“สมเด็จพระมหาธีราจารย์” มอบพัดแก่พระภิกษุผู้ทรงพระปาฎิโมกข์และมอบรางวัลศากยบุตรสามเณรสีหะแก่สามเณร

วันที่  ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ณ มหาวชิราลงกรณบาลีเถรวาทราชวิทยาลัย อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม สมเด็จพระมหาธีราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม ได้เดินทางไปเป็นประธานมอบพัดพระผู้ทรงจำมหากัจจายนสูตรและทรงจำสอบพระปาติโมกข์รุ่นที่ ๑ และมอบรางวัลศากยบุตรสามเณรสีหะที่สามารถทรงจำกัจจายนสูตร และสอบผ่านนักธรรมประจำปีการศึกษา ๒๕๖๖  และกล่าวสัมโมทนียกถาปิดโครงการเสริมสร้างศักยภาพพระสงฆ์เพื่อความรอบรู้พระวินัยปิฎกและสอบสวดภิกขุปาติโมกข์   ประจำปี ๒๕๖๖ โดยมีพระธรรมวชิราจารย์ ผู้อำนวยการมหาวชิราลงกรณบาลีเถรวาทราชวิทยาลัย  พลอากาศตรี สุพิชัย สุนทรบุระ รองเลขาธิการพระราชวัง พร้อมผู้บริหาร ข้าราชการถวายการต้อนรับ

สมเด็จพระมหาธีราจารย์ ได้กล่าวใจความสำคัญตอนหนึ่งว่าท่านทั้งหลายล้วนมีปีติโสมนัสและความเข้าใจประจักษ์ชัดว่า พระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ ทรงให้ความสำคัญและอุปถัมภ์พระพุทธศาสนาตลอดมา สมเด็จบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้า พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ มีพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้น พระองค์ทรงมีพระราชปณิธานอันแน่วแน่ในการทรงงานเพื่อจะสืบสาน รักษา และต่อยอด โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อความอยู่ดีมีสุข ของพสกนิกร พร้อมเสริมสร้างความมั่นคงและความวัฒนาสถาพรให้กับประเทศชาติ ในมงคลโอกาสนี้ ขอนำสารัตถธรรม มาประกาศอนุโมทนาสาธุการแก่ทุกท่าน ทั้งบรรพชิตและคฤหัสถ์ที่ร่วมกันส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพพระสงฆ์สมเด็จพระบรมศาสดา ทรงมีพุทธดำรัสว่าความตอนหนึ่งในมงคลสูตร ว่า “ วินะโย จะ สุสิกขิโต” ซึ่งแปลว่า วินัยหรือพุทธบัญญัติ ที่ศึกษาดีแล้ว ชื่อว่าเป็นมงคลอย่างสูงสุด คือเป็นประโยชน์ เพื่อให้เข้าถึงเป้าหมายสูงสุด ในพระพุทธศาสนา คือพระนิพพานได้ การที่ท่านทั้งหลาย ได้เข้าร่วมโครงการ เสริมสร้างศักยภาพพระสงฆ์ เพื่อความรอบรู้พระวินัยปิฎก สอบทานภิกขุปาติโมกข์ และสอบทรงจำ คัมภีร์มหากัจจายนะสูตรเพื่อเพิ่มพูน และทบทวนความรู้ เกี่ยวกับพระวินัย ย่อมชื่อว่าเป็นผู้เอื้อเฟื้อต่อพระวินัย โดยเฉพาะภิกขุปาติโมกข์ ซึ่งเป็นพุทธบัญญัติ โดยตรงสำหรับภิกษุ พระปาติโมกข์นั้น ท่านเรียกว่า เชฏฐะกะศีล คือศีล ที่เจริญ เรียกว่า อุตตะมะศีล คือศีลสูงสุด ผู้ที่สำรวมในปาติโมกข์นั้น ย่อมพ้นจากภัยคือทุคติ พระพุทธศาสนาของเรา ตั้งมั่นยืนยาวอยู่ได้ ก็เพราะมีการบัญญัติสิกขาบท

ดังนั้น ท่านที่สามารถทรงจำสิกขาบทไว้ได้ นับว่าเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีส่วนรักษาพระศาสนา ให้มั่นคงสถาพร  ในส่วนของผู้ทรงจำ คัมภีร์มหากัจจายนะสูตรได้นั้นถือว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ต่อการศึกษาพระไตรปิฎก เพราะจะทำให้เข้าใจ ในบทพระบาลี ได้แจ่มชัดยิ่งขึ้น”

สำหรับโครงการเสริมสร้างศักยภาพพระสงฆ์เพื่อความรอบรู้พระวินัยปิฎกและสอบสวดพระภิกขุปาติโมกข์ และมหากัจจายนสูตร  ได้ดำเนินกิจกรรมต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๖๖ มีพระสงฆ์สมัครเข้าโครงการและจำพรรษา จำนวน ๒๔ รูป สามเณร ๕๗ รูป รวม ๘๑ รูป

ในปีพุทธศักราช ๒๕๖๗ ซึ่งเป็นปีมหามงคล ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๗๒ พรรษา มหาวชิราลงกรณบาลีเถรวาทราชวิทยาลัย จึงกำหนดจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติตลอดปี โดยเริ่มจากโครงการเสริมสร้างศักยภาพพระสงฆ์เพื่อความรอบรู้พระวินัยปิฎกและสอบสวดพระภิกขุปาติโมกข์ และมหากัจจายนสูตร ระหว่างวันที่ ๒๖ มกราคม – ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ เป็นเวลา ๗ วัน มีพระสงฆ์ และสามเณรเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น ๑๗๖ รูป ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ โปรดพระราชทานภัตตาหารเพล ตลอดทั้ง ๗ วัน

Leave a Reply