วันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2563 สมเด็จพระมหาธีราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคมและเจ้าอาวาสวัดยานนาวา ประธานฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ของมหาเถรสมาคม ประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ กล่าวว่า ไทยและหลายประเทศทั่วโลกตกอยู่ในภาวะวิกฤติ จากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา หรือ โควิด-19 หลักธรรมที่ควรนำมาปฏิบัติ คือ ทาน ศีล ภาวนา ถือเป็นหลักป้องกันด้วยความรู้รักสามัคคี
1.ทาน คือ การให้วัตถุสิ่งของ ความรู้ สติ ปัญญา เช่น การประกอบอาชีพอาจต้องปรับเปลี่ยนอย่างกะทันหัน หากช่วยเหลือกันได้ก็ร่วมกัน 2.ศีล คือการการประพฤติชอบด้วยกาย วาจา ขอให้ร่วมมือและปฏิบัติตามคำแนะนำของภาครัฐอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยทั้งตนเองและผู้อื่น
3.ภาวนา คือ พัฒนาจิตใจด้วยสติปัญญาใช้เหตุผลอย่างรอบด้าน ดูแลสุขภาพ และป้องกันตนเอง จงมีสติเพราะจะช่วยให้ไม่ตระหนก แต่เกิดความตระหนักในการดำเนินชีวิตกับภาวะวิกฤติ ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใด ขอเพียงน้อมนำคำสอนของศาสนานั้นๆ มาปรับใช้ ศาสนิกชนทุกศาสนาย่อมได้รับประโยชน์อย่างแน่นอน
“ท่ามกลางสถานการณ์โรคระบาด จงเผชิญหน้ากับความกลัวด้วยสติ ใช้ปัญญาบำบัดความทุกข์ เพราะเราต้องอยู่ด้วยกันในบ้านเมืองของเรา เราจะไม่ทิ้งกัน ขอคนไทยทุกคนจงเป็นผู้กล้าหาญ ละความเห็นแก่ตัว หันหน้าสามัคคีปฏิบัติตามคำแนะนำของบุคลากรสาธารณสุขและภาครัฐ ยามนี้สังคมต้องการความเห็นที่เป็นประโยชน์ ต้องการกำลังใจ หยุดการสร้างความร้าวฉานชิงชัง จงประพฤติตนเป็นบัณฑิต รู้รักษากายใจให้พ้นจากโรคภัย ความทุกข์ยากที่เราเผชิญอยู่ ย่อมผ่านพ้นได้ในไม่ช้า” สมเด็จพระมหาธีราจารย์กล่าว
ดร.ประกาศิต กายะสิทธิ์ รองผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และรักษาการผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะองค์กร กล่าวว่า ในภาวการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 สสส. ส่งเสริมให้พื้นที่วัดดำเนินการป้องกันไวรัสโควิด-19 ตามมติมหาเถรสมาคมที่ 158/2563 และตามประกาศป้องกันสำหรับสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งจัดทำชุดความรู้ที่เหมาะสมสำหรับพระสงฆ์ เพื่อให้ความรู้และป้องกัน ภายใต้โครงการสงฆ์ไทยไกลโรค สสส. สนับสนุนให้พระสงฆ์มีบทบาทสำคัญ ในการเป็นผู้นำสังคมด้านสุขภาวะ ผลักดันให้วัดเป็นศูนย์กลางในการจัดการดูแลสุขภาพ รวมถึงจัดสภาพแวดล้อมของวัดให้เอื้อต่อการส่งเสริมสุขภาพด้วย
Cr.https://www.banmuang.co.th/news/bangkok/186332
Leave a Reply