วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2567 เมื่อวันมาฆบูชา (24 ก.พ.67) ที่ผ่านมาพระอาจารย์เมี่ยวจื่อ (Ven. Miao Zhi) และคณะพระภิกษุ ภิกษุณี เจ้าอาวาสและผู้ดูแลวัดสาขาต่าง ๆ จากมณฑลฝูเจี้ยนและมณฑลเหอหนาน ประเทศจีน เข้าถวายสักการะอดีตพระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขญาโณ) ที่กุฎิวัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร ด้วยคุณวิคกี้ (Vicky) เจ้าหน้าที่ประจำวัดหนานซาน (Nanshan temple) หรือวัดเจ้าแม่กวนอิม เมืองซานย่า (Sanya) มณฑลไหหลำ ได้พาคณะภิกษุและภิกษุณีจากประเทศจีนที่มาเยือนประเทศไทย เข้าถวายสักการะอดีตพระพรหมสิทธิ ด้วยทราบว่า อดีตพระพรหมสิทธิ ในอดีตเคยเดินทางไปประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์สร้างวิทยาลัยสงฆ์ที่เมืองซานย่า และมีความผูกพันในการทำงานศาสนสัมพันธ์ร่วมกับคณะสงฆ์มหายานมานาน เป็นผู้มีความเข้าใจและรู้จักคณะสงฆ์มหายานเป็นอย่างดี จึงมีความประสงค์ขอเข้าพบเพื่อสานสัมพันธ์ให้คณะสงฆ์ที่มาได้รู้จักอดีตพระพรหมสิทธิ ในการเผยแผ่พุทธศาสนาสืบต่อต่อไป

อดีตพระพรหมสิทธิ ได้สนทนาแลกเปลี่ยนธรรมปฏิบัติกับพระอาจารย์เมี่ยวจื่อ และเจ้าอาวาสจากวัดต่าง ๆ ซึ่งล้วนเป็นวัดที่มีความสำคัญของจีน และแต่ละรูปก็ล้วนเป็นเจ้าอาวาสที่มีบทบาทในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาอย่างยาวนาน อดีตพระพรหมสิทธิได้เล่าถึงงานต่าง ๆ ที่ทำร่วมกับคณะสงฆ์มหายาน และความผูกพันของวัดสระเกศกับคณะสงฆ์มหายานในประเทศจีนตั้งแต่สมัยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสณมหาเถระ) อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร พระอาจารย์เมี่ยวจื่อมีท่าทีตื่นเต้นมากเมื่อได้ยินชื่อพระธรรมาจารย์เปิ่นฮวน (Ven. Ben Huan) ว่าเป็นสหธรรมิกของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสณมหาเถระ) โดยได้กล่าวว่าพระธรรมาจารย์เปิ่นฮวน เป็นพระอาจารย์ผู้ให้ศีลตนตอนบวช เมื่อทราบต่อไปว่าอดีตพระพรหมสิทธิได้รับการยอมรับจากพระธรรมาจารย์เปิ่นฮวนยกเป็นลูกบุญธรรม พระอาจารย์เมี่ยวจื่อจึงกล่าวกับอดีตพระพรหมสิทธิด้วยความดีใจว่า พวกเราถือว่าเป็นศิษย์สายธรรมเดียวกัน ทำให้การสนทนามีความอบอุ่น ผูกพันแน่นแฟ้นขึ้นไปอีก จึงเป็นเรื่องอัศจรรย์ของคณะสงฆ์ทั้งสองว่าเป็นการพบกันของสายธรรมโดยมิได้ทราบหรือนัดหมายมาก่อน ซึ่งตรงกับวันมาฆบูชาพอดี

พระอาจารย์เมี่ยวจื่อกล่าวตอนหนึ่งว่า พระสงฆ์เถรวาทและมหายานก็คือครอบครัวเดียวกัน เป็นครอบครัวของพระพุทธเจ้า และมุ่งทำตามอย่างที่พระพุทธเจ้าทรงสอนเพื่อประโยชน์สุขของโลก
ด้าน อดีตพระพรหมสิทธิก็ได้กล่าวตอบว่า พระพุทธศาสนาเป็นเสมือนต้นโพธิ์ต้นใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านสาขาออกไปมากมาย เปรียบเหมือนคณะสงฆ์นิกายต่าง ๆ แต่กิ่งก้านใบทั้งหมดก็ล้วนให้ร่มเงา นำความร่มเย็นแก่ผู้มาอาศัยทั้งสิ้น เพราะมีคำสอนแก่นกลางขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่มั่นคงแข็งแรง..

บรรยากาศการสนทนาระหว่างพระอาจารย์เมี่ยวจื่อ และคณะพร้อมด้วยอดีตพระพรหมสิทธิ เป็นไปด้วยกัลยาณมิตร เข้าใจกันและกัน มีความเคารพนับถือด้วยกันทั้งสองฝ่าย ซึ่งพระอาจารย์เมี่ยวจื่อขอนิมนต์พระพรหมสิทธิให้เดินทางไปที่ประเทศจีนเพื่อวางแนวทางความร่วมมือที่จะเกิดขึ้นต่อไปด้วย จากนั้นอดีตพระพรหมสิทธิได้มอบหมายให้ลูกศิษย์นำคณะสงฆ์จีนเดินขึ้นพระบรมบรรพต (ภูเขาทอง) เพื่อนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ และชมพระอาทิตย์ตกดินก่อนเดินทางกลับ


Leave a Reply