระพุทธศาสนาให้ความสนใจและตระหนักเป็นอย่างยิ่ง เพื่อออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอนที่ตอบโจทย์สังคมที่มีปัญหาด้านคุณธรรมด้วย โจทย์สำคัญการวัดผลประเมินผลการสอนวิชาพระพุทธศาสนาคือ ผลการปฏิบัติ เพราะความโลภโกรธหลงมาในระดับดิจิทัลอย่างรวดเร็ว ทำให้ ศ.ดร. บรรจบ บรรณรุจิ รองประธานอนุกรรมการด้านหลักสูตร เสนอแนวทางการตั้งชมรมครูสอนวิชาพระพุทธศาสนา ให้เกิดขึ้นเพื่อความยั่งยืน จึงมีการปฏิรูปการสอนพระพุทธศาสนา จากวิถีพุทธสู่วิถีชีวิตเพื่อพัฒนาคุณธรรมอย่างยั่งยืน ต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันนี้พรรคการเมืองที่มีสโลแกนชู”ศีลธรรมนำชาติ”คือพรรคแผ่นดินธรรม ที่เสนอศ.ดร. บรรจบเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี

Leave a Reply