เมื่อเวลา 13.20 น.วันที่ 5 มิถุนายน 2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตนได้ประชุมหารือกับ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงบประมาณ เรื่องการเยียวยาพระสงฆ์ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยตนได้เสนอว่าอยากจะช่วยเยียวยาพระสงฆ์วันละ 60 บาทต่อรูป ซึ่งจะส่งเงินไปให้วัดแต่ละแห่งเป็นผู้บริหารเงิน ยกตัวอย่างเช่น วัดนี้มีพระสงฆ์ 10 รูป วัดก็จะได้รับเงิน 600 บาท เบื้องต้นจะจ่ายเงินให้ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน ถึงมิถุนายน รวม 3 เดือน หรือ 91 วัน
นายเทวัญ กล่าวต่อว่า ส่วนเงินจำนวน 50,000 บาท ที่ให้จ่ายแยกนั้น เป็นเงินของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ที่จัดสรรเงินจากเงินงบประมาณพัฒนาบุคคล ที่มีอยู่ 22 ล้านบาท เช่น งบอบรม สัมมนา ดูงานต่างจังหวัด หรือต่างประเทศ ซึ่งไม่ได้ใช้แล้ว จึงนำเงินส่วนนี้มาช่วยวัดทั่วประเทศได้ 9,000 วัด จากวัดทั้งหมด 4 หมื่นกว่าวัด ทั้งนี้ สามารถช่วยได้เพียงเดือนเดียว อีกส่วนคือเงินกองทุนวัดช่วยวัด ที่พระสนับสนุนกันเอง
เตือนประชาชนอย่าประมาท ย้ำใช้ชีวิต New Normal อย่างมีสติ
ทั้งนี้นายเทวัญได้เปิดโอกาสให้นายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานสภาธุรกิจไทย-จีน นำคณะสมาคมผู้ประกอบการจีน-อาเซียน เข้าพบเพื่อมอบหน้ากากอนามัย จำนวน 100,000 ชิ้น ให้แก่สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อส่งมอบให้ยังบุคคลากรผู้ปฏิบัติหน้าที่ และประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในประเทศไทย ที่แม้ปัจจุบันจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่จะลดลง แต่สถานการณ์ก็ยังคงน่าเป็นห่วง
จากนั้น เวลา 14.00 น. รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในนามประธานผู้เข้าอบรมหลักสูตรนักบริหารระดับสูงด้านการพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมและการลงทุน (วธอ.) รุ่นที่ 3 ได้นำชุดอุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยส่วนบุคคล หรือ PPE (Personal Protective Equipment) จำนวน 250 ชุด และหน้ากากอนามัย N95 จำนวน 600 ชิ้น รวมเป็นเงินมูลค่า 500,000 บาท มอบให้ นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรทางการแพทย์ และแจกจ่ายให้ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ปัจจุบันสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย พบปริมาณผู้ติดเชื้อลดลง ซึ่งส่วนมากเป็นกลุ่มผู้ที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ และพักอยู่ในสถานที่ที่ภาครัฐจัดอำนวยความสะดวกให้ หรือ State Quarantine ขณะที่ประเทศไทยอยู่ในภาวะมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 3 แต่อย่างไรก็ตามขอให้ประชาชนทุกคนยังคงปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด โดยสวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่อยู่ในที่ชุมชน รักษาการเว้นระยะห่าง และหมั่นล้างมือเป็นประจำ ตามรูปแบบการดำเนินชีวิตความปรกติใหม่ หรือ New normal และแนะนำให้ใช้ชีวิตประจำวันด้วยความมีสติ
Leave a Reply